“ชาต้าหงเผา” ราชาแห่งชาจีนกับการพัฒนาเศรษฐกิจของมณฑลฝูเจี้ยน
18 Dec 2019โดยศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเซี่ยเหมิน
ภูเขาอู่อี๋ซาน ต้นชาต้าหงเผาแม่พันธุ์ 6 ต้น
ใบชาต้าหงเผา (Dahongpao) นับเป็นสินค้าเกษตรที่สร้างรายได้หลักของมณฑลฝูเจี้ยนชาต้าหงเผาจัดอยู่ในประเภทชาอู่หลง (Oolong Tea) โดยมณฑลฝูเจี้ยนขึ้นชื่อว่าเป็น “แหล่งกำเนิดของชาอู่หลง” ชาประเภท อู่หลงเป็นชาจีนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,000 ปีนับตั้งแต่สมัยราชวงค์ฮั่น และถูกแบ่งออกเป็น 5 ชนิดหลัก ได้แก่ ชาต้าหงเผา ชาเถี่ยกวนอิน ชาสุยเซียน ชาหล่อฮั่นเฉินเซียง และชาแดง “ชาต้าหงเผา” ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ราชาแห่งชาจีน” โดยถูกขยายพันธุ์จากต้นชาแม่พันธุ์ 6 ต้นที่มีอายุกว่า 350 ปีที่ขึ้นในบริเวณภูเขาอู่อี๋ซานของมณฑลฝูเจี้ยน ในแต่ละปี ผลผลิตใบชาต้าหงเผาจากต้นแม่พันธุ์ทั้ง 6 ต้นดังกล่าวมีเพียงไม่ถึง 100 กรัมเท่านั้น เมื่อปี 2546 บริษัทประกันชีวิตประชาชนแห่งชาติจีนสาขาอู่อี๋ซานกับรัฐบาลเมืองอู่อี๋ซานได้ทำประกันชีวิตให้กับต้นชาแม่พันธุ์ทั้ง 6 ต้นนี้ในฐานะต้นกำเนิดแห่งวัฒนธรรมชาต้าหงเผาด้วยทุนประกันสูงถึง 100 ล้านหยวน และต่อมาในปี 2547 ผลผลิตใบชาต้าหงเผาจากต้นแม่พันธุ์จำนวน 20 กรัมถูกนำขึ้นประมูล โดยนายหวางอี้ ชาวจีน-อเมริกัน ได้ชนะการประมูลใบชาที่ราคาสูงสุด 208,000 เหรียญสหรัฐ นับเป็นการซื้อขายใบชาที่แพงที่สุดในโลก กล่าวคือ กิโลกรัมละ 10.4 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปัจจุบันทางการจีนจัดให้มีตำรวจเฝ้ารักษาความปลอดภัยต้นชาต้าหงเผาแม่พันธุ์นี้ตลอด 24 ชั่วโมงและในช่วงก่อนปี 2549 ผลผลิตใบชาจากต้นแม่พันธุ์ทั้งหมดจะถูกจัดส่งให้แก่รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนเพื่อนำส่งรัฐบาลกลางสำหรับมอบเป็นของขวัญทางวัฒนธรรมให้แก่แขกระดับสูงจากต่างประเทศ เช่น ในปี 2548 รัฐบาลเมืองอู่อี๋ซานส่งมอบผลผลิตใบชาต้าหงเผาจากต้นชาแม่พันธุ์จำนวน 20 กรัม ให้แก่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีนที่กรุงปักกิ่งเพื่อการเก็บรักษาอย่างเป็นทางการ ซึ่งนับเป็นใบชาชนิดแรกที่ถูกเก็บสะสมไว้ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติจีน ต่อมาในปี 2549 รัฐบาลฝูเจี้ยนออกนโยบาย “ถิงไฉ่หลิวหยัง” คือการยกเลิกเก็บใบชาจากต้นแม่พันธุ์ดังกล่าวเพื่อให้ต้นชาทั้ง 6 ต้นได้พักฟื้นฟูความแข็งแรงในส่วนของลำต้น รวมทั้งรักษาสภาพที่มีเอกลักษณ์และคุณสมบัติที่ดีของต้นแม่พันธุ์ นอกจากนี้ รัฐบาลมณฑลฝูเจี้ยนได้จัดตั้งศูนย์วิจัยทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับใบชาต้าหงเผาอู่อี๋ซาน เพื่อนำไปขยายพันธุ์ในบริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ ในปี 2556 ต้นชาต้าหงเผาแม่พันธุ์ทั้ง 6 ต้นนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมและมรดกโลกทางธรรมชาติโดย UNESCO
ปัจจุบัน จีนส่งออกใบชาไปยังกว่า 150 ประเทศและพื้นที่ทั่วโลก โดยประเทศที่จีนส่งออกใบชาปริมาณสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ โมร็อกโก อุซเบกิสถาน เซเนกัล สหรัฐอเมริกา รัสเซีย กานา แอลจีเรีย โตโก ญี่ปุ่น และเยอรมนี และประเทศที่สร้างรายได้จากใบชาแก่จีนมากที่สุดใน 10 อันดับแรก ได้แก่ โมร็อกโก เวียดนาม สหรัฐอเมริกา มาเลเซีย เซเนกัล กานา โตโก มอริเตเนีย ญี่ปุ่น และแอลจีเรีย ขณะที่จีนส่งออกใบชาไปยังประเทศไทยจำนวน 5,757,117 กิโลกรัมต่อปี อยู่ในอันดับที่ 17 ของโลก และประเทศไทยสร้างรายได้จากใบชาแก่จีนกว่า 29 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี อยู่ในอันดับที่ 18 ของโลก ทั้งนี้ ในปี 2561 มีชาวจีนที่บริโภคชากว่า 486 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 จากปีก่อนหน้า โดยแบ่งเป็นชาวเขตชนบทกว่า 170 ล้านคน และชาวเมืองกว่า 316 ล้านคน โดยในปี 2560 ทั่วประเทศจีนมีพื้นที่การเพาะปลูกชากว่า 19 ล้านไร่ และมีปริมาณการผลิตใบชาประมาณ 2.61 ล้านตัน
มณฑลฝูเจี้ยนเป็น 1 ใน 18 แหล่งอุตสาหกรรมใบชาขนาดใหญ่ของจีน โดยในปี 2561 ฝูเจี้ยนมีพื้นที่การปลูกชากว่า 1.3 ล้านไร่ อยู่ในอันดับ 5 ของจีน เนื่องจากมีข้อได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์และสิ่งแวดล้อมที่ดี เช่น การมีอัตราพื้นที่ป่าไม้สูงถึงร้อยละ 62 ของพื้นที่ทั้งมณฑล ซึ่งสูงเป็นอันดับ 1 ของจีนติดต่อกัน 40 ปี การมีคุณภาพอากาศที่ดีติด 5 อันดับแรกของจีน รวมทั้งการมีเนื้อดินที่เหมาะสมแก่การเพาะปลูกและการถูกกำหนดเป็นพื้นที่นำร่องการพัฒนาสิ่งแวดล้อมทางนิเวศแห่งชาติแห่งแรกของจีน ทั้งนี้ มณฑลอื่นของจีนที่มีพื้นที่ปลูกชาปริมาณมากเป็นอันดับต้น ๆ ได้แก่ กุ้ยโจว (2.9 ล้านไร่) ยูนนาน (2.8 ล้านไร่) เสฉวน (2.3 ล้านไร่) หูเป่ย (1.9 ล้านไร่) เจ้อเจียง (1.23 ล้านไร่) และหูหนาน (1.1 ล้านไร่) เป็นต้น ฝูเจี้ยนเป็นมณฑลที่มีปริมาณผลผลิตใบชาสูงเป็นอันดับ 2 ของจีนรองจากมณฑลกุ้ยโจว โดยมีผลผลิตชาทั้งหมด 401,600 ตันต่อปี มีมูลค่ารวม 25,736 ล้านหยวน และฝูเจี้ยนส่งออกใบชาทั้งหมด 24,100 ตันต่อปี ติดอันดับ 4 ของจีน รองจากเจ้อเจียง (168,500 ตัน) อันฮุย (59,200 ตัน) และหูหนาน (32,400 ตัน) ส่วนเจียงซีส่งออกปริมาณชาทั้งหมด 13,400 ตัน ติดอันดับ 5 ของจีน ใบชาของฝูเจี้ยนที่ส่งออกไปต่างประเทศมีราคาเฉลี่ยกิโลกรัมละ 14.36 เหรียญสหรัฐ โดยตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ สเปน อังกฤษ สหรัฐอเมริกา ไทย แอฟริกา และมาเลเซีย เป็นต้น โดยญี่ปุ่นเป็นตลาดต่างประเทศสำคัญที่สุด ครองสัดส่วนร้อยละ 65 ของปริมาณการส่งออกชาทั้งหมดของมณฑลฝูเจี้ยน ทั้งนี้ ชนิดของชาที่ฝูเจี้ยนส่งออกไปยังแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน เช่น ชาอู่หลงสำหรับตลาดญี่ปุ่น สิงคโปร์และไทย ชาแดงสำหรับตลาดอังกฤษ ชาขาวสำหรับตลาดเยอรมนี และชาเขียวสำหรับตลาดแอฟริกา นอกจากชาที่ผลิตจากเมืองอู่อี๋ซานที่มีชื่อเสียงทั้งในจีนและต่างประเทศแล้ว เมืองหนิงเต๋อเป็นอีกหนึ่งเมืองของมณฑล ฝูเจี้ยนที่ผลิตใบชาเพื่อการส่งออกสู่ต่างประเทศมากที่สุด โดยมีบริษัทประกอบธุรกิจชากว่า 700 ราย และมีแรงงานอยู่ในอุตสาหกรรมชากว่า 420,000 คน
แผนผังการก่อสร้างตำบลการท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมชา พื้นที่ไร่ปลูกชาต้าหงเผาที่ตอนจากต้นแม่ 6 ต้น
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ฝูเจี้ยนได้ออกนโยบายต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมใบชาอย่างต่อเนื่อง เช่น ในปี 2551 เมืองจางผิงของฝูเจี้ยนได้สร้างนิคมอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนาธุรกิจและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมชาระหว่างจีนแผ่นดินใหญ่กับไต้หวัน โดยนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวครอบคลุมพื้นที่การปลูกชาประมาณ 22,917 ไร่ และมีบริษัทประกอบธุรกิจด้านใบชา 48 แห่ง และมีนักธุรกิจไต้หวันกว่า 500 คนทำงานภายในนิคมดังกล่าว นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา รัฐบาลฝูเจี้ยนมอบเงินอุดหนุน 5 แสนหยวนให้แก่ผู้ประกอบการซึ่งเพาะพันธุ์ต้นชาที่ได้รับรางวัลคุณภาพดีระดับประเทศ และ 3 แสนหยวนสำหรับพันธุ์ต้นชาที่ได้รับรางวัลคุณภาพดีระดับมณฑล และออกนโยบาย “6+1” กล่าวคือรูปแบบการผลิตใบชาที่บูรณาการ “การเพาะปลูก การปลูกหญ้า การระบายน้ำ การใช้ปุ๋ย การปรับสภาพดิน การสร้างถนน บวกการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” เพื่อยกระดับคุณภาพของใบชาให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เมืองอู่อี๋ซานได้เริ่มการก่อสร้าง “เมืองแห่งการท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมชา” โดยใช้งบประมาณการก่อสร้าง 15,000 ล้านหยวน และมีเป้าหมายจะขยายพื้นที่การปลูกชาถึง 1.6 ล้านไร่ภายในปี 2564
*******
อ้างอิง เว็บไซต์ใบชาต้าหงเผา https://www.dhpao.com/
ใบชาฝูเจี้ยน https://fjtea.cn/News/detail/id/36701.html
สมาคมการแลกเปลี่ยนชาแห่งชาติจีน https://www.ctma.com.cn/
สถาบันวิจัย Forward-the economist https://www.qianzhan.com/analyst/detail/220/191010-d4f8b7c6.html
หนังสือพิมพ์อาหารแห่งประเทศจีน http://www.cnfood.cn/toutiao138170.html
กรมการเกษตรฝูเจี้ยน http://nynct.fujian.gov.cn/xxgk/gzdt/qsnyxxlb/nd/201608/t20160823_2558381.htm