สนามบินไป๋หยุนจับมือสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกว่างโจว ยกระดับการให้บริการ รับมือนักท่องเที่ยวเพิ่ม
9 Mar 2017สนามบินนานาชาติไป๋หยุนร่วมกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองนครกว่างโจว เปิดให้บริการพื้นที่ตรวจผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศพื้นที่ใหม่ โดยเปิดทดลองให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ที่ผ่านมา ด้วยเที่ยวบิน CZ372 จากเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม โดยสารการบิน China Southern Airline พื้นที่ให้บริการดังกล่าวเริ่มปรับปรุงมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ซึ่งหลังจากโครงการขยายพื้นที่ให้บริการของด่านตรวจคนเข้าเมืองให้กว้างขวางเสร็จสิ้น ก็ถือว่าได้ยกระดับการบริการผู้โดยสารของสนามบินนานาชาติไป๋หยุน เพื่อรองรับผู้โดยสารขาเข้าจากต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
พื้นที่ให้บริการดังกล่าวติดกับทางเดินผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศด้านตะวันออกของสนามบินไป๋หยุน มีพื้นที่ทั้งหมด 5,800 ตารางเมตร โดยแบ่งพื้นที่ราว 2000 ตารางเมตรเป็นพื้นที่ให้บริการทั่วไปสำหรับผู้โดยสาร มีช่องทางสำหรับด่านควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรค 6 ช่อง ด่านควบคุมคนเข้าเมือง 8 ช่องทาง ช่องทางอัตโนมัต 10 ช่องทาง ช่องตรวจคนเข้าเมืองจากเดิม 67 ช่อง เพิ่มเป็น 85 ช่อง (ช่องตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัต 25 ช่อง ช่องชั่วโมงเร่งด่วน 4 ช่อง ช่องทางผ่านด่านฯ ขาออกชั่วโมงเร่งด่วน 8 ช่องทาง) โดยช่องทางอำนวยความสะดวกดังกล่าวจะช่วยบรรเทาสถานการณ์อันคับคั่งของผู้โดยสารที่หลั่งไหลผ่านสนามบินไป๋หยุน ก่อนที่อาคารผู้โดยสารแห่งที่สองจะเสร็จสิ้นในปี 2561
ในปี 2559 สนามบินนานาชาติไป๋หยุนรับรองผู้โดยสารกว่า 13.58 ล้านเที่ยวคน โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.5 มีผู้โดยสารใช้บริการมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ ปัจจุบันดำเนินโครงการฟรีวีซ่าเปลี่ยนเครื่อง 24 ชั่วโมง[1] (Free Transit Visa 24 hours) และโครงการฟรีวีซ่าเปลี่ยนเครื่อง 72 ชั่วโมง[2] (72-hour Transit Visa) สำหรับอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารจากทั่วโลก โดยในปี 2559 สภาสมาคมท่าอากาศยานระหว่างประเทศ[3] (THE AIRPORTS COUNCIL INTERNATIONAL：ACI) ประกาศ ให้ท่าอากาศยานไป๋หยุน นครกว่างโจว เป็นสนามบินในภูมิภาคเอเชีย -แปซิฟิก ที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาค ท่าอากาศยานไป๋หยุน ปรับปรุงและพัฒนาศักยภาพอย่างไม่อยุดยั้ง ซึ่งไม่เพียงต้องการเป็นแค่ฮับของการเดินทางทางอากาศที่สำคัญของจีนตอนใต้เท่านั้น แต่ในอนาคตจะกลายเป็นศูนย์ขนส่งและจำหน่ายสินค้าที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจีน
[1] วีซ่าประเภทเดินทางผ่านราชอาณาจักร (Transit Visa) สำหรับชาวต่างชาติที่ถือตั๋วเครื่องบินแบบต่อเนื่องและระบุที่นั่ง ซึ่งโดยสารมากับเที่ยวบินนานาชาติและผ่านแดนโดยตรงจากประเทศจีน โดยแวะพักผ่านแดนที่ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้หรือกว่างโจว ไม่เกิน 24 ชั่วโมง และไม่ออกจากสนามบิน จะได้รับยกเว้นการขอวีซ่าจีน
[2] วีซ่าประเภทผู้เดินทางผ่านราชอาณาจักร สามารถเข้าพักอาศัยชั่วคราวเป็นเวลา 72 ชั่วโมง หรือ 3 วันสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางจาก 51 ประเทศได้แก่ โดยอนุมัติให้ 45 ประเทศ ได้แก่ ประเทศในทวีปยุโรป 31 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรีย เบลเยี่ยม เช็ก เดนมาร์ก เอสโตเนีย ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมัน กรีซ ฮังการี ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลัตเวีย ลิทัวเนีย ลักเซมเบิร์ก มอลตา เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ โปรตุเกส สโลวาเกีย สโลวีเนีย สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ อังกฤษ ไอร์แลนด์ ไซปรัส บัลแกเรีย โรมาเนีย ยูเครน และรัสเซียประเทศในทวีปอเมริกา 6 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล เม็กซิโก อาร์เจนติน่า และชิลี ประเทศในทวีปโอเชเนีย 2 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ประเทศในทวีปเอเชีย 6 ประเทศ ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ บรูไน สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ และกาตาร์
[3] ) เป็นสภาสมาคม ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของสภาผู้ดำเนินงานท่าอากาศยานระหว่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์คือ สร้างแรงสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือกันทั้งภาครัฐบาล และเอกชน ในอุตสาหกรรมการขนส่งทางอากาศ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความสอดคล้องกับสภาวะแวดล้อม
