รูปแบบการจัดตั้งธุรกิจ
4 Jul 2023การจัดตั้งธุรกิจ
รูปแบบการจัดตั้งธุรกิจ
“สนใจลงทุนในจีน” เป็นประเด็นที่ธุรกิจต่างชาติให้ความสนใจกันไม่น้อย แต่แล้วก็มักจะเกิดคำถามในใจว่า จีนอนุญาตให้วิสาหกิจต่างชาติจัดตั้งธุรกิจรูปแบบใดได้บ้าง? แต่ละรูปแบบธุรกิจมีข้อแตกต่างกันอย่างไร? แล้วรูปแบบไหนจึงจะเหมาะสมกับธุรกิจของตนเองมากที่สุด?
รู้จักประเภทธุรกิจ.. ก่อนพิชิตเข้าลงทุนในจีน!!
สำหรับ นักลงทุนที่สนใจเข้าทำธุรกิจในจีน ควรศึกษาว่ารัฐบาลจีนได้กำหนดให้วิสาหกิจต่างชาติสามารถจัดตั้งธุรกิจในจีน รูปแบบใดบ้าง ซึ่งปัจจุบันนักลงทุนต่างชาติสามารถเลือกจดทะเบียนธุรกิจในจีนได้ 4 ประเภท คือ
- สำนักงานตัวแทน — Representative Office (RO)
- กิจการประเภทชาวต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมด — Wholly Foreign-Owned Enterprise (WFOE)
- กิจการร่วมทุน — Joint Venture (JV)
- วิสาหกิจการค้าที่ลงทุนโดยต่างชาติ — Foreign-Invested Commercial Enterprise (FICE)
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของรูปแบบธุรกิจในจีน
ประเภทกิจการ | สถานะทางกฏหมาย | จุดประสงค์ | ข้อดี | ข้อเสีย |
สำนักงานตัวแทน Representative office (RO) | ไม่มีสถานะทางกฏหมาย | – วิจัยตลาด – วางแผนการเข้ามาดำเนินการในอนาคต – ประสานงานอำนวยความสะดวกให้บริษัทแม่ | – ใช้เงินทุนจัดตั้งน้อย – มีความคล่องตัวในการดำเนินงานเกี่ยวข้องกับการตลาดและการประสานงาน | – ไม่สามารถออกใบแจ้งหนี้สกุลเงินหยวนได้ – จะต้องจัดจ้างเจ้าหน้าที่ผ่านตัวแทนจัดหางานในท้องถิ่น |
กิจการประเภทชาวต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมด Wholly foreign-owned enterprise (WFOE) | จำกัดจำนวนหนี้ที่รับผิดตามกฏหมาย | – ผลิตสินค้า (สำหรับขายในจีนหรือส่งออก) – ให้บริการทางธุรกิจ | – เจ้าของเป็นต่างชาติทั้งหมด – สามารถดำเนินกิจกรรมตามขอบเขตธุรกิจได้ยืดหยุ่น – สงวนกรรมสิทธิ์ในด้านเทคโนโลยี และทรัพยสินทางปัญญาได้ – รักษาวัฒนธรรมองค์กรดั้งเดิม – สามารถโอนผลกำไรจากเงินสกุลหยวนกลับไปยังต่างชาติได้ | – ใช้เงินทุนจดทะเบียนและเงินทุนตลอดโครงการ – ต้องสร้างยอดขายในตลาดจีนด้วยตัวเอง |
กิจการร่วมทุน Joint venture (JV) | จำกัดจำนวนหนี้ที่รับผิดตามกฏหมาย | – เพื่อเป็นไปตามข้อกำหนดที่ต้องมีคนท้องถิ่นถือหุ้นด้วย – เมื่อหุ้นส่วนท้องถิ่นยื่นข้อเสนอ ที่ลงตัวให้ได้ เช่น ผลกำไร ยอดขาย ช่องทางการกระจายสินค้า ฯลฯ | – สามารถต่อยอดโรงงานและแรงงานจากเดิมที่มีอยู่ได้ – สามารถต่อยอดช่องทางขายและกระจายสินค้าจากเดิมได้ | – การดำเนินงานล่าช้า – การปรับขยายสินทรัพย์หรือยอดขายร่วมกันระหว่างหุ้นส่วนที่อาจมีตัวเลขเกินจริงได้ – การถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกันและการเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกัน – ความเสี่ยงในการบริหารงานร่วมกัน |
วิสาหกิจการค้าที่ลงทุนโดยต่างประเทศ Foreign-invested commercial enterprise (FICE) | จำกัดจำนวนหนี้ที่รับผิดตามกฏหมาย | สำหรับกิจการประเภทชาวต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมดหรือกิจการร่วมทุนที่ประกอบกิจการด้านการค้า การกระจายสินค้า และการค้าส่ง | – เอื้อต่อกิจการประเภทการค้าและการกระจายสินค้า | – ใช้เงินทุนจดทะเบียนสูง |
สำนักงานตัวแทน — Representative Office (RO)
(สถานะทางกฎหมาย : ไม่มีสถานะทางกฏหมาย)
วัตถุประสงค์การจัดตั้ง :
- การวิจัยตลาดในจีน
- ประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้บริษัทแม่ในต่างประเทศ
- วางแผนการเข้ามาดำเนินธุรกิจในจีนอย่างเป็นทางการในอนาคต
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
ใช้เงินทุนจัดตั้งน้อยมีความคล่องตัวในการดำเนินงานเกี่ยวกับการตลาด และการประสานงานต่างๆ | ไม่สามารถออกใบแจ้งหนี้ / ใบแจ้งราคาต้องจัดจ้างเจ้าหน้าที่ผ่านตัวแทนจัดหางานในท้องถิ่น |
วิสาหกิจประเภทชาวต่างชาติเป็นเจ้าของทั้งหมด — Wholly Foreign-Owned Enterprise (WFOE)
(สถานะทางกฎหมาย : จำกัดจำนวนหนี้ที่รับผิดชอบตามกฎหมาย)
วัตถุประสงค์การจัดตั้ง :
- ผลิตสินค้า สำหรับขายในจีนหรือส่งออกไปต่างประเทศ
- ให้บริการทางธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
สามารถดำเนินการทางธุรกิจได้อย่างยืดหยุ่น เนื่องจากเป็นเจ้าของกิจการเอง 100%สงวนกรรมสิทธิ์ในด้านเทคโนโลยีและทรัพยสินทางปัญญาได้สามารถรักษาวัฒนธรรมองค์กรดั้งเดิมสามารถโอนผลกำไรจากเงินสกุลหยวนกลับไปยังต่างชาติได้ | ใช้เงินทุนจดทะเบียนและเงินทุนตลอดโครงการต้องสร้างยอดขายในตลาดจีนด้วยตัวเอง |
วิสาหกิจร่วมทุน — Joint Venture (JV)
(สถานะทางกฎหมาย : จำกัดจำนวนหนี้ที่รับผิดชอบตามกฎหมาย)
วัตถุประสงค์การจัดตั้ง :
- ต้องการให้มีหุ้นส่วนท้องถิ่นช่วยดำเนินธุรกิจ
- สนใจในข้อเสนอที่หุ้นส่วนท้องถิ่นเสนอให้ เช่น ผลกำไร ยอดขาย ช่องทางการกระจายสินค้า ฯลฯ
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
สามารถต่อยอดโรงงานและแรงงานจากเดิมที่มีอยู่ได้สามารถต่อยอดช่องทางขายและกระจายสินค้าจากเดิมได้ | การปรับขยายสินทรัพย์หรือยอดขายร่วมกันระหว่างหุ้นส่วนที่อาจมีตัวเลขเกินจริงได้การถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกัน และการเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาร่วมกันมีความเสี่ยงในการบริหารงานร่วมกัน |
วิสาหกิจการค้าที่ลงทุนโดยต่างชาติ — Foreign-Invested Commercial Enterprise (FICE)
(สถานะทางกฎหมาย : จำกัดจำนวนหนี้ที่รับผิดชอบตามกฎหมาย)
วัตถุประสงค์การจัดตั้ง :
ต้องการประกอบกิจการด้านการค้า การกระจายสินค้า และการค้าส่งในจีนแบบครบวงจร
ข้อดี | ข้อเสีย |
---|---|
เอื้อต่อการขยายกิจการประเภทการค้าและการกระจายสินค้า | ใช้เงินทุนจดทะเบียนสูง |
ควรคำนึงอะไร? ก่อนตัดสินใจเดินหน้าธุรกิจในจีน
หลัง จากที่ได้ทราบถึงความแตกต่างของรูปแบบธุรกิจที่ชาวต่างชาติจะสามารถเข้ามา จัดตั้งในจีน พร้อมทั้งมุ่งมั่นที่จะก้าวเข้าสู่ตลาดจีนแล้ว ลำดับต่อไปคือการพิจารณาถึงปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการทำธุรกิจในอนาคต ซึ่งจำเป็นจะต้องคำนึงตั้งแต่ก่อนเริ่มดำเนินการจัดตั้งธุรกิจ อาทิ
1. ขอบเขตกิจกรรมทางธุรกิจ(Business Scope)
การระบุขอบเขตกิจกรรมทางธุรกิจถือเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เนื่องจากธุรกิจที่จดทะเบียนในจีนจะสามารถดำเนินกิจการได้ตามที่ระบุไว้ในเอกสารที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ผู้จดทะเบียนธุรกิจจึงควรมั่นใจว่า ได้ระบุขอบเขตกิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทไว้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และต้องสามารถตรวจสอบได้จริงด้วย เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น
ทั้งนี้ ในระหว่างการยื่นจดทะเบียน แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะพิจารณาขอบเขตของธุรกิจจากเพียงเอกสารที่ระบุในเบื้อง ต้นและอนุมัติให้ แต่หลังจากที่ดำเนินกิจการแล้วก็จะมีการตรวจสอบโดยหน่วยงานสรรพากรอย่าง ละเอียดในเอกสารใบยื่นขอจัดตั้งบริษัท ดังนั้น การ ระบุข้อความกิจกรรมทางธุรกิจที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง เพื่อต้องการหลีกเลี่ยงภาษีหรือปิดบังสรรพากร จะทำให้เกิดปัญหาตามมาในภายหน้าได้
2. เงินทุนจดทะเบียนขั้นต่ำ (Minimum Registered Capital)
กฎหมาย จีนระบุว่า ทุนจดทะเบียนบริษัทขั้นต่ำอาจเริ่มต้นตั้งแต่ 30,000 หยวนสำหรับกิจการที่มีผู้ถือหุ้นร่วมหลายคน แต่หากเป็นกิจการที่มีผู้ถือหุ้นเพียงคนเดียว ทุนจดทะเบียนจะเพิ่มเป็น 100,000 หยวน
ในทางปฏิบัติแล้ว ทุนจดทะเบียนขั้นต่ำอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่และประเภทของกิจการ ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นบางแห่งอาจมีการดึงดูดให้ธุรกิจต่างชาติเข้ามาตั้งกิจการ ด้วยการกำหนดเงินทุนจดทะเบียนขั้นต่ำที่ค่อนข้างน้อย เพื่อให้ได้จำนวนกิจการตามที่ได้วางแผนไว้ อย่างไรก็ดี ทุนจดทะเบียนบริษัทไม่ควรจะต่ำเกินไป เนื่องจากอาจมีสรรพากรท้องถิ่นและสรรพากรกลางเข้ามาตรวจดูความเหมาะสมเมื่อ ดำเนินธุรกิจไปได้ระยะหนึ่งแล้ว ดังนั้น จึงควรระบุทุนจดทะเบียนขั้นต่ำตามความเหมาะสม โดยควรคำนึงถึงภาระหนี้ (ที่สามารถรับผิดชอบได้) ที่อาจการเกิดขึ้นระหว่างดำเนินกิจการด้วย
ทั้งนี้ จำนวนทุนจดทะเบียนบริษัทมากหรือน้อย นอกจากจะสะท้อนให้ทางการจีนมีความมั่นใจว่าธุรกิจที่จะจัดตั้งนั้นๆ มีความมั่นคงทางการเงินเพียงพอต่อการดำเนินธุรกิจหรือไม่แล้ว ยังจะสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและศักยภาพของบริษัท ซึ่งคู่ค้ามักจะใช้ทุนจดทะเบียนบริษัทเป็นเกณฑ์ในการพิจารณาก่อนตัดใจสิน เข้าร่วมทำธุรกิจด้วย
3. เงินทุนหมุนเวียน (Working Capital)
เงิน ทุนหมุนเวียนเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้าม ซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ในระหว่างเริ่มจัดตั้งธุรกิจใหม่ๆ เจ้าของกิจการอาจมีความกังวลว่าเงินทุนจดทะเบียนที่ใช้ยื่นขอจัดตั้งบริษัท อาจไม่เพียงพอ จึงมักนำเงินทุนหมุนเวียนที่มีอยู่ในมือเข้ามารวมเป็นเงินทุนที่จะจดทะเบียนด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจขาดเงินทุนหมุนเวียนในภายหลังได้
ทั้งนี้ การเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนค่อนข้างมีความยุ่งยากทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายดัง นั้น การนำเงินทุนหมุนเวียนในมือมากระทำการใดๆ จึงควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
ข้อมูล ข้างต้นคงจะช่วยให้ท่านนักลงทุนไทยได้ทราบถึงประเภทธุรกิจที่ทางการ จีนอนุญาตให้วิสาหกิจต่างชาติสามารถจัดตั้งได้ โดยแต่ละประเภทล้วนมีข้อดี-ข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนั้น หากท่านสนใจจะก้าวสู่การลงทุนทำธุรกิจในจีนอย่างแท้จริงแล้ว ก็ควรพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งประเมินสถานการณ์ความพร้อมของธุรกิจตนเอง ก่อนตัดสินใจว่าควรจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบใดจึงจะเหมาะสมที่สุด