“นครหนานหนิง” ติดโผ 10 เมืองที่มีความสุขที่สุดในจีน
4 Mar 2016เว็บไซต์ข่าว-นครหนานหนิง: โพลสำรวจ Everyone’s Voice Everyone’s Life (中国经济生活大调查) จากสำนักข่าว CCTV จีน เผยว่า นครหนานหนิงเป็น 1 ใน 10 เมืองที่มีความสุขที่สุดของจีน จึงกล่าวได้ว่า "นครหนานหนิง" เป็นเมืองน่าอยู่อีกเมืองหนึ่งของจีน
แบบสำรวจดังกล่าวได้มาจากการสำรวจครอบครัวชาวจีนที่มีการย้ายสำมะโนครัวจำนวน 1 แสนครัวเรือน และการวิเคราะห์ Big Data โดย "นครหนานหนิง" ติดอยู่ลำดับที่ 9 จากทั้งหมด 104 เมืองทั่วประเทศจีน
เมืองที่มีความสุขที่สุด 10 อันดับแรกของจีน ได้แก่ นครฉางซา นครอู่ฮั่น นครเหอเฝย นครเจิ้งโจว นครหลานโจว นครฮูฮอต นครอูรุมฉี นครสือเจียจวง นครหนานหนิง และนครหนานจิง
"การดูแลสุขภาพ ครอบครัว เอาใจใส่บ้านเมือง" เป็นปัจจัยที่ทำให้มีความสุข
ผลการวิเคราะห์ Big Data ชี้ว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน 10 เมืองข้างต้นให้ความสนใจกับเรื่องการรักสวยรักงาม อาหารเลิศรส แฟชั่น ให้ความสำคัญกับสถาบันครอบครัว ดูแลเอาใจใส่สุขภาพ เป็นห่วงเรื่องบ้านเมือง ปากท้อง และความบันเทิง
"รักสุขภาพ" เป็นหนึ่งในจุดโฟกัสของประชาชน โดยเฉพาะสุขภาพอนามัย การบำรุงดูแลสุขภาพ โภชนาการ การป้องกันโรคมะเร็ง และการแพทย์แผนจีน
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องของครอบครัว ความสัมพันธ์ และชีวิตแต่งงาน โดยเฉพาะประเด็น ความสัมพันธ์ของแม่ยายกับลูกสะใภ้ โดยมองว่าความสัมพันธ์ดังกล่าวมีผลกระทบต่อชีวิตแต่งงาน
ใช้ชีวิตใน "นครหนานหนิง" มีความสุขอย่างไร
นายเซี่ย จินผู่ (Xie Jin Pu, 谢金甫) นักสังคมศาสตร์ และศาสตราจารย์ประจำคณะกรรมการพรรคฯ ชี้ว่า การที่ "นครหนานหนิง" ติดอันดับ 10 เมืองที่มีความสุขที่สุดในจีน ประจำปี 2558 มีปัจจัยแวดล้อม 2 ประการ คือ
(1) ด้านฮาร์ดแวร์ คือ ความลงตัวของเมืองที่มีสีเขียวกับป่าคอนกรีต เนื่องจากนครหนานหนิงเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในเขตกึ่งร้อนจึงมีพื้นที่สีเขียวปกคลุมตลอดทั้งปี ดอกไม้ต้นไม้ประดับสวยงาม การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต สภาพแวดล้อมที่น่าอยู่อาศัยเป็นปัจจัยที่ทำให้ดัชนีความสุขพุ่งสูงขึ้น
และ (2) ด้านซอฟแวร์ คือ ผู้คนที่มีไมตรีจิตมิตรสัมพันธ์ ภูมิหลังทางสังคมและวัฒนธรรมที่ดีทำให้ชาวนครหนานหนิงเป็นมิตรกับคนอื่น มีน้ำใจโอบอ้อมอารี มีทัศนะคติเชิงบวก ตัวอย่างเช่น เมื่อเห็นคนแก่หกล้ม หากเป็นชาวเมืองอื่นในจีนจะคิดว่า "ควรจะไปช่วยพยุงคนแก่คนนั้นหรือไม่?" (มิจฉาชีพมักใช้วิธีการดังกล่าวเพื่อเรียกไถ่ค่าเสียหาย) แต่ชาวหนานหนิงจะคิดว่า "ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรง เราก็ต้องยื่นมือเข้าช่วย"
