“กว่างซี”อนาคตเมืองน่าอยู่ในอีก10 ปีข้างหน้า
30 Aug 2016หนังสือพิมพ์กว่างซี เดลี่:รัฐบาลกว่างซีกำหนดเป้าหมายการพัฒนาสังคมความเป็นเมือง (Urbanization) ว่าในอีก 10 ปีข้างหน้ากว่างซีจะก้าวขึ้นเป็นเมืองน่าอยู่และทันสมัยพลเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกด้าน
|
|
|
ที่มา : http://xcb.nanning.gov.cn/ |
ที่ผ่านมา รัฐบาลกว่างซีได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาสังคมมาโดยตลอด เพื่อให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
เมื่อต้นปีที่ผ่านมา นครหนานหนิงในฐานะเมืองเอกของมณฑลได้ติดอันดับ 9ใน104 เมืองที่มีความสุขที่สุดของจีน ซึ่งประเมินจากสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่สิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิต และการมีไมตรีจิตรของคนในพื้นที่
กว่างซีมีการพัฒนาด้านระบบโครงสร้างพื้นฐาน การเป็น"ฮับ"ด้านคมนาคม(รถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อทั้งภายในกว่างซีและมณฑลอื่นๆ) การปฏิรูปกฏระเบียบที่เอื้ออำนวยด้านการค้าการลงทุน การพัฒนาการศึกษากับต่างประเทศ การพัฒนาความเป็นเมือง รวมถึงด้านการแพทย์อย่างครบครัน
ล่าสุดเมื่อปลายก.ค.2559รัฐบาลกว่างซีได้ประกาศข้อคิดเห็นว่าด้วยการพัฒนา "Beautiful Guangxi – Livable City"โดยกำหนดเป้าหมายไว้ดังนี้
(1) ในปี 2563ดัชนีความน่าอยู่ของทุกเมืองในกว่างซีมีค่าดัชนีสูงกว่า 60 คะแนน โดยร้อยละ 20 ของเมืองเหล่านี้มีค่าดัชนีความน่าอยู่สูงกว่า 80
และ (2) อีก 5 ปีถัดไป(ปี2568) ค่าดัชนีเมืองน่าอยู่ของทุกเมืองมีค่าดัชนีสูงกว่า 70 คะแนนโดยร้อยละ 40 ของเมืองเหล่านี้มีค่าดัชนีความน่าอยู่ 80 คะแนนขึ้นไป
ทั้งนี้ รัฐบาลกว่างซีได้วางกรอบการดำเนินงาน6 ด้าน คือ (1) Green City (2) Comfortable City (3) Unique City (4) Harmonious City (5) Smart City และ (6)Innovation Cityซึ่งจะมีประเมินผลทุก 2 ปี เกณฑ์การตัดสินใจจากตัวบ่งชี้พื้นฐาน 90 รายการหากเมืองใดเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบด้านความปลอดภัย มลพิษทางสิ่งแวดล้อม การทำลายระบบนิเวศ รวมถึงการก่อสร้างที่ผิดกฎระเบียบจะถูกหักคะแนน (ปัจจุบันมีระเบียบเกี่ยวกับการลงโทษผู้บริหารเมืองที่ปล่อยปละละเลยเรื่องนี้ออกมาแล้วด้วย)
รัฐบาลกว่างซีมีการตั้งรางวัล "Beautiful Guangxi – Livable City"สำหรับเมืองที่ได้คะแนนมากสุดจะได้รับเงินกองทุนเพื่อสนับสนุนการก่อสร้าง การให้สิทธิออกพันธบัตรรวมถึงการอนุมัติการใช้ที่ดินใหม่เพิ่มขึ้น
บีไอซี เห็นว่า แนวทางการพัฒนาสังคมความเป็นเมือง โดยการกำหนดกรอบเงื่อนไข การแข่งขัน และการสร้างแรงจูงใจด้วยกลไกการให้รางวัล/สิทธิประโยชน์ต่างๆ เป็นการกระตุ้นให้ภาครัฐและประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาสู่ความเป็นเมืองไปพร้อมกัน อีกทั้งยังเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยพัฒนาและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และขับเคลื่อนการพัฒนาในด้านอื่นตามมา โดยเฉพาะภาคการค้าการลงทุน
ลิงค์ข่าวที่เกี่ยวข้อง
– "นครหนานหนิง" ติดโผ 10 เมืองที่มีความสุขที่สุดในจีน(03 มี.ค. 2559)
