ระบบ “Single Window” แรงส่งเขตทดลองการค้าเสรีมณฑลเสฉวนสู่มาตรฐานสากล
17 Oct 2017
ที่ประชุมความร่วมมือการค้าและโลจิสติกส์นานาชาติครั้งที่ 3 จัดขึ้นที่นครเฉิงตู เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2560 ที่ผ่านมานั้น ได้ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออก ให้ความร่วมมือผลักดันการจัดตั้งระบบ “Single Window” เพื่อเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติการที่เชื่อมโยงข้อมูลด้านการค้าและโลจิสติกส์มาไว้ที่จุดเดียว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกทางด้านการค้า และศุลกากรให้แก่นักธุรกิจ อาทิ การประหยัดเวลาในการทำเอกสาร และค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการในการทำธุรกรรม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการและการบริหารงานระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคธุรกิจอย่างเต็มที่ รวมถึงช่วยผลักดันให้ระบบ “Single Window” มีผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
รัฐบาลมณฑลเสฉวนได้ผลักดันจัดตั้ง ระบบ “Single Window” เพื่อเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการพัฒนาเขตทดลองการค้าเสรีมณฑลเสฉวนให้มีมาตรฐานในระดับสากล โดยรัฐบาลมณฑลเสฉวนได้กำหนดให้ใช้ระบบ “Single Window” เพื่อรองรับการเริ่มต้นของเขตทดลองการค้าเสรีมณฑลเสฉวนเฟส 3 โดยครอบคลุม 4 เขตทดลองการค้าเสรี คือ นครเฉิงตู เมืองเหมียนหยาง เมืองหลูโจว และเมืองอี๋ปิน
เขตทดลองการค้าเสรีมณฑลเสฉวน เป็นพื้นที่ที่มีนักลงทุนและบริษัททั้งในและต่างประเทศให้ความสนใจเข้ามาลงทุนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเขตนครเฉิงตู และเมืองหลูโจว ระหว่างเดือนมกราคม – สิงหาคม 2560 ที่มีการใช้ระบบ Single Window ในเขตทดลองการค้าเสรีนครเฉิงตู และเมืองหลูโจวนั้น ส่งผลให้มีการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติกว่า 22 บริษัท มูลค่าเงินลงทุนรวม 185,500 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 69.7 และเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 ของสัดส่วนทั่วประเทศ
นายอู๋ เก่อ ผู้อำนวยการการท่าและสำนักงานโลจิสติกส์มณฑลเสฉวน เผยว่าหลังจากที่ได้มีการทดลองระบบ “Single Window” กับธุรกิจ 7 ประเภท ที่สามารถรองรับการใช้ระบบดังกล่าวได้ โดยการเชื่อมโยงระบบข้อมูลแบบบูรณาการระหว่างหน่วยงานภาครัฐและวิสาหกิจ เพื่อให้การดำเนินธุรกรรมและพิธีศุลกากรสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น ทั้งนี้ การใช้ระบบ “Single Window” เป็นอีกหนึ่งกลไกที่ส่งเสริมการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และเป็นการเพิ่มรูปแบบการให้บริการภายในเขตทดลองการค้าเสรีมณฑลเสฉวนอีกด้วย
อนึ่ง ภายในปี 2020 จีนมีแผนจะปฏิรูป Single Window ให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกรมศุลกากรและผู้นำเข้า-ส่งออก ได้โดยตรง รวมทั้ง การเชื่อมโยงเพื่อส่งเสริมการค้าแนวเส้นทาง “One Belt One Road” ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ของประเทศต่อไป
