ยูนนานออก 17 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสู้พิษโควิด-19
28 Apr 2020เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2563 รัฐบาลมณฑลยูนนานได้ออกประกาศเรื่อง “มาตรการสนับสนุนการพัฒนาภาคเศรษฐกิจจริง” กำหนดให้หน่วยราชการระดับมณฑลทุกหน่วยงานและรัฐบาลท้องถิ่นทุกระดับนำไปขับเคลื่อน รวมจำนวน 17 มาตรการ ครอบคลุม 4 หมวดสำคัญ ดังนี้
หมวดส่งเสริมอุตสาหกรรม จำนวน 2 มาตรการ ได้แก่
(1) ส่งเสริมบริษัทขนาดใหญ่ให้สำรองแร่โลหะที่ไม่ใช่เหล็กเพื่อใช้ในธุรกิจ เช่น ทองแดง อะลูมิเนียม ตะกั่ว สังกะสี ดีบุก เจอร์เมเนียม อินเดียม ปริมาณรวมประมาณ 8 แสนตัน เป็นระยะเวลา 1 ปี โดยบริษัทสามารถกู้เงินจากธนาคารมาเป็นทุนในการจัดซื้อแร่และใช้แร่ที่จัดซื้อเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน นอกจากนี้ รัฐบาลมณฑลยูนนานยังจัดสรรงบประมาณรวม 1,000 ล้านหยวนเพื่ออุดหนุนดอกเบี้ยบางส่วนของเงินกู้ข้างต้นภายใต้แนวคิด “บริษัทสำรองแร่ โดยกู้เงินธนาคาร มีรัฐบาลอุดหนุน บริหารตามกลไกตลาด รับผิดชอบกำไรขาดทุนเอง”
(2) เร่งส่งเสริมการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมแปรรูปสินค้าเกษตรที่มีเอกลักษณ์ โดยเน้นอุตสาหกรรมการเกษตรที่มีศักยภาพ เช่น ปศุสัตว์ (สุกร โค) ผัก ผลไม้ ปศุสัตว์ ดอกไม้ ในรูปแบบ “หนึ่งนิคมเฉพาะ หนึ่งผลิตภัณฑ์หลัก หนึ่งระบบโลจิสติกส์” จำนวน 10 แห่งทั่วมณฑล โดยรัฐบาลมณฑลยูนนานได้จัดสรรงบประมาณรวม 10,000 ล้านหยวนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับนิคมดังกล่าวทั้งหมด ซึ่งแต่ละแห่งจะมีพื้นที่ไม่น้อยกว่า 2 ตารางกิโลเมตร และกำหนดเป้าหมายมูลค่าการผลิตของนิคมแต่ละแห่งไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านหยวน นอกจากนี้ กรมการคลังของมณฑลยูนนานจะมอบงบประมาณอุดหนุนในอัตราร้อยละ 5-10 ของงบลงทุนเพื่อพัฒนานิคมแต่ละแห่ง ตลอดจนหน่วยราชการระดับมณฑลจะอำนวยความสะดวกในการขอรับใบอนุญาตของทุกนิคมผ่าน “ช่องทางสีเขียว”
หมวดส่งเสริมการบริโภค จำนวน 3 มาตรการ ได้แก่
(3) สร้างแบรนด์ “China-South Asia Expo Online” ด้วยการผลักดันงานแสดงสินค้าออฟไลน์ไปสู่ออนไลน์โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศ ประมวลข้อมูลผู้ประกอบการและสินค้าเข้าสู่ระบบออนไลน์ ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางออนไลน์ จัดสรร “คูหาออนไลน์” และบริการที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้ประกอบการที่เข้าร่วม รวมทั้งดำเนินกิจกรรม “จับคู่ธุรกิจออนไลน์” ในส่วนผู้บริโภคก็สามารถลงทะเบียนรับคูปองมูลค่า 100 หยวนเพื่อใช้เลือกซื้อสินค้าในแพลตฟอร์มออนไลน์นี้ได้
(4) ส่งเสริมการพัฒนาการบริโภครูปแบบใหม่ ด้วยการผลักดันบริการรูปแบบใหม่ “ครัวกลาง+การจัดส่งอาหาร” และการบริโภครูปแบบใหม่ที่ไร้การสัมผัส “จัดส่งปลอดภัย+จุดรับส่งรวม” โดยส่งเสริมให้เมืองที่มีประชากรมากกว่า 5 แสนคนกำหนดหรือสร้าง “ศูนย์กลางการแปรรูปอาหารและการจัดส่ง” ซึ่งบริหารในรูปแบบ “จัดซื้อวัตถุดิบร่วมกัน แปรรูปร่วมกัน” เพื่อรับจ้างบริการผลิตและจัดส่งอาหารให้แก่หน่วยงานราชการ เอกชน และสถานศึกษา ทั้งนี้ เมืองที่มีความพร้อมสามารถเลือกบริษัทที่มีศักยภาพเพื่อเริ่มดำเนินการเป็นจุดนำร่อง โดยบริษัทที่ได้รับเลือกในแต่ละจุดนำร่องจะได้รับเงินอุดหนุนมูลค่าห้าแสนถึงหนึ่งล้านหยวน นอกจากนี้ จะมีการส่งเสริมธุรกิจดิจิทัลรูปแบบใหม่ ได้แก่ “ตลาดสดออนไลน์ ร้านอาหารออนไลน์ และห้างสรรพสินค้าออนไลน์” เพื่อตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคในขณะนี้ที่นิยม “ช้อปปิ้งออนไลน์ หรืออยู่บ้านช้อปปิ้ง”
(5) ส่งเสริมการแจกคูปองส่งเสริมการใช้จ่าย โดยให้หน่วยงานราชการและเอกชนจัดสรรสวัสดิการในส่วนที่ยังไม่ได้ใช้ของปี 2563 ในรูปแบบคูปองให้พนักงานนำไปใช้จ่ายบริโภคผ่านช่องทางออฟไลน์ เช่น ศูนย์การค้า ร้านอาหาร โรงแรม และเดินทางท่องเที่ยว ในเบื้องต้น มณฑลยูนนานได้ร่วมมือกับ China National Petroleum Corporation (CNPC) ในสัดส่วนงบประมาณ 8 ต่อ 2 แจกคูปองเติมน้ำมันมูลค่ารวม 100 ล้านหยวนเพื่อส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในมณฑล การขับรถท่องเที่ยว และการเหมารถ
หมวดการลดต้นทุนทางการเงินของธุรกิจ จำนวน 6 มาตรการ ได้แก่
(6) บริหารจัดการบัญชีรายชื่อธุรกิจที่มีการกู้เงิน โดยให้หน่วยราชการระดับมณฑลและรัฐบาลของหน่วยการปกครองระดับนคร เมือง และเขตปกครองตนเอง รวบรวมและตรวจสอบรายชื่อธุรกิจที่กลับเปิดทำการและธุรกิจที่ยังเปิดทำการแม้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 เสนอให้คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปมณฑลยูนนานพิจารณานำไปแจ้งต่อธนาคารประชาชนจีนประจำนครคุนหมิง เพื่อประสานงานกับสถาบันการเงินในการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจเหล่านี้ โดยเฉพาะธุรกิจที่สำคัญในห่วงโซ่อุปทาน
(7) ให้สินเชื่อแบบเจาะจงและหลายช่องทาง โดยคณะกรรมการกำกับกิจการธนาคารและประกันภัยแห่งชาติจีนประจำมณฑลยูนนานจะประสานงานกับสถาบันการเงินในการให้การสนับสนุนทางการเงินแบบเจาะจงแก่ธุรกิจตามบัญชีรายชื่อข้อ (6) โดยเร่งกระบวนการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพ
(8) ลดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม โดยสถาบันการเงินให้การสนับสนุนเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุดแก่ธุรกิจตามบัญชีรายชื่อข้อ (6) รวมทั้งลดค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องร้อยละ 50
(9) ขยายเงินอุดหนุนดอกเบี้ย โดยกรมการการคลังของมณฑลยูนนานและหน่วยราชการระดับมณฑลที่กำกับดูแลธุรกิจประเภทนั้นจะร่วมทุนกันคนละครึ่งเพื่อให้เงินอุดหนุนดอกเบี้ยเงินกู้แก่สถาบันการเงินที่ปล่อยกู้ให้แก่ธุรกิจตามบัญชีรายชื่อข้อ (6) ในอัตราร้อยละ 50 ของดอกเบี้ยเงินกู้ ทั้งนี้ กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุดไม่เกินร้อยละ 5
(10) ลดสัดส่วนเงินประกัน โดยยกเลิกเงินประกันสินเชื่อของวิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดย่อมที่มีวงเงินไม่เกิน 3 ล้านหยวน และลดวงเงินประกันร้อยละ 50 สำหรับสินเชื่อของวิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดย่อมที่มีวงเงินตั้งแต่ 3 ล้านหยวนขึ้นไป
(11) บูรณาการกลไกชดเชยความเสี่ยงในการกู้เงิน ด้วยการปรับปรุงระเบียบ “การบริหารการเงินในการชดเชยความเสี่ยงในการกู้เงินของวิสาหกิจขนาดเล็กและขนาดย่อมในมณฑลยูนนาน” โดยลดขั้นตอนและความยุ่งยาก ปรับปรุงมาตรการการชดเชย กำหนดขั้นตอนปฏิบัติที่ชัดเจน และลดต้นทุนทางการเงิน
หมวดการลดต้นทุนทางการผลิตและการบริหารของธุรกิจ จำนวน 6 มาตรการ ได้แก่
(12) ลดต้นทุนค่าไฟฟ้าและค่าก๊าซหุงต้ม โดยลดค่าไฟฟ้าในอัตราร้อยละ 5-10 ตามประเภทของผู้ใช้ไฟฟ้า และจัดเก็บค่าก๊าซหุงต้มในอัตราฤดูกาลที่มีปริมาณการใช้งานต่ำ
(13) กระตุ้นให้ลดหรือยกเว้นค่าเช่าอาคารสถานที่ โดยขยายระยะเวลาการลดหรือยกเว้นค่าเช่าสำหรับผู้เช่าอาคารสถานที่ของรัฐวิสาหกิจหรือหน่วยงานในกำกับของรัฐจาก 3 เดือนเป็นตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้ห้างสรรพสินค้าที่มีขนาด 5,000 ตารางเมตรขึ้นไปและตลาดที่ไม่ได้เป็นกิจการของรัฐลดหรือยกเว้นค่าเช่าตลอดทั้งปีเพื่อให้เป็นตัวอย่างที่ดีของธุรกิจขนาดใหญ่
(14) เพิ่มการลดหรือยกเว้นภาษี โดยยกเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินในปี 2563 ตลอดช่วงเวลาที่ผู้ให้เช่าลดหรือยกเว้นค่าเช่าแก่ผู้เช่า รวมทั้งจะยกเว้นภาษีโรงเรือนและที่ดินแก่ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดค่อนข้างรุนแรง เช่น การคมนาคมขนส่ง โรมแรม ร้านอาหาร และการท่องเที่ยว
(15) ลดต้นทุนค่าสัมปทานที่ดินจากรัฐ โดยกำหนดค่าสัมปทานที่ดินสำหรับโครงการอุตสาหกรรมในสาขาที่มณฑลยูนนานให้การส่งเสริมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 ของราคามาตรฐานและไม่ต่ำกว่าราคาต้นทุนที่ดินของรัฐ
(16) เพิ่มการช่วยเหลือด้านการจ้างงาน โดยธุรกิจที่ไม่ปลดหรือปลดพนักงานน้อยสามารถยื่นขอรับการอุดหนุนจากกองทุนประกันสังคม หมวดประกันว่างงาน นอกจากนี้ ธุรกิจที่รับนักศึกษาจบใหม่ ผู้ว่างงานมากกว่าครึ่งปี หรือผู้ว่างงานจากสถานการณ์โรคระบาดเข้าทำงานโดยทำสัญญาจ้างงานมากกว่าครึ่งปีและจ่ายเงินเข้ากองทุนประกันสังคมก็จะได้รับเงินอุดหนุนจากกองทุนช่วยเหลือการจ้างงานตามอัตราที่กำหนด
(17) เร่งเบิกจ่ายงบโครงการที่ค้างชำระ โดยให้ทุกพื้นที่เบิกจ่ายงบโครงการที่ยังค้างชำระก่อนสิ้นปี 2563
ที่มา: http://www.yn.gov.cn/zwgk/zcwj/yzf/202004/t20200426_203069.html