นโยบายเรียกเก็บอากรแสตมป์ทำให้การซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกงลดลง

7 Jan 2013

จำนวนการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ในเดือน ธ.ค. 2555 ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ปี 2551 แสดงให้เห็นว่า นโยบายเรียกเก็บอากรแสตมป์[1]ของรัฐบาลฮ่องกงประสบความสำเร็จในการควบคุมความร้อนแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์ฮ่องกง

                                                                 

Land Registry เปิดเผยข้อมูลว่า จำนวนการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่พักอาศัยในฮ่องกงในเดือน ธ.ค. 2555 อยู่ที่ 3,286 ราย ลดลงจากเดือน พ.ย. 2555 ร้อยละ 53.3 โดยมีมูลค่าการซื้อ-ขายเพียง 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง ลดลงร้อยละ 59.1 นาย Lam Chun-chiu ผู้จัดการฝ่ายประเมินราคา จากบริษัท AG Wilkinson & Associates ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการคำปรึกษาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ให้ความเห็นว่า จำนวนการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงเป็นผลมาจากมาตรการควบคุมความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์ และจำนวนการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์จะยังไม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะสั้น แต่ปริมาณการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์อาจเพิ่มขึ้นหลังช่วงตรุษจีน ทั้งนี้ จำนวนการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งหมด (ที่อยู่อาศัย สำนักงาน และพื้นที่จอดรถ) ในเดือน ธ.ค.2555 อยู่ที่ 9,129 ราย ลดลงร้อยละ 21.2 จากเดือน พ.ย. 2555 ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลประกาศนโยบายเรียกเก็บอากรแสตมป์ในเดือน ต.ค. 2555

อย่างไรก็ดี ราคาอสังหาริมทรัพย์มีการดีดตัวสูงขึ้นในช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2555 โดย The Centa-City Leading Index ซึ่งเป็นดัชนีที่ติดตามราคาอสังหาริมทรัพย์ 100 แห่งในฮ่องกง ปิดตัวที่ 115.18 จุดในวันที่ 23 ธ.ค. 2555 เพิ่มขึ้นจาก 114.38 จุดในวันที่ 2 ธ.ค. 2555 นาย Patrick Chow Moon-kit หัวหน้าฝ่ายวิจัยจากบริษัท Ricacorp Properties เปิดเผยว่า จำนวนการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์อาจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์หลายรายเตรียมเปิดโครงการใหม่ ซึ่งจะเป็นการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้น หากพิจารณาจากสภาพคล่องของตลาดแล้ว ราคาอสังหาริมทรัพย์จึงยังไม่มีแนวโน้มที่จะลดลง ส่งผลให้นักวิเคราะห์เกิดความกังวลว่า รัฐบาลอาจประกาศนโยบายลดความร้อนแรงของตลาดอสังหาริมทรัพย์เพิ่มเติม ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น เศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมของฮ่องกงจะได้รับผลกระทบจากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่อาจปรับสูงขึ้นอีก