นักช้อปกวางตุ้งอู้ฟู่ ใช้จ่ายสูงสุดในวันคนโสด
18 Nov 2015เทศกาลลดราคาเนื่องในวันคนโสดในวันที่ 11 พฤศจิกายน ของทุกปี หรือเรียกว่า เทศกาลลดราคา 11-11 ที่ผ่านมานั้น นักช้อปชาวจีนใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้ารวมทั้งสิ้นกว่า 91,217 ล้านหยวนภายในเวลา 24 ชั่วโมง เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 59.7 โดยในปีนี้นักช้อปใช้เวลาเพียงแค่ 17 ชั่วโมง ก็สามารถทำลายสถิติยอดซื้อสินค้าในเทศกาลลดราคา 11-11 ของปี 2557 ลงได้ ซึ่งประชาชนใช้เงินจับจ่ายในเว็บไซต์ต่าง ๆ เฉลี่ย85,900 หยวนต่อวินาที ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากกว่าปีที่แล้วถึง 2.23 เท่า โดยนักช้อปส่วนใหญ่จับจ่ายสินค้าในเว็บไซต์ต่าง ๆ ผ่านอุปกรณ์ไร้สาย เช่น มือถือ หรือแท็ปเล็ตมากขึ้น โดยจำนวนผู้ใช้งานมากถึงร้อยละ 68 เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึงร้อยละ 26
ในปีนี้ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดนได้เข้ามามีมทบาทสำคัญตามที่ได้มีการคาดการณ์ไว้ โดยเว็บไซต์ www.tmall.com เปิดเผยว่า Tmall International จำหน่ายสินค้าจากต่างประเทศเป็นหลักโดยมียอดสั่งซื้อสินค้าต่างประเทศถึง 2,605 ยี่ห้อ จาก 41 ประเทศทั่วโลกใน 10 นาทีแรกที่เปิดขายสินค้า ส่งผลให้ยอดจำหน่ายสินค้าจากต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นถึง 1,000 ล้านหยวนภายในเวลาเพียง 9 ชั่วโมง 45 นาที มากกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วถึง 2.5 เท่า โดยนักช้อปจากแต่ละพื้นที่นิยมซื้อสินค้าจากต่างประเทศแตกต่างกันออกไป อาทิ ชาวกว่างโจวนิยมซื้อผลิตภัณฑ์จากรังนก ชาวปักกิ่งนิยมซื้อหมอนยางพาราจากประเทศไทย ชาวเซี่ยงไฮ้นิยมซื้อหุ่นยนต์ทำความสะอาด ชาวหนานจิงนิยม
ซื้อผลิตภัณฑ์บำรุงครรภ์ และชาวซินเจียงนิยมซื้อนาฬิกาแบรนเนม เป็นต้น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการสินค้าประเภทต่าง ๆ จากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
นักช้อปที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายสูงสุดในปีนี้ยังคงเป็นนักช้อปจากมณฑลกวางตุ้ง โดยมียอดซื้อสินค้าภายใน 24 ชั่วโมงรวมทั้งสิน 9,300 ล้านหยวน สูงสุดในจีน เพิ่มขึ้นจากวันเดียวของปีที่แล้วถึงร้อยละ 52.4 ตามด้วยนักช้อปจาก มณฑลเจ้อเจียง เจียงซู มหานครเซี่ยงไฮ้ และกรุงปักกิ่ง ตามลำดับ ในมณฑลกวางตุ้งพื้นที่ที่มีการจับจ่ายในเทศกาล 11-11 มากที่สุดคือหมู่บ้านจุนผู่ เมืองเจียหยาง โดยได้รับสมยานามว่าเป็น “หมู่บ้านถาวป่าว” ใช้จ่ายไปถึง 80 ล้านหยวนภายใน 24 ชั่วโมง
ศักยภาพในการซื้อสินค้าของชาวกวางตุ้งนั้นเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจับจ่ายสินค้าผ่านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์นั้นเป็นสัญญาณสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้บริโภคทั้งในประเทศและมณฑลกวางตุ้ง ที่มิได้จำกัดอยู่แค่เพียงในเมืองใหญ่หรือเมืองสำคัญ แต่ยังกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ โดยรอบอีกด้วยซึ่งมีอินเตอร์เน็ตเป็นเสมือนสะพานเชื่อมผู้บริโภคกับผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ หากสังเกตพฤติกรรมของผู้บริโภคในมณฑลกวางตุ้ง สามารถเห็นได้ว่าประชาชนยังความสำคัญกับสินค้าเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นโอกาสที่สำคัญที่ผู้ประกอบการไทยจะนำสินค้าอาหารเข้ามายังตลาดกวางตุ้ง โดยใช้สรรพคุณหรือประโยชน์จากผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เป็นจุดเด่น พร้อมกับใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เป็นช่องทางจำหน่ายใหม่ให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนเชื่อว่าจะมีส่วนช่วยเรื่องการตลาดในภูมิภาคนี้และในอนาคตสินค้าไทยจะสามารถเข้าถึงได้ง่ายและเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น
