จีนจะนำร่องก่อตั้งท่าเรือการค้าเสรี

15 Mar 2018

เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2561 นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้กล่าวรายงานการทำงานของรัฐบาลในการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน ชุดที่ 13 ครั้งที่ 1 (the 1st Session of the 13th National People’s Congress) และในรายงานระบุว่า จีนจะผลักดันโครงสร้างและรูปแบบการเปิดประเทศให้เปิดกว้างรอบด้าน โดยจะนำร่องก่อสร้างท่าเรือการค้าเสรีเพื่อให้เป็นแรงขับเคลื่อนการปฏิรูปและการเปิดประเทศใหม่ของจีน และก่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการค้าการลงทุนจากต่างประเทศยิ่งขึ้น รวมทั้งจะทยอยเปิดกว้างต่อทุนต่างประเทศในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

ในโอกาสครบรอบ 40 ปีของการดำเนินนโยบายการปฏิรูปและการเปิดประเทศของจีนในปี 2561 จีนจะผลักดันการเปิดประเทศทั้งในเชิงกว้างและเชิงลึก โดยในเชิงกว้างจะนำประสบการณ์การทดลองการก่อสร้างเขตการค้าเสรีในพื้นที่ตะวันออกไปเผยแพร่และก่อตั้งเขตการค้าเสรีในพื้นที่ตอนในของจีน ในขณะเดียวกัน ในเชิงลึกจะเริ่มนำร่องก่อสร้างท่าเรือการค้าเสรี และพัฒนาเป็นตัวอย่างการเปิดประเทศที่กว้างขวางมากขึ้นของจีนอนาคต นายหยาง ฉางหย่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยเศรษฐกิจระหว่างประเทศของคณะกรรมการการพัฒนาและการปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) ได้แสดงความคิดเห็นต่อนโยบายดังกล่าวว่า การที่จีนก่อสร้างโครงสร้างและรูปแบบการเปิดประเทศที่เปิดกว้างรอบด้านนั้น ต้องส่งเสริมการพัฒนาใน 5 ด้านดังนี้

– พัฒนาการเปิดกว้างรูปแบบใหม่สำหรับพื้นที่ตอนในที่ติดชายแดน

– ผสมผสานการเปิดกว้างระหว่างอุตสาหกรรมการผลิตกับธุรกิจบริการ โดยเฉพาะธุรกิจบริการ จะเป็นสาขาสำคัญที่จะการเปิดกว้างยิ่งขึ้นในอนาคต

– ส่งเสริมทั้งการนำเข้าและการส่งออกที่มีคุณภาพสูง

– เปิดกว้างต่อประเทศที่กำลังพัฒนามากยิ่งขึ้น

– ยึดมั่นรักษากฎระเบียบการค้าแบบพหุภาคี สร้างเครือข่ายการค้าเสรีที่มีมาตรฐานสูง

ในการปฏิบัติ นายหยาง ฉางหย่งระบุว่า ในด้านการลงทุนจากต่างประเทศ จีนจะลดรายการประเภทกิจการต้องห้าม (Negative List) สำหรับการลงทุนในจีนให้น้อยลง และให้มาตรฐานการปฏิบัติเยี่ยงคนชาติในช่วงการลงทุนก่อนที่เข้ามาในประเทศ (Pre-establishment National Treatment) ส่วนในด้านการค้าระหว่างประเทศ จีนจะรักษาสมดุลระหว่างการนำเข้ากับการส่งออก โดยขยายการนำเข้าให้มากขึ้น ในขณะที่ส่งเสริมมูลค่าเพิ่มและคุณภาพสินค้าส่งออก นอกจากนี้ ยังจะผลักดันการนำร่องเขตการค้าเสรีและท่าเรือการค้าเสรีต่อไป

ตั้งแต่ปี 2556 จนถึงปัจจุบัน คณะรัฐมนตรีจีนได้อนุมัติก่อตั้งเขตนำร่องการค้าเสรี รวม 11 แห่ง ได้แก่ นครเซี่ยงไฮ้ มณฑลกวางตุ้ง นครเทียนจิน มณฑลฝูเจี้ยน มณฑลเหลียวหนิง มณฑลเจ้อเจียง มณฑลเหอหนาน มณฑลหูเป่ย นครฉงฉิ้ง มณฑลเสฉวน และมณฑลส่านซี ในปี 2561 จีนจะนำกฏระเบียบและประสบการณ์จากเขตการค้าเสรีดังกล่าวไปปรับใช้ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ปัจจุบัน มีท่าเรือกว่า 10 แห่งกำลังขออนุมัติก่อสร้างท่าเรือเขตการค้าเสรี เนื่องจากท่าเรือเขตการค้าเสรีจะเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างมากที่สุดของจีน ทั้งนี้ รัฐบาลกลางจีนอาจเลือกท่าเรือระดับโลกมานำร่องการก่อสร้าง เช่น นครเซี่ยงไฮ้ มณฑลกวางตุ้ง และมณฑลเจ้อเจียง

นอกจากนี้ ในรายงานการทำงานของรัฐบาลดังกล่าวยังได้ระบุว่า จีนจะเปิดกว้างอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโปแก่การลงทุนต่างชาติอย่างรอบด้าน และขยายการเปิดกว้างการลงทุนในธุรกิจโทรคมนาคม การรักษาพยาบาล การศึกษา การดูแลผู้สูงอายุ และรถยนต์พลังงานใหม่ และเปิดกว้างตลาดการชำระเงินด้วยบัตรธนาคารอย่างตามขั้นตอน ยกเลิกข้อจำกัดสาขาธุรกิจที่ประกอบของบริษัทการประกันภัยต่างประเทศ ผ่อนคลายและยกเลิกข้อจำกัดด้านอัตราหุ้นส่วนของทุนต่างประเทศของธนาคาร บริษัทการบริหารตลาดหลักทรัพย์ ทรัพย์สินการเงินและกองทุน ปรับเปลี่ยนมาตรฐานการเข้าถึงตลาดของธนาคารจีนและต่างชาติให้เป็นแบบเดียวกัน และยอมให้บริษัทต่างชาติสามารถเลื่อนจ่ายภาษีรายได้จากการลงทุนด้วยกำไรที่เกิดในจีน

เขตการค้าเสรี

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน