กว่างซีพลิกฟื้นดินเค็ม ปลูกข้าวน้ำเค็มได้ผลผลิตดี วางเป้าขยายความร่วมมือกับอาเซียน

3 Sep 2019

ไฮไลท์

  • พื้นที่ติดชายทะเลในอำเภอเหอผู่ เมืองเป๋ยไห่ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง เป็นพื้นที่นำร่องการปลูกข้าวน้ำเค็มเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นโครงการพลิกฟื้นดินเค็มแบบผสมผสานที่เกษตรกรสามารถปลูกข้าวบนพื้นที่ดินเค็ม พร้อมกับการเลี้ยงปลา กุ้ง ปู และเป็ดในนาข้าว
  • พื้นที่นำร่องการปลูกข้าวน้ำเค็มเชิงนิเวศนับเป็นแนวทางการพัฒนาการเกษตรแบบผสมผสานที่ช่วยส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ และลดต้นทุนการผลิตลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • หลังจากที่การปลูกข้าวน้ำเค็มได้รับการผลักดันจนเป็นที่แพร่หลายในบริเวณพื้นที่เลียบชายฝั่งทะเลของกว่างซีแล้ว ทีมนักพัฒนามุ่งขยายความร่วมมือไปยังพื้นที่เลียบฝั่งชายทะเลในประเทศสมาชิกอาเซียน จึงถือเป็นโอกาสสำหรับประเทศไทยเช่นกัน

 

อำเภอเหอผู่ (Hepu County/合浦县) เมืองเป๋ยไห่ เป็นพื้นที่นำร่องการปลูกข้าวน้ำเค็มเชิงนิเวศ ซึ่งเป็นโครงการพลิกฟื้นดินเค็มแบบผสมผสานในการเพาะปลูกข้าวน้ำเค็มกับการเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยข้าวต้นฤดูในปีนี้ได้ผลผลิตมากกว่าหมู่ละ 400 กิโลกรัม หรือราวไร่ละ 960 กิโลกรัม ซึ่งผลผลิตที่ได้สูงกว่าพื้นที่ทดลองปลูกแห่งอื่นในจีนอย่างในมณฑลซานตงอีกด้วย

โครงการดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ติดชายทะเลในอำเภอเหอผู่ เมืองเป๋ยไห่ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง โดยเป็นความร่วมมือระหว่างทีมผู้เชี่ยวชาญของศาสตราจารย์หยวน หลงผิง (บิดาแห่งข้าวไฮบริดของจีน) ศูนย์เทคโนโลยีวิศวกรรมข้าวไฮบริดแห่งชาติจีน ศูนย์วิจัยข้าวไฮบริดมณฑลหูหนาน และบริษัท Guangxi Weitian Agroecology Co.,Ltd. (广西维天生态农业有限公司)

พื้นที่นำร่องการปลูกข้าวน้ำเค็มเชิงนิเวศนับเป็นแนวทางการพัฒนาการเกษตรแบบผสมผสานที่เกษตรกรสามารถปลูกข้าวบนพื้นที่ดินเค็ม พร้อมกับการเลี้ยงปลา กุ้ง ปู และเป็ดในนาข้าว จึงเป็นหนทางในการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรในการเพาะปลูกและเลี้ยงสัตว์ และลดต้นทุนการผลิตบางอย่างลงได้ โดยการใช้ผลพลอยได้จากกิจกรรมทางการเกษตรหนึ่งไปเป็นปัจจัยการผลิตในอีกกิจกรรมหนึ่ง

ตามรายงาน พื้นที่นำร่องดังกล่าวเคยเป็นพื้นที่ปลูกข้าวไฮบริดน้ำจืดและมันเทศ แต่การกัดเซาะตามแนวคันดินกั้นน้ำทะเล ทำให้น้ำทะเลไหลย้อนเข้าท่วมพื้นที่ที่เคยเป็นที่นาน้ำจืด ส่งผลให้ดินเค็มจนไม่สามารถทำการเกษตรได้ เกษตรกรจึงต้องทิ้งที่นาร้างเป็นเวลานานสิบกว่าปี

การพัฒนาโครงการพื้นที่นำร่องการปลูกข้าวน้ำเค็มเชิงนิเวศในครั้งนี้จึงเป็นการพลิกฟื้นผืนดินให้กลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง โดยวางแผนพัฒนาพื้นที่นำร่องกว่า 1,000 หมู่จีน (ราว 416 ไร่) ช่วงแรกทดลอง 400 หมู่จีน ซึ่งประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย และมีการเลี้ยงสัตว์น้ำในนาร่วมด้วย 200 หมู่จีน

ศาสตราจารย์หู หย่วนอี้ (Hu Yuanyi/胡远艺) ศูนย์วิจัยข้าวไฮบริดมณฑลหูหนาน ให้ข้อมูลว่า พื้นที่โครงการตั้งอยู่บริเวณปากน้ำ ซึ่งเป็นน้ำกร่อย จึงเหมาะกับการปลูกข้าวน้ำเค็มเป็นอย่างมาก การทดลองปลูกในช่วงครึ่งปีแรกได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ และกำลังศึกษาวิจัยเพื่อปลูกข้าวปลายฤดูอีก

นายจวง หมิงชวน (Zhuang Mingchuan/庄明川) ประธานกรรมการบริษัท Guangxi Weitian Agroecology Co.,Ltd. กล่าวว่า หลังจากประสบความสำเร็จในการปลูกข้าวน้ำเค็มแล้วจะเริ่มผลักดันให้เกิดความแพร่หลายในบริเวณพื้นที่เลียบชายฝั่งทะเลของกว่างซีเสียก่อน จากนั้นค่อยขยายไปยังพื้นที่เลียบฝั่งชายทะเลในประเทศสมาชิกอาเซียน

สำหรับข้อสงสัยที่ว่า ข้าวน้ำเค็มหุงแล้วจะเค็มหรือไม่คำตอบคือ ไม่เค็ม ในทางกลับกันในน้ำทะเลมีแร่ธาตุค่อนข้างสูง ทำให้ข้าวน้ำเค็มอุดมไปด้วยแร่ธาตุมากกว่าข้าวทั่วไป นอกจากนี้ แมลงศัตรูพืชยังมีน้อยกว่าข้าวที่ปลูกในน้ำจืดและสามารถต้านทานโรคได้สูงอีกด้วย

 

จัดทำโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา เว็บไซต์ www.gx.chinanews.com (中国新闻网) วันที่ 23 สิงหาคม 2562
ภาพประกอบ www.pixabay.com

พื้นที่นำร่องการปลูกข้าวน้ำเค็มเชิงนิเวศศูนย์วิจัยข้าวไฮบริดมณฑลหูหนานศูนย์เทคโนโลยีวิศวกรรมข้าวไฮบริดแห่งชาติจีนอำเภอเหอผู่

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน