กวางตุ้ง “ผู้นำ” ด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของจีน
24 Oct 2017รัฐบาลคือแรงผลักดันหลักของความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ในมณฑลกวางตุ้ง มีการออกกฎระเบียบลงทุนที่เปิดโอกาสให้บริษัทท้องถิ่นเข้าไปมีความร่วมมือในอุตสาหกรรมการผลิต รวมถึงการมอบเงินสนับสนุนแก่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์สำหรับผู้ที่สามารถผลิตได้ตามเป้าหมาย เอกชนที่มีโครงการสร้างสถานีชาร์ฟไฟ และผู้ที่ซื้อรถยนต์พลังงานใหม่ในกรอบเวลาที่กำหนด
เอกชนคือผู้เล่นสำคัญในการสร้างนวัตกรรมและต่อยอดเทคโนโลยี เพื่อดึงดูดการใช้งานของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมณฑลกวางตุ้งจะเป็นพื้นที่สำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ในอนาคต จนกลายเป็นขุนศึกใหญ่ ที่นำพาอุตสาหกรรมรถยนตพลังงานใหม่จีนไปสู่ระดับโลก
ผู้เล่นสำคัญในตลาด
อุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่เป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลผ่านนโยบาย "Made in Guangdong " โดยมีนครกว่างโจวและเมืองเซินเจิ้นเมืองหัวหอก โดยมีผู้เล่นสำคัญอย่าง Guangzhou Automobile Group Co., Ltd (GAG) และ BYD Co., Ltd. ในการสร้างกลุ่มบริษัทที่มีศักยภาพในเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำจูเจียง
มณฑลกวางตุ้งไม่เพียงแต่มีศักยภาพในการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ออกสู่ตลาดภายในประเทศ แต่ยังครอบคลุมตลาดระดับโลกอีกด้วย ปัจจุบันรถยนต์พลังงานใหม่ที่ผลิตจากมณฑลกวางตุ้งมีส่วนแบ่งทางการตลาดคิดเป็นร้อยละ 11 ของโลก ครอบลุม 6 ทวีป 43 ประเทศ
ตามรายงานประจำปีของ BYD ระบุว่าในปี 2015 ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ถึง 61,722 คัน มากที่สุดในโลก แซงหน้า Tesla และแบรนด์อื่น ๆ ของญี่ปุ่น BYD คือผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในจีน โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเท่ากับร้อยละ 29 ตามด้วย Beijing Automobile Works ร้อยละ 13 และ Zotye Auto (Zhejiang) ร้อยละ 11
(ภาพประกอบ 1 ส่วนแบ่งทางการตลาดของผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในจีน / ที่มา:Nikkei)
เทคโนโลยีและนวัตกรรมคือหัวใจสำคัญ
มณฑลกวางตุ้งเดิมเป็นฐานการผลิตรถยนต์พลังงานน้ำมันที่สำคัญของจีน มีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์มากมายเข้ามาลงทุน ต่อมาเมื่อรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานใหม่ กวางตุ้งก็ยังสามารถครองตำแหน่งผู้นำได้อย่างรวดเร็ว ซึ่ง "เทคโนโลยี" คือหัวใจสำคัญของความก้าวหน้าดังกล่าว
เทคโนโลยีรถยนต์พลังงานใหม่ของมณฑลกวางตุ้ง ก้าวไปสู่ระดับที่สามารถผลิตส่วนประกอบสำคัญของรถยนต์ฯ รวมไปถึง การผลิตแบตเตอรี่ การประกอบรถ การพัฒนาศักยภาพและระบบทดสอบที่น่าเชื่อถือ BYD เป็นบริษัทเดียวในโลกที่มีโรงงานผลิตและเทคโนโลยีการผลิตแบตเตอรี่ เทคโนโลยีการผลิตรถยนต์และรถบัสเป็นของตัวเอง รวมถึงครอบครองสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับการผลิตรถยนต์กว่า 8,846 ชิ้น ในขณะที่ GAG ก็สามารถผลิตเทคโนโลยี "พลังงานไฟฟ้าสำคัญ 3 อย่าง" สำหรับเป็นแรงขับเคลื่อนในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่ แบตเตอรี่ มอเตอร์ควบคุมและแผงควบคุมไฟฟ้า ได้เองเช่นกัน
การมีเทคโนโลยีเป็นของตัวเองและสร้างสรรค์นวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของมณฑลกวางตุ้งเติบโตอย่างรวดเร็ว จนก้าวไปเป็นแนวหน้าของอุตสาหกรรมรถยนต์โลก จากข้อมูลของ Nikkei (ดูภาพประกอบ) เห็นได้ว่ากลุ่มบริษัทจากมณฑลกวางตุ้งสามารถผลิตแบตเตอรี่ออกสู่ตลาด
ได้มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 35.9 ของส่วนแบ่งทางการตลาดในจีนทั้งหมด
(ภาพประกอบ 2 ส่วนแบ่งทางการตลาดของผู้ผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ในจีน / ที่มา : Nikkei)
มาตรการสนับสนุนโดยภาครัฐ
มาตรการสำหรับผู้บริโภค
รัฐบาลมณฑลกวางตุ้งสนับสนุนและส่งเสริมการใช้รถพลังงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 5 ปี ฉบับที่ 13 ของมณฑลกวางตุ้ง ได้ระบุเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานใหม่ไว้อย่างชัดเจน โดยจะเพิ่มจำนวนการใช้งานรถยนต์ส่วนบุคคลพลังงานใหม่ให้ได้ 250,000 คัน ภายในปี 2563 อุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่จึงเป็นแนวโน้มอุตสาหกรรมที่สำคัญของมณฑลกวางตุ้ง ดังนั้นรัฐบาลจึงออกมาตรการสนับสนุนให้ผู้บริโภคให้หันมาใช้รถยนต์พลังงานใหม่ทดแทนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2560 คณะกรรมการพัฒนาและปฎิรูปประจำมณฑลกวางตุ้งออกประกาศมาตรการมอบเงินสนับสนุนให้แก่ผู้ที่ซื้อรถพลังงานใหม่ในปี 2559 และ 2560 (ไม่รวมเซินเจิ้น) โดยผู้ที่ซื้อรถในปี 2559 จะได้รับเงินสนับสนุนเต็มจำนวน (ร้อยละ 100) และผู้ที่ซื้อในปี 2560 จะได้รับเงินสนับสนุนร้อยละ 50 ของจำนวนเงินสนับสนุนที่กำหนดโดยรัฐบาลกลาง (ระเบียบการมอบเงินสนับสนุนการซื้อรถของรัฐบาลกลาง กำหนดให้ผู้ที่ซื้อรถในปี 2559 ได้รับเงินสนับสนุนสูงสุด 55,000 หยวน/คัน รับสูงสุด 30,000หยวน/คัน และผู้ที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Car) ในปี 2560 สามารถรับเงินได้สูงสุด 44,000หยวน/คัน รถระบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) และรถไฮโดรเจน FCV Fuel Cell รับสูงสุด 24,000หยวน/คัน)
มาตรการสำหรับผู้ผลิต
กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีจีนยังได้ออกมาตรการมอบเงินสนับสนุนแก่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ สำหรับปี 2561 ซึ่งจะคิดเกณฑ์การส่งมอบเงินจากการนับคะแนน โดยคำนวนจากระยะทางวิ่ง(ต่อการชาร์ตไฟ)และกำลังการผลิต โดยกำหนดให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะได้รับคะแนนที่สูงขึ้นก็ต่อเมื่อสามารถผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ให้ได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของกำลังการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของบริษัท รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Car)ที่สามารถวิ่งได้ไกลกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ต่อการชาร์ต 1 ครั้ง) จะได้รับคะแนนสูงสุด 4.4 คะแนน ตามด้วยรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Car)ที่สามารถวิ่งได้ในระยะทางที่น้อยกว่า 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมงต่อการชาร์ต1ครั้ง รถระบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) และรถไฮโดรเจน FCV Fuel Cell จะได้รับ 2 คะแนน
นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังใช้กฏระเบียบในการควบคุมการลงทุนของบริษัทต่างชาติที่จะเข้ามาตั้งฐานผลิตรถยนต์ในจีน ด้วยการกำหนดให้บริษัทต่างชาติสามารถถือหุ้นในบริษัทผลิตรถยนต์ที่เข้ามาลงทุนในจีน
ได้ไม่เกินร้อยละ 50 ซึ่งจำเป็นที่จะต้องร่วมลงทุนกับบริษัทท้องถิ่นของจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และกลายเป็นโอกาสของบริษัทจีนที่จะซึมซับเทคโนโลยีการผลิตและการจัดการเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาระบบอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ของตนเองในอนาคต และล่าสุด จีนยังอนุญาตให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างชาติสามารถมีได้มากกว่า 1 บริษัท ภายใต้ข้อกำหนดที่ให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ดังกล่าว ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์พลังงานใหม่สัญชาติจีนออกสู่ตลาดเท่านั้น
