กระแสรักสุขภาพของคนกวางตุ้งยังแรง โอกาสทองของสินค้าไทย
21 Jan 2016คนไทยหลายคนอาจจะยังไม่คุ้นชินหรือยังไม่รู้จักพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารของชาวกวางตุ้งมากนัก ถึงแม้หลายคนอาจจะทราบว่าคนกวางตุ้งชอบ “หยำฉา” หรือพฤติกรรมดื่มชาหรือการรับประทาน “ติ่มซำ” แต่พฤติกรรมหรือวิธีเลือกอาหารของชาวกวางตุ้งนั้นใส่ใจเรื่องการรับประทานอาหารมากกว่าที่คิด ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนชื้นและคุณสมบัติน้ำ ทำให้คำว่า “เร้อชี่” หรืออาการร้อนใน เป็นสิ่งที่ชาวกวางตุ้งกลัวมากที่สุด จนทำให้เกิดวัฒนธรรมการดื่ม “เหลียงฉา” หรือชาที่มีฤทธิ์เย็น เพื่อป้องกันและรักษาอาการร้อนใน อีกทั้งชาวกวางตุ้งส่วนใหญ่จะหลีเลี่ยงอาหารประเภท “เผ็ด” “ทอด” และ “เย็น” ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้เกิดอาการดังกล่าว
ปัจจุบันลักษณะการรับประทานอาหารของชาวกวางตุ้งรุ่นใหม่ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนไป ด้วยกระแสของอาหารและเครื่องดื่มที่แปลกใหม่และหลายหลาย หนังสือพิมพ์หนานฟางเดลี่ ได้รายงานผลสำรวจพฤติกรรมการการอ่านบทความต่าง ๆ บนอินเตอร์เน็ตของชาวกวางตุ้ง พบว่า บทความที่เกี่ยวข้องกับอาหารการกิน ได้รับความสนใจจากคนกวางตุ้งมากที่สุดกว่า 261 ล้านครั้ง
ผลสำรวจดังกล่าวยังเผยอีกว่า ปัจจุบัน “กาแฟ” เป็นเครื่องดื่มที่ชาวกว่างโจวและเซินเจิ้น นิยมดื่มมากที่สุด โดยน้ำอัดลมและนำผลไม้ ได้รับความนิยมรองลงมาตามลำดับ หากแบ่งตามเพศ เพศชายชอบดื่ม “น้ำอัดลม” และเพศหญิงชอบดื่มน้ำผลไม้ เป็นอันดับที่ 2 ทั้งนี้หากแบ่งตามอายุ ประชากรอายุต่ำกว่า 40 ปี จะมีแนวโน้มการดื่มน้ำอัดลม มากกว่าประชากรอายุ 41 ปีขึ้นไป ที่นิยมดื่มน้ำผลไม้ ซึ่งเป็นที่สังเกตได้อย่างชัดเจนว่า ประชากรที่มีอายุยิ่งมากจะยิ่งใส่ใจกับอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพมากขึ้น
ปีที่ผ่านมาในมณฑลกวางตุ้งมีการแข่งขันทางการตลาดของเครื่องดื่มจับเลี้ยง 2 ยี่ห้อ คือ หวังหล่าวจี๋ และ เจียตัวป่าว แต่ผลตอบรับและความนิยมของคนกวางตุ้งอาจจะไม่เป็นที่พอใจของน้ำจับเลี้ยงสองยี่ห้อนี้มากนัก ทั้งนี้เครื่องดื่มที่มาแรง 5 อันดับแรกของปีที่ผ่านมาได้แก่ เครื่องดื่มเกลือแร่ยี่ห้อ “ม้ายต้ง” เครื่องดื่มจับเลี้ยง “หวังหล่าวจี๋” เครื่องดื่มเกลือแร่ “เจี้ยนลี่ป่าว” และนมเปรี้ยว “ยาคูลท์” ทั้งนี้เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ก็ยังเป็นที่นิยมสำหรับชาวกวางตุ้งด้วยเช่นกัน โดยนิยมดื่ม “เบียร์” มากที่สุด ไวน์แดง ไวน์ขาว เหล้าข้าว เหล้าเหลืองและยาดอง ตามลำดับ
ด้วยจำนวนประชากรกว่า 107.24 ล้านคน และพลังการบริโภคที่มหาศาล จะเป็นใบเบิกทางให้กับผลิตภัณฑ์อาหารของไทย แต่ใบเบิกทางจะนี้ ผู้ประกอบการจำเป็นต้องศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการผู้บริโภค เพื่อที่จะปรับปรุงและผลิตสินค้าที่ตรงต่อความต้องการมากที่สุด ทั้งนี้ตลาดผู้บริโภคของมณฑลกวางตุ้งนั้นยังเป็นแบบผสมผสานระหว่างการบริโภคแบบดั่งเดิมและการบริโภคแบบใหม่ การกำหนดตำแหน่งสินค้าในตลาดและการเลือกกลุ่มลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่ต้อง
นำมาพิจารณา
ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติกรรมและกระแสการบริโภคใหม่ ๆ ของมณฑลกวางตุ้งและมณฑลอื่น ๆ ได้จากหมวดพฤติกรรมผู้บริโภค เว็บไซต์ www.wordpress-348433-3180049.cloudwaysapps.com ซึ่งศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนได้รวบรวมข้อมูลไว้อย่างครบครัน
