HSBC ยก”เซินเจิ้น” เมืองแห่งนวัตกรรม ความสามารถด้านการแข่งขันแซงหน้า “ฮ่องกง”

9 Nov 2017

ธนาคาร HSBC (The Hongkong and Shanghai Banking Corporation Limited) เผยข้อมูลจากงานวิจัยล่าสุด ยกให้เมืองเซินเจิ้นเป็นเมืองแห่งนวัตกรรมอันดับ 1 ของจีน จากจำนวนบริษัทด้านนวัตกรรมและการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของอุตสาหกรรม จากการผลิตแบบดั้งเดิมไปสู่การผลิตที่ใช้เทคโนโลยี รวมไปถึงจำนวนบริษัท start-up ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ในขณะเดียวกันรัฐบาลกลางก็มีส่วนช่วยผลักดัน โดยสนับสนุนให้ภาคเอกชนหันมาลงทุนด้านนวัตกรรม โดยหวังจะให้นวัตกรรมเข้ามามีบทบาทในการเร่งอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจภาพรวมของจีน ซึ่งจากการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งที่ 19 ณ กรุงปักกิ่งที่ผ่านมา ได้มีการนำยุทธศาตร์ด้านการพัฒนาด้านนวัตกรรม โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี คุณภาพสินค้า การบินอวกาศ อินเตอร์เน็ต การคมนาคม Digital China และ Smart City มาเป็นหนึ่งในแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจของจีน

พลังแห่งความร่วมมือ

HSBC เปิดเผยข้อมูลจากรายงาน The Chinese Corporate Innovation Report 2017 จัดทำโดย Yicai Media Group ร่วมกับคณะการจัดการ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ระบุว่า พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำจูเจียง (Perl River Delta : PRD) ได้แก่ นครกว่างโจว เมืองเซินเจิ้น จูไห่ ฝอซาน หุ้ยโจว ตงก่วน จงซาน เจียงเหมินและจ้าวชิ่ง เป็นพื้นที่สร้างสรรค์และเป็นพื้นที่ซิลิกอนที่สำคัญของจีน มีส่วนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมความสามารถทางเศรษฐกิจของจีนให้สามารถแข่งขันในเวทีระดับโลกได้ดีมากยิ่งขึ้น

ในรายงานดังกล่าวได้สำรวจ "พลังแห่งนวัตกรรม" ของ 1,200 บริษัททั่วจีน โดยให้คะแนนจากปัจจัยที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ จำนวนและคุณภาพงานวิจัยของบริษัท การลงทุนด้านการพัฒนา จำนวนสิทธิบัตรที่มีในครอบครอง รวมถึงโมเดลการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ ผลปรากฎว่าว่าเมืองเซินเจิ้นได้รับคะแนนรวมสูงที่สุดในจีน โดยมีเมืองฝอซานและจูไห่ ตามมาเป็นลำดับ

นาย Frank Fang หัวหน้าฝ่ายการธนาคารเพื่อการพาณิชย์ ตลาดจีนแผ่นใหญ่ ธนาคารเอชเอสบีซี ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงด้านนวัตกรรมที่เกิดขึ้นในเซินเจิ้นไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแต่บริษัทใหญ่ที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีเท่านั้น ยังมีบริษัทเอกชนระดับ SME ที่ดำเนินธุรกิจด้านเครื่องดื่มและสิ่งทอ ต่างก็หันมาลงทุนด้านนวัตกรรม เพื่อพัฒนาระบบการผลิตและศักยภาพด้านการแข่งขันของบริษัทอีกด้วย การยกระดับธุรกิจไปในทิศทางเดียวกัน จึงเป็นเสมือนการผนึกกำลัง จนทำให้เซินเจิ้นกลายเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมอันดับ 1 ของจีนได้อย่างรวดเร็ว

ระดับความสามารถด้านการแข่งขันแซงหน้า "ฮ่องกง"

นอกจากนี้ ในรายงานด้านความสามารถในการแข่งขันด้านเศรษฐกิจระดับโลกที่ UN ทำร่วมกับ Chinese Academy of Social Sciences ของจีน ระบุว่าเมืองเซินเจิ้นเป็นเมืองที่มีความสามารถในการแข่งขันเป็นอันดับ 6 ของโลก แซงหน้าฮ่องกงที่ตกไปอยู่ที่อันดับ 12 ในขณะที่สิงคโปร์รั้งอันดับที่ 3 และโตเกียวรั้งอันดับที่ 7

เซินเจิ้นเป็นที่ตั้งของบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีหลายบริษัท อาทิ บริษัทด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคม หัวเหวย (Huawei) บริษัทเทคโนโลยีและผลิตเกมส์รายใหญ่ เท็นเซ็น (Tencent Holdings,) หรือบริษัทผู้ผลิตโดรน DJI เป็นต้น

เศรษฐกิจของเมืองเซินเจิ้นเติบโตมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 1980 หลังจากที่รัฐบาลจีนให้เมืองเซินเจิ้นเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ และทดลองระบบทุนนิยมแบบสังคมนิยมของจีน เพื่อดึงดูดการลงทุน รวมถึงความเจริญจากนานาประเทศ จนทำให้หมู่บ้านชาวประมงธรรมดากลายเป็นไข่มุกเม็ดงามของจีนตอนใต้อย่างในปัจจุบัน

ในปี 2559 เซินเจิ้นมีมูลค่า GDP สูงถึง 2.85  แสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 9 บริษัทด้านการวิจัย Sanford C. Bernstein & Co ของสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่าในสิ้นปี 2560 เมืองเซินเจิ้นจะมีมูลค่า GDP เพิ่มสูงขึ้นถึง 3.5 แสนล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ แซงหน้าฮ่องกงได้อย่างแน่นอน 

อันดับเมืองที่มีความสามารถด้านการแข่งขัน

เซินเจิ้นเทคโนโลยีHSBCนวัตกรรมจีนนวัตกรรมเซินเจิ้น

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน