เซินเจิ้นมีเฮ รถพลังงานใหม่ปี59 ได้รับเงินช่วยเหลือสูงสุด 60,000 หยวน
9 Sep 2016เมื่อวันที่ 7 กันยนยน 2559 คณะกรรมการปฏิรูปและพัฒนาแห่งชาติเมืองเซินเจิ้นและสำนักงานคลังเซินเจิ้นประกาศ แผนยุทธศาสตร์สนับสนุนด้านการเงินเพื่อส่งเสริมการใช้รถพลังงานใหม่ในเมืองเซินเจิ้น ประจำปี 2559 โดยกำหนดให้รถพลังงานใหม่ที่ซื้อ หรือติดตั้งอุปกรณ์สำหรับการชาร์ตไฟฟ้ารวมถึงแบตเตอรี่สำหรับชาร์ตไฟในเมืองเซินเจิ้น ระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2559 – 31 ธันวาคม 2259 สามารถยื่นขอเงินสนับสนุนได้ตั้งแต่ 25,000 – 50,000 หยวน สูงสุด 60,000 หยวน มีผลตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2559
รถพลังงานใหม่ที่สามารถยื่นขอรับเงินสนับสนุนจะต้องมีคุณสมบัติตามที่แผนยุทธศาสตร์กำหนด รวมถึงเป็นรุ่นที่ได้บรรจุอยู่ในบัญชีส่งเสริมการใช้งานรถพลังงานใหม่ของกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีแห่งชาติ ซึ่งครอบคลุมทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลระบบไฟฟ้า (EV; Electronic Vehicle) รถระบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) และรถไฮโดรเจน FCV Fuel Cell โดยผู้ผลิตรถดังกล่าวจำเป็นต้องรับรองการใช้งานของแบตเตอรี่ในรถยนต์ส่วนบุคคลไม่ต่ำกว่า 8 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตร รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ไม่ต่ำว่า 5 ปี 200,000 กิโลเมตร และเอกสารอื่น ๆ ตามที่ได้ระบุในแผนยุทธศาสตร์ดังกล่าว
รูปแบบการชดเชยมีทั้งหมด 4 รูปแบบ ได้แก่
1. การมอบเงินสนับสนุนแก่ผู้ขายรถ รถยนต์พลังงานใหม่ที่ถูกขายในพื้นที่เมืองเซินเจิ้น โดยได้จดทะเบียนในพื้นที่ถูกต้องตามกฏหมายโดยบริษัทผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ โดยเงินชดเชยจะคำนวนจากราคาหลักหักเงินชดเชยแล้ว
2. การมอบเงินสนับสนุนแกผู้ซื้อรถ รถยนต์พลังงานใหม่ที่ถูกซื้อในพื้นที่เมืองเซินเจิ้น แล้วได้ยืนขอแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์เรียบร้อยแล้ว รัฐบาลจะมอบเงินสนับสนุนให้แก่ผู้ใช้รถผ่านรูปแบบการชาร์จไฟของรถที่ซื้อ ในรูปแบบของบัตรส่วนลดสำหรบการชาร์จไฟฟ้า
3. การมอบเงินสนับสนุนแก่ผู้ลงทุนการติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้า หลังจากที่เอกชนผู้ลงทุนในโครงการก่อตั้งสถานีหรือพื้นที่สำหรับติดตั้งอุปกรณ์และเครื่องชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถยนต์ในเขตพื้นที่เมืองเซินเจิ้น จะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล
4. การมอบเงินสนับสนุนแก่บริษัทที่นำแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานใหม่มารีไซเคิล บริษัทผู้ผลิตที่นำแบตเตอรี่รถยนต์สำหรับรถยนต์พลังงานใหม่มารีไซเคิลจะได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล
ซึ่งทั้ง 4 รูปแบบดังกล่าวไม่เพียงแต่ครอบคลุมผู้ซื้อและผู้ขาย อย่างที่เราเข้าใจกัน แต่ยังรวมไปถึงการสนับสนุนบริษัทที่ลงทุนติดตั้งอุปกรณ์ชาร์จไฟฯ สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ผู้ใช้งานรถยนต์พลังงานใหม่มั่นใจว่าจะสามารถเติมพลังงานได้อย่างสะดวกและทันถ่วงทีเมื่อต้องการ ทั้งนี้แผนยุทธศาสตร์ดังกล่าวยังสนับสนุนบริษัทผู้ผลิตที่นำแบตเตอรี่เสื่อมคุณภาพกลับมารีไซเคิล ซึ่งเป็นหัวข้อที่แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและพลังงานของรัฐบาลอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่ส่งเสริมแล้วจบๆ กันไป
รัฐบาลยังคงสนับสนุนและส่งเสริมการใช้รถพลังงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 5 ปี ฉบับที่ 13 ของมณฑลกวางตุ้ง ได้ระบุแผนและเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาและการส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานใหม่ไว้อย่างชัดเจน ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2559-2564 โดยมณฑลกวางตุ้งได้ขานรับและกำหนดเป้าหมายตามแผนดังกล่าว โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนการใช้งานรถยนต์ส่วนบุคคลพลังงานทดแทนให้ได้ 250,000 คันในปี 2563 จึงเป็นที่ชัดเจนว่าอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่จะกลายเป็นแนวโน้มอุตสาหกรรมที่สำคัญของมณฑลกวางตุ้ง และกลายเป็นเค้กก้อนโตที่หอมหวน พร้อมจะแบ่งปันให้กับผู้ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจด้านพลังงานใหม่อย่างแน่นอน
