เจาะลึกหัวเหว่ยกับความพร้อมของเทคโนโลยีสำหรับโลกอนาคต
29 Mar 2016หากกล่าวถึงบริษัทด้านเทคโนโลยีที่สำคัญของจีน บริษัท หัวเหว่ย เทคโนโลยี จำกัด คงเป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีอันดับแรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง บริษัทหัวเหว่ย เทคโนโลยี จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี 2530 เป็นบริษัทเอกชนที่เป็นผู้นำด้านข้อมูลและเทคโนโลยีการสื่อสารของจีนและไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีบุคลากรกว่า 150,000 คน ใน 170 ประเทศทั่วโลก มีการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาประมาณร้อยละ 14 ของรายได้ต่อปี เริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่ปี 2513 โดยเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่อง PBX (Private branch exchange) จากฮ่องกง ในอีก 2 ปีถัดมา ได้เริ่มวิจัยและพัฒนา PBX และได้เริ่มพัฒนาโซลูชั่นด้านระบบโทรศัพท์ GSM ในปี 2540 ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในต่างประเทศตั้งแต่ปี 2542 เป็นต้นมา และคิดค้นเทคโนโลยีด้านการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อรองรับเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันบริษัทหัวเหว่ยฯ ได้คิดค้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีการสื่อสารผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับโลกอนาคต ( Mobile Broadband 2020) เพื่อรองรับการบริการรับส่งผ่านและจัดการข้อมูลมหาศาล (Big Data) ในอนาคต อาทิ อุปกรณ์เก็บ รับ ส่ง และถ่ายเทข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเปิดให้บริการด้านข้อมูลดังกล่าวผ่านระบบกลุ่มเมฆ (Cloud) ซึ่งเป็นหน่วยเก็บข้อมูลมหาศาล โดยผู้รับบริการสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูล (Big data moving on the cloud) ซึ่งนอกจากจะสามารถเก็บข้อมูลไว้บนระบบ Cloud แล้ว ยังสามารถประมวลข้อมูลดังกล่าวได้ โดยไม่ต้องดึงข้อมูลออกมาวิเคราะห์ผ่านอุปกรณ์ต่าง ๆ นอกจากนี้ บริษัทหัวเหว่ยฯ ยังมีการคิดค้นระบบเพื่อเข้ามารองรับ เทคโนโลยี Internet of Things (ioT) หรือ “อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง” ซึ่งเป็นการที่สิ่งต่างๆ ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ต และสามารถสั่งการ ควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต อีกทั้งอุปกรณ์ที่เข้ามารองรับเทคโนโลยี 5G ได้อย่างครบครันและ
มีประสิทธิภาพ
บริษัทหัวเห่วย เทคโนโลยี จำกัด เป็นบริษัทที่มีสำนักงานมากมายทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย โดยบริษัทหัวเหว่ยฯ ได้เริ่มเข้าไปดำเนินธุรกิจในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2539 และได้จัดตั้งบริษัทหัวเหว่ย เทคโนโลยี ประเทศไทย จำกัด ขึ้นในปี 2542 โดยมีแผนกบริการทางด้านเทคนิค ศูนย์รับเรื่องทางโทรศัพท์ ศูนย์กระจายอะไหล่และอุปกรณ์ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญและให้บริการโซลูชั่นด้านเครือข่าย และทีมวิจัยและพัฒนาตามลำดับ ปัจจุบัน บ. หัวเหว่ย ให้ความสำคัญกับประเทศไทย โดยกำหนดให้สำนักงานที่กรุงเทพมหานครฯ เป็น 1 ใน 11 สำนักงานใหญ่ระหว่างประเทศ (International Headquarter : IHQ) และมีแผนที่จะใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการขยายเครือข่ายการให้บริการข้อมูลด้วยความเร็วสูง ไปยังประเทศในอาเซียน นอกจากนี้ศูนย์ฝึกอบรมของ บ.หัวเหว่ยในประเทศไทย เป็นศูนย์ฝึกหลักให้กับบุคลากรของบริษัทหัวเหว่ยในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียใต้
“ผู้นำเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต” คงเป็นคำที่ไม่ไกลเกินไปสำหรับบริษัทหัวเหว่ยฯ นวัตกรรมต่าง ๆ ที่บริษัทฯ ได้คิดค้นเพื่อรองรับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีของโลกที่ไม่เคยหยุดนิ่งนั้นจะนำพาจีนไปสู่ตำแหน่งผู้นำของเทคโนโลยีของโลกได้อย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งนี้ความร่วมมือของ บริษัทหัวเหว่ยฯ กับไทยก็ยังคงพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง เนื่องจากความได้เปรียบของคุณภาพแรงงานและบุคลากร รวมถึงตำแหน่งที่ตั้งจึงทำให้ประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลางของการติดต่อและกระจายความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีของหัวเหว่ยไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และใกล้เคียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
