ชาวกว่างซีใช้มือถือ 5G แล้ว
16 Sep 2019
ไฮไลท์
- เทคโนโลยีการสื่อสารไร้สายยุค 5G คือ โครงข่ายโทรศัพท์มือถือยุคต่อไป ที่มีความสามารถในการรับส่งสัญญาณที่รวดเร็วขึ้น ทั้งอัปโหลดและดาวน์โหลด รวมถึงการให้การเชื่อมต่อที่เสถียรมากขึ้นมากกว่าเดิม ส่งผลให้การใช้งานบนโครงข่าย 5G มีความหลากหลายทั้งในเรื่องของการควบคุมทางไกลอย่างการบังคับหุ่นยนต์ รถยนต์ไร้คนขับ การจัดการโรงงานอัจฉริยะ การแพทย์ทางไกล จนไปถึงการบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ
- ปัจจุบัน China Mobile สาขากว่างซีได้วางระบบเครือข่าย(ทดสอบ)สัญญาณ 5G ทั้ง 14 เมืองทั่วมณฑลเป็นที่เรียบร้อย อย่างในนครหนานหนิง (เมืองเอก) สัญญาณ 5G ครอบคลุมบริเวณย่านธุรกิจ จุดท่องเที่ยวพักผ่อน สถานีรถไฟ และสถาบันการศึกษา
- โดยเฉพาะสถาบันการศึกษาเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ China Mobile สาขากว่างซีใช้เพื่อทดสอบระบบโครงข่าย 5G โดยขณะนี้ China Mobile ได้ติดตั้งระบบสัญญาณ 5G ในสถาบันอุดมศึกษา 158 แห่งทั่วกว่างซีเป็นที่เรียบร้อย และคาดว่าจะติดตั้งให้ครอบคลุมทุกแห่งภายในสิ้นปีนี้
- เป็นที่น่าจับตามองว่าโครงข่าย 5G จะเป็นตัวพลิกโฉมแวดวงการศึกษาของกว่างซีอย่างสิ้นเชิงในหลายด้าน เช่น ห้องเรียนเสมือนจริง การเรียนผ่านระบบควบคุมทางไกล การเรียนผ่านระบบออนไลน์แบบ real time และการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยภายในสถานศึกษา
China Mobile (中国移动) บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีนสาขากว่างซีได้เริ่มวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนที่รองรับคลื่นสัญญาณ 5G ยี่ห้อ Huawei รุ่น Mate 20 (เวอร์ชั่น 5G) ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงอย่างเป็นทางการแล้ว จึงกล่าวได้ว่า เขตฯ กว่างซีจ้วงเป็นพื้นที่แรกที่มีโอกาสได้สัมผัสประสบการณ์การใช้งานโครงข่าย 5G ในประเทศจีน
ก่อนหน้านี้ China Mobile สาขากว่างซี ได้เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถสั่งจองสมาร์ทโฟน 5G ผ่านระบบออนไลน์ โดยคุณหยาง เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน 5G พร้อมได้สัมผัสประสบการณ์ Fast and Furious ของสมาร์ทโฟน 5G เป็นคนแรกในเขตฯ กว่างซีจ้วง สนนราคาที่ 6,199 หยวน แถม China Mobile สาขากว่างซียังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน 5G ให้ใช้อินเทอร์เน็ต 5G แบบฟรีๆ เดือนละ 100 GB (จำกัดการใช้งานเฉพาะในจีนแผ่นดินใหญ่) ตั้งแต่สิงหาคม-กันยายน 2562
ปัจจุบัน China Mobile สาขากว่างซีได้วางระบบโครงข่าย(ทดสอบ)สัญญาณ 5G ทั้ง 14 เมืองทั่วมณฑลเป็นที่เรียบร้อย อย่างในนครหนานหนิง (เมืองเอก) สัญญาณ 5G ครอบคลุมบริเวณย่านธุรกิจ จุดท่องเที่ยวพักผ่อน สถานีรถไฟ และสถาบันการศึกษา เช่น ถนนเส้นหลักหมินจู๋ต้าต้าว สถานีรถไฟตะวันออก สวนสาธารณะหนานหู ศูนย์ประชุมและจัดแสดงนิทรรศการนานาชาติหนานหนิง และมหาวิทยาลัยชั้นนำ
จุดที่น่าสนใจ คือ สถาบันการศึกษาเป็นพื้นที่เป้าหมายที่ China Mobile สาขากว่างซีใช้เพื่อทดสอบระบบโครงข่าย 5G โดยขณะนี้ China Mobile ได้ติดตั้งระบบสัญญาณ 5G ในสถาบันการศึกษากว่า 158 แห่งทั่วกว่างซีเป็นที่เรียบร้อย
ตัวอย่างการทดสอบสัญญาณ 5G ในมหาวิทยาลัยชั้นนำ (มหาวิทยาลัยกว่างซี มหาวิทยาลัยชนชาติกว่างซี และมหาวิทยาลัยการแพทย์กว่างซี) ค่าความเร็วดาวน์โหลดสูงสุดแตะ 1043 Mpbs และค่าความเร็วอัปโหลดสูงสุด 115 Mpbs ซึ่งเร็วว่าสัญญาณ 4G กว่า 10 เท่า หรือเข้าใจง่ายๆ คือ ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดภาพยนตร์ที่ภาพคมชัดระดับ High Definition ด้วยระบบ 5G ได้ภายในไม่กี่สิบวินาที ขณะที่การใช้อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ในการดาวน์โหลดต้องใช้เวลาประมาณ 5 นาที และผู้ใช้งานสามารถเลื่อนวิดีโอได้โดยไม่ต้องเจอปัญหาภาพค้างหรือสะดุดให้กวนใจ
ทั้งนี้ China Mobile สาขากว่างซี ตั้งเป้าหมายว่าจะติดตั้งระบบโครงข่าย 5G ให้ครอบคลุมสถาบันการศึกษา(ระดับอุดมศึกษา)ทุกแห่งในมณฑลภายในสิ้นปีนี้ และโครงข่าย 5G จะเป็นตัวพลิกโฉมแวดวงการศึกษาของกว่างซีอย่างสิ้นเชิงในหลายด้าน เช่น ห้องเรียนเสมือนจริง การเรียนผ่านระบบควบคุมทางไกล การเรียนผ่านระบบออนไลน์แบบ real time และการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยภายในสถานศึกษา
ยกตัวอย่างเช่น นักศึกษาสามารถเรียนด้วยระบบควบคุมทางไกล และเขียนคำตอบให้อาจารย์ผ่านหน้าจอแบบ real time รวมถึงการสแกนใบหน้าเพื่อเข้าห้องเรียน เข้าหอพัก และเข้าห้องสมุด อาจารย์และผู้ปกครองสามารถวิเคราะห์สภาพอารมณ์และพฤติกรรมของนักเรียนด้วยระบบควบคุมทางไกล
นอกจาก สมาร์ทโฟน 5G แบรนด์ Huawei รุ่น Mate 20 (เวอร์ชั่น 5G) แล้ว ยังมีแบรนด์ ZTE รุ่น Axon 10 Pro / แบรนด์ vivo IQOO Pro และแบรนด์ China Mobile รุ่น X1 ที่กำลังจะทยอยออกสู่ตลาด ซึ่งทาง China Mobile คาดหมายว่า การพัฒนาเครือข่ายสัญญาณ 5G ให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นต่อเนื่องจะทำให้จำนวนผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน 5G ในช่วงปลายปี 2562 ไปจนถึงช่วงครึ่งปีแรกของปี 2563 เติบโตอย่างก้าวกระโดด
แม้ว่าเทคโนโลยี 5G ไม่ได้เข้ามาแทนที่ 3G และ 4G ทั้งหมด (เหมือนกรณีที่ 3G และ 4G เข้ามาแทนที่ EDGE) แต่ด้วยประสิทธิภาพที่สูงกว่าทั้งด้านความสามารถในการรองรับข้อมูลและความเร็วในการรับส่งข้อมูล ทำให้ 5G ช่วยสนับสนุนและขยายโอกาสการสร้างบริการดิจิทัลให้กว้างขวางและครอบคลุมตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากขึ้น และเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและก่อให้เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเพิ่มสูงขึ้น
โดยมีการประเมินกันว่า หากมีการใช้งาน 5G อย่างเต็มรูปแบบ จะเห็นอุตสาหกรรมรูปแบบใหม่เกิดและเติบโตขึ้นมาอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเพื่อความบันเทิง (ภาพยนตร์ การถ่ายทอดสด กีฬา และ e-Sports) และจะมีการนำเทคโนโลยี AR และ VR มาประยุกต์ใช้ในด้านต่างๆ มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแวดวงการศึกษา การฝึกฝนสำหรับงานที่มีความเสี่ยงอันตราย รถยนต์ไร้คนขับ การจัดการโรงงานอัจฉริยะ การแพทย์ทางไกล จนไปถึงการบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะ
จัดทำโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา เว็บไซต์ www.gx.chinanews.com (中国新闻网) วันที่ 10 กันยายน 2562 และ 16 สิงหาคม 2562
เว็บไซต์ http://gx.people.com.cn (广西人民网) วันที่ 29 สิงหาคม 2562
ภาพประกอบ www.pixabay.com
