โอกาสของผู้ประกอบการไทยกับ “ศูนย์ e-Commerce ข้ามแดนนครหนานหนิง”

4 Jan 2019

ไฮไลท์

  • “เทคโนโลยีและนวัตกรรม” เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนพฤติกรรมการบริโภคของชาวจีนจากการค้าปลีกไปสู่แพลตฟอร์ม e-Commerce ในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ เว็บไซต์ แอปพลิเคชันบนมือถือ และโซเชียลมีเดีย ทำให้จีนเป็นตลาด e-Commerce ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
  • วิวัฒนาการของ e-Commerce กับพฤติกรรมผู้บริโภคชาวจีนรุ่นใหม่ที่รักความอินเตอร์ได้พลิกคอนเซปต์ e-Commerce จากการซื้อสินค้าในประเทศเป็นการซื้อสินค้าจากทั่วโลก และเป็นที่มาของ “Cross Border E-Commerce” (CBEC) หรือพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน
  • ปัจจุบัน รัฐบาลจีนได้ประกาศจัดตั้งพื้นที่ทดลอง CBEC ใน 35 เมืองทั่วประเทศ รวมถึง “นครหนานหนิง” ของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง

 

ณ เวลานี้ หากพูดถึงตลาด e-Commerce ที่น่าสนใจที่สุด คงหนีไม่พ้นตลาด e-Commerce แดนมังกร เมื่อปี 2560 การค้าผ่านระบบออนไลน์ในจีนมีมูลค่ากว่า 29.16 ล้านล้านหยวน หรือเกือบ 9.5 เท่าของ GDP ประเทศไทย ซึ่งน่าจะพอการันตีเก้าอี้ผู้นำตลาด e-Commerce ขนาดใหญ่ที่สุดของโลกได้อย่างไร้ข้อกังขา

ปัจจุบัน e-Commerce มีบทบาทในระบบเศรษฐกิจและสังคมจีน ชาวจีนนิยมซื้อ(ขาย)สินค้าออนไลน์ โดยเฉพาะการค้า e-Commerce ข้ามแดน (CBEC) เป็นเทรนด์ธุรกิจใหม่ที่พัฒาอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีมานี้ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในรูปแบบของธุรกิจสู่ผู้บริโภค (B2C) และธุรกิจสู่ธุรกิจ (B2B)

เพื่อสร้างมาตรฐานและส่งเสริม ecosystem ให้กับธุรกิจ CBEC ในจีน รัฐบาลจีนจึงมีแนวคิดการจัดตั้ง “พื้นที่ทดลองการค้า e-Commerce ข้ามแดนแบบครบวงจร” ที่นครหังโจวเป็นแห่งแรกในจีน ก่อนที่จะขยายผลจนมี 35 เมืองทั่วประเทศจีนในปัจจุบัน

สำหรับ “นครหนานหนิง” เป็นสมาชิกใหม่ในบัญชีรายชื่อเมืองที่รัฐบาลกลางอนุมัติให้จัดตั้งเป็นพื้นที่ทดลอง CBEC แบบครบวงจรเมื่อเดือนกรกฎาคม 2561 เพื่อเป็นพื้นที่นำร่องการค้าออนไลน์ รวมถึงธุรกรรมที่เกี่ยวข้อง ทั้งการชำระเงิน โลจิสติกส์ พิธีการศุลกากร การคืนภาษี และการชำระบัญชีเงินโอน เพื่อใช้เป็นต้นแบบการพัฒนาการค้าออนไลน์ข้ามแดนอย่างยั่งยืนในพื้นที่อื่นของจีนและของโลก

ยุทธศาสตร์พื้นที่ทดลอง CBEC แบบครบวงจรนครหนานหนิงได้กำหนดให้ “เขตสินค้าทัณฑ์บนแบบครบวงจรหนานหนิง” (Nanning Integrated Free Trade Zone/南宁综合保税区) เป็นศูนย์กลาง โดยมีเขตเศรษฐกิจสนามบินหนานหนิง เขตท่าเรือสินค้าทัณฑ์บนชินโจว และเขตสินค้าทัณฑ์บนแบบครบวงจรผิงเสียง เป็นปีกเสริมสำหรับสินค้าขนส่งทางอากาศ เรือ และชายแดน ตามลำดับ

เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2561 นครหนานหนิงได้เปิดศูนย์ CBEC (南大门跨境电商保税直购中心) อย่างเป็นทางการในเขตสินค้าทัณฑ์บนแบบครบวงจรหนานหนิง เพื่อใช้เป็นฐานธุรกิจ CBEC ที่ครอบคลุมภูมิภาคจีนตะวันตก จีนตอนล่าง และประเทศสมาชิกอาเซียน

ศูนย์ดังกล่าวบริหารงานโดยบริษัท Guangxi Nandamen Cross-Border E-Commerce Operating (广西南大门跨境电商运营有限公司) ภายในศูนย์ฯ มีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศจำนวนมากให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ โดยเฉพาะอาหาร ผลิตภัณฑ์สำหรับแม่และเด็ก เครื่องสำอาง เครื่องใช้ภายในบ้าน อาหารเสริม สินค้าแฟชั่น ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภค

นอกจากนี้ แพลตฟอร์ม CBEC รายใหญ่ในจีนกำลังเตรียมเข้าไปอยู่ในศูนย์แห่งนี้แล้วเช่นกัน อาทิ tmall.com kaola.com xiaohongshu.com ดังปรากฏตามภาพประกอบด้านล่าง

การค้า e-Commerce ของกว่างซีมีแนวโน้มเติบโตอย่างรวดเร็วจาก 1.26 แสนล้านหยวนในปี 2556 เพิ่มขึ้นเป็น 7.05 แสนล้านหยวนในปี 2560 คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ย 53.3% และคาดว่าจะพุ่งทะลุ 1 ล้านล้านหยวนในปี 2563

BIC เห็นว่า ศูนย์ CBEC นครหนานหนิงเป็นอีกช่องทางที่ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์ในการเจาะตลาดผู้บริโภคภาคตะวันตกและภาคกลางตอนล่างของจีน โดยอาศัยความใกล้ชิดด้านทำเลที่ตั้ง ความสะดวกในการขนส่ง ความคุ้นเคยและการยอมรับสินค้าไทยของผู้บริโภคชาวจีน อีกทั้งยังมีคู่แข่งจำนวนไม่มาก

 

 

จัดทำโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
แหล่งที่มา เว็บไซต์ www.gx.chinanews.com (
中国新闻网) ประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2561
รูปประกอบ https://pixabay.com

อีคอมเมิร์ซจีนCBECCross-Border E-Commerce

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน