ธุรกิจรองเท้าเฉวียนโจวเกินอุปสงค์ตลาด รัฐแนะช่องทางกระจายสินค้า

7 Jan 2013

7 ม.ค. 56 (www.fjsen.com) – รายงานข่าวระบุว่า เนื่องจากความไม่สอดคล้องของปริมาณสินค้าที่ผลิตออกมาและความต้องการของตลาด ส่งผลให้สินค้าค้างสต๊อกกลายเป็นปัญหาใหญ่ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจรองเท้าของเมืองเฉวียนโจว (泉州) มณฑลฝูเจี้ยน กำลังประสบอยู่ ณ ปัจจุบัน

เมืองเฉวียนโจวมีห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมสิ่งทอและรองเท้าเป็นจำนวนมาก เพียงแค่อำเภอจิ้นเจียง(晋江) แห่งเดียวก็มีผู้ประกอบกิจการรองเท้ากว่า 3 พันราย สามารถผลิตรองเท้าได้ประมาณ 1 พันล้านคู่ต่อปี โดยกำลังการผลิตรองเท้าผ้าใบและรองเท้ากีฬา คิดเป็นร้อยละ 40 ของทั้งประเทศจีน และคิดเป็นร้อยละ 20 ของทั้งโลก สำหรับอำเภอสือซือ (石狮) ก็เช่นเดียวกัน เป็นแหล่งรวมของธุรกิจรองเท้าชื่อดัง และมีพลวัตการเติบโตมากแห่งหนึ่งของเมือง อย่างไรก็ตาม ปัญหาสินค้า “ค้างสต๊อก” กำลังเป็นปัญหาที่ท้าท้ายความสามารถของผู้ประกอบการอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า ปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น ความคล้ายคลึงของรูปแบบสินค้าและราคาที่ใกล้เคียงกัน ภาวะเงินเฟ้อส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง และที่สำคัญคือ การเติบโตของธุรกิจที่รวดเร็วกว่าความต้องการของตลาด

ที่น่ากังวลคือ ปัญหานี้กำลังส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ กล่าวคือ สินค้าค้างสต๊อกของผู้ประกอบการระดับแนวหน้าไม่เพียงแต่กระทบยอดสั่งสินค้าของผู้รับเหมาการผลิต (Sub-contractor) ยังกระทบต่อความต้องการของสินค้าแบรนด์ในระดับรองลงมาด้วย ส่งผลให้จำนวนสินค้าค้างสต๊อกยิ่งมีจำนวนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการจำนวนมากได้ใช้หลายวิธีในการระบายสินค้าของตนเอง ทั้งการขายผ่านทางอินเตอร์เน็ต จัดงานแสดงสินค้า และเปิดร้านลดราคา

สำหรับวิธีการแก้ปัญหา นายอู๋ เหว่ย หัว (吴伟华) กรรมาธิการเมืองเฉวียนโจวเสนอว่า ภายใต้การนำของรัฐบาลเมืองเฉวียนโจวและสมาคมหอการค้า อาจเสนอนำสินค้าค้างสต๊อกดังกล่าวกระจายเข้าสู่ตลาด left-over product (尾货市场) เพื่อบรรเทาปัญหาและใช้เป็นช่องทางการกระจายสินค้าในระยะยาว

หมายเหตุ: left-over product (尾货) คือ สินค้าที่เหลือจากการผลิตสินค้าในแต่ละยอดคำสั่งการผลิต อาจเป็นเพราะลูกค้าไม่มารับสินค้าตามกำหนด เลยความนิยมของฤดูกาล หรือมีตำหนิเล็กน้อย แต่ยังคงมีคุณภาพตรงตามมาตรฐานสินค้า เนื่องจากมีจุดเด่นที่ราคาถูกจึงได้รับความนิยมจากผู้บริโภค