กว่างซีนำเข้ายาสมุนไพรจีน 60% ของทั้งประเทศ คุณเห็นโอกาสหรือไม่

11 Dec 2020

ไฮไลท์

• ในแต่ละปีการนำเข้าวัตถุดิบยาสมุนไพรจีนผ่านด่านในกว่างซีมีสัดส่วนกว่า 60%-70% ของทั้งประเทศจีน โดย “เขตนำร่องการเปิดสู่ภายนอกด้านการแพทย์นานาชาติ” ที่เมืองฝางเฉิงก่าง (Fangchenggang City) ของกว่างซี เป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ช่วยสนับสนุนความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านการแพทย์ระหว่างจีนกับต่างประเทศ และเป็นช่องทางสำคัญที่จีนใช้เพื่อการนำเข้าวัตถุดิบยาสมุนไพรจีนจากอาเซียน
• เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2563 มาตรการบริหารจัดการวัตถุดิบยานำเข้าฉบับใหม่ที่ประกาศโดยสำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งชาติจีน (State Administration for Market Regulation-SAMR/国家市场监督管理总局) มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งส่วนหนึ่งระบุว่า การขึ้นทะเบียนวัตถุดิบยานำเข้าจะต้องยื่นเอกสารรับรองและสัญญาซื้อที่ลงนามกับผู้ขายในต่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้นำเข้า
• สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจีน (CCPIT) ประจำกว่างซี ได้เปิดช่องทางพิเศษ (Green Lane) ในการขอรับรองนิติกรณ์ (Consular Legalization) สัญญาซื้อให้กับผู้นำเข้าวัตถุดิบยาสมุนไพรจีน ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้ประกอบการขออนุญาตนำเข้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้นำเข้าวัตถุดิบยาสมุนไพรจีน
• การคัดเลือกคู่ค้าในประเทศจีนเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ค้าจีนที่เป็นสมาชิกของ CCPIT เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผู้ประกอบการไทยสามารถนำไปใช้ประกอบการพิจารณาเลือกคู่ค้าจีน เพราะในกรณีที่สินค้าได้รับความเสียหายหรือต้องประสบปัญหาอุปสรรคด้านการนำเข้า-ส่งออกแล้ว ทาง CCPIT จะเป็นตัวกลางสำคัญที่ช่วยไกล่เกลี่ยหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าว ทำให้ผู้นำเข้าได้รับสินค้าเร็วและสั่งจ่ายเงินให้กับผู้ขายเร็วตามไปด้วย

 

สภาส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจีน (China Council for the Promotion of International Trade – CCPIT) ประจำเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ได้เปิดช่องทางพิเศษ (Green Lane) ในการขอรับรองนิติกรณ์ (Consular Legalization) สัญญาซื้อให้กับผู้นำเข้าวัตถุดิบยาสมุนไพรจีน ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้ประกอบการขออนุญาตนำเข้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้นำเข้าวัตถุดิบยาสมุนไพรจีน โดยระหว่างเดือนมกราคม – ตุลาคม 2563 ได้รับรองเอกสารที่เกี่ยวข้องคิดเป็นมูลค่าสัญญาซื้อราว 530 ล้านหยวน

เขตฯ กว่างซีจ้วงเป็นมณฑลที่มีความพร้อมด้านสภาพแวดล้อมการดำเนินธุรกิจด้านการแพทย์และยาสมุนไพร ในการประชุมองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO Summit)  ครั้งที่ 19 เมื่อเดือนมิถุนายน 2562 ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวสนับสนุนการจัดตั้ง “เขตนำร่องการเปิดสู่ภายนอกด้านการแพทย์นานาชาติ” ที่เมืองฝางเฉิงก่าง (Fangchenggang City/防城港市) ของกว่างซี อันเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่ช่วยสนับสนุนความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนด้านการแพทย์ระหว่างจีนกับต่างประเทศ และเป็นช่องทางสำคัญที่จีนใช้เพื่อการนำเข้าวัตถุดิบยาสมุนไพรจีนจากอาเซียน

ตามรายงาน ปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบยาสมุนไพรจีนผ่านด่านในกว่างซีในแต่ละปีมีสัดส่วนกว่า 60%-70% ของทั้งประเทศจีน โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งชนิดและปริมาณการนำเข้าวัตถุดิบยาสมุนไพรจีนจากต่างประเทศผ่านกว่างซีพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เขตฯ กว่างซีจ้วงมีด่านที่ได้รับอนุญาตการนำเข้าวัตถุดิบยาสมุนไพรจีนได้ 4 แห่ง ได้แก่ ด่านนครหนานหนิง ด่านทางบกผิงเสียง ด่านทางบกตงซิง และด่านทางบกหลงปัง

เฉพาะพื้นที่เขตทดลองการค้าเสรีจีน(กว่างซี) พื้นที่ย่อยนครหนานหนิง พบว่า ช่วง 10 เดือนแรกของปีนี้ สถานการณ์การนำเข้าวัตถุดิบยาสมุนไพรจีนมีแนวโน้มเติบโตแบบก้าวกระโดด มีการยื่นคำร้องนำเข้า 735 ล็อต คิดเป็นน้ำหนักมากกว่า 10,000 ตัน หลักๆ ประกอบด้วยดอกจันทน์ (Mace/豆蔻) ลูกจันทน์เทศ (Nutmeg/肉豆蔻) สมอไทย (Terminalia chebula Retz./西青果) และลูกสำรอง (Mulva Nut/胖大海) โดยมีแหล่งนำเข้าหลักจากอินโดนีเซียและประเทศไทย

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2563 มาตรการบริหารจัดการวัตถุดิบยานำเข้าฉบับใหม่ที่ประกาศโดยสำนักงานกำกับดูแลตลาดแห่งชาติจีน (State Administration for Market Regulation-SAMR/国家市场监督管理总局) มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ซึ่งส่วนหนึ่งระบุว่า การขึ้นทะเบียนวัตถุดิบยานำเข้าจะต้องยื่นเอกสารรับรองและสัญญาซื้อที่ลงนามกับผู้ขายในต่างประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้นำเข้า ทาง CCPIT กว่างซีจึงได้เปิดช่องพิเศษเพื่อขอรับรองนิติกรณ์สัญญาซื้อให้กับผู้นำเข้าวัตถุดิบยาสมุนไพรจีนได้ภายในวันเดียว

ยกตัวอย่างเมื่อต้นเดือนตุลาคม 2563 บริษัทนำเข้ายาสมุนไพรจีนในนครหนานหนิง (南宁一医药公司) ได้นำเข้ายาสมุนไพรชื่อว่าข้าวเย็นใต้ (Smilax glabra Roxb./土茯苓) จำนวน 5 ล้านตันจากประเทศเวียดนาม คิดเป็นมูลค่าสินค้า 24 ล้านหยวน ในระหว่างการดำเนินพิธีการนำเข้าที่ด่านโหย่วอี้กวานของอำเภอระดับเมืองผิงเสียง ได้ทราบว่าในระเบียบใหม่ที่กำหนดให้การนำเข้ายาสมุนไพรจำเป็นต้องใช้เอกสารสัญญาซื้อที่ผ่านการรับรองนิติกรณ์ ทำให้สินค้าติดค้างอยู่ที่ด่าน ในการนี้ CCPIT กว่างซีได้เข้าไปอำนวยความสะดวกในการออกเอกสารรับรองให้แก่ผู้นำเข้า ช่วยให้สินค้าสามารถผ่านเข้าประเทศจีนได้อย่างสะดวกรวดเร็ว

นับตั้งแต่ต้นปีมานี้  CCPIT กว่างซีได้ปฏิรูประบบการทำงานเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ภาคธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ต ซึ่งช่วยก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องเวลาทำการ พนักงานบริษัทไม่ต้องเดินทางไปดำเนินการด้วยตนเอง ณ ที่ทำการของ CCPIT โดยสามารถยื่นออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้การยื่นขอเอกสารประกอบการนำเข้า-ส่งออกของภาคธุรกิจในกว่างซีทำได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว

บีไอซี ตั้งข้อสังเกตว่า การคัดเลือกคู่ค้าในประเทศจีนเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ค้าจีนที่เป็นสมาชิกของ CCPIT เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ผู้ประกอบการไทยสามารถนำไปใช้ประกอบการพิจารณาเลือกคู่ค้าจีนได้ เนื่องจากในกรณีที่สินค้าได้รับความเสียหายหรือประสบอุปสรรคการนำเข้า-ส่งออก ทาง CCPIT จะเป็นตัวกลางสำคัญที่ช่วยไกล่เกลี่ยหรือแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับคู่ค้าทั้งสองฝ่ายได้ดังกรณีตัวอย่างข้างต้น ทำให้ผู้นำเข้าได้รับสินค้าและสั่งจ่ายเงินให้กับผู้ขายได้อย่างรวดเร็ว

 

จัดทำโดย นายกฤษณะ สุกันตพงศ์ ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครหนานหนิง
ที่มา  เว็บไซต์ www.gx.chinanews.com (中新社广西) วันที่ 2 และ 9 ธันวาคม 2563