“เซี่ยงไฮ้” วงจรรวม AI และยาชีวภาพ สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของเขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี

1 Apr 2022

ปี 2565 เป็นอีกปีสำคัญของเซี่ยงไฮ้ที่จะใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบเชิงยุทธศาสตร์สำหรับการพัฒนาในมิติต่าง ๆ อย่างมั่นคงในระยะยาว ตลอดจนมีการดำเนินโครงการปฏิรูปเชิงลึกและเปิดกว้างด้านนวัตกรรม ส่งผลให้มหานครเซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) ที่มีอิทธิพลระดับโลกโดย 3 อุตสาหกรรมหลักด้าน วทน. ที่เซี่ยงไฮ้จะมุ่งเน้นพัฒนาตลอดช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ระยะ 5 ปี ฉบับที่ 14 (ปี ค.ศ. 2021 – 2025) ได้แก่ วงจรรวม AI และยาชีวภาพ

ผลักดันวงจรรวม.. หันมา “พึ่งพาตัวเอง”

วงจรรวม (Integrated Circuit: IC) ถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนยุคดิจิทัลในปัจจุบัน โดยส่วนประกอบในวงจรรวมที่เรียกว่า “Semiconductor” เป็นเหมือนสมองของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด ซึ่งสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายด้าน เช่น 5G หุ่นยนต์ แหล่งเก็บพลังงาน สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ รถยนต์ เครื่องบิน เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ AI เป็นต้น

เซี่ยงไฮ้ในฐานะเมืองทันสมัยที่มุ้งเน้น วทน. เป็นตัวขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ จึงมีความต้องการใช้วงจรรวมจำนวนมหาศาล ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาเซี่ยงไฮ้ได้นำเข้าวงจรรวมจากต่างประเทศมากเป็นอันดับ 3 ของจีนรองจากมณฑลกวางตุ้งและมณฑลเจียงซู1 ปัจจุบันรัฐบาลเซี่ยงไฮ้พยายามหันมา “พึ่งพาตัวเอง” โดยมุ่งเน้นส่งเสริมนวัตกรรมวงจรรวมอย่างอิสระ เร่งวิจัยเทคโนโลยีที่สำคัญ และยกระดับกระบวนการผลิตขั้นสูง เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตและพัฒนาห่วงโซ่อุตสาหกรรม Semiconductor ทั้งหมด รวมถึงมีแผนจะสร้างระบบอุตสาหกรรมวงจรรวมระดับโลกที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง สร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์อย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้ประกาศให้เงินอุดหนุนสนับสนุนโครงการด้านวงจรรวมและซอฟต์แวร์ที่สำคัญจำนวนร้อยละ 30 ของมูลค่าการลงทุนใหม่ (ยอดเงินอุดหนุนสูงสุดไม่เกิน 100 ล้านหยวน) อีกทั้งยังได้ประกาศยกเลิกข้อจำกัดสำหรับการลงทุนใหม่ในโครงการสำคัญ ได้แก่ Exploratory Data Analysis (EDA), Basic Software, Industrial Software และ Information Security Software โดยหากเป็นบริษัทที่มีกระบวนการ Tape-out2 ด้วยแล้ว จะได้รับการสนับสนุนทางการเงินอีกร้อยละ 30 เพื่อส่งเสริมการผลิต Semiconductor ขนาด 28 นาโนเมตรในเซี่ยงไฮ้

ปัจจุบันมีการลงทุนในธุรกิจผลิตวงจรรวมที่น่าสนใจในเซี่ยงไฮ้ อาทิ บริษัท Shanghai Fudan Microelectronics ซึ่งเป็นผู้ผลิตไมโครคอนโทรลเลอร์ (วงจรรวมชนิดหนึ่ง) รายใหญ่ที่สุดของจีน โดยเป็นชิ้นส่วนสำคัญสำหรับยานยนต์ไร้คนขับและรถยนต์พลังงานไฟฟ้า และบริษัท Semiconductor Manufacturing International Corporation (SMIC) ซึ่งเป็นผู้ผลิต Semiconductor รายใหญ่ที่สุดในจีน

นอกจากนี้ เซี่ยงไฮ้จะส่งเสริมนวัตกรรมด้านที่เกี่ยวข้องกับวงจรรวมเพิ่มเติมด้วย เช่น Internet of Things (IoT) อุปกรณ์อัจฉริยะ ระบบตรวจจับอัจฉริยะ วิดีโอความละเอียดสูงพิเศษ และสุขภาพอัจฉริยะ (smart health) เป็นต้น

AI ล้ำหน้า.. “3 สาขา” น่าสนใจ

AI ถือเป็นกุญแจสำคัญในการเสริมสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ ในทุกมิติของระบบเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของผู้คน โดยเขตหลินกั่ง (เขตการค้าเสรีโซนใหม่ของเซี่ยงไฮ้) เป็นที่ตั้งของ AI Data Center ใหญ่ที่สุดของเอเชีย ซึ่งได้ประยุกต์ใช้ AI ใน 58 สถานการณ์ (Application Scenarios) คลอบคลุมในด้านการศึกษา การแพทย์ การท่องเที่ยว การเงิน ฯลฯ ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้จะกระตุ้นให้ขนาดอุตสาหกรรม AI มีมูลค่าเกิน 4 แสนล้านหยวนเมื่อถึงปี 25683 ซึ่งมีอัตราการขยายตัวต่อปีมากกว่าร้อยละ 12 โดยปัจจุบันเซี่ยงไฮ้ได้ประยุกต์ใช้ AI ใน 3 สาขาสำคัญ ได้แก่

1. AI เพื่อสุขภาพและการแพทย์ อาทิ

– “Family Doctor Strategy” ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้ AI เพื่อลดความตึงเครียดในงานบริการของโรงพยาบาลและสังคมผู้สูงอายุ อาทิ วินิจฉัยและบริการด้านการดูแลสุขภาพออนไลน์ การวินิจฉัยโรคทางไกล (remote doctor diagnosis) การจัดเก็บและส่งเวชภัณฑ์ การจัดการสุขภาพ การจัดการโรคเรื้อรัง และการดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น

– “หุ่นยนต์เก็บตัวอย่างเลือดอัจฉริยะแห่งแรกของเซี่ยงไฮ้” ซึ่งจะวิเคราะห์สภาพหลอดเลือดของผู้ใช้บริการ เพื่อกำหนดตำแหน่ง ทิศทาง และองศาอย่างแม่นยำในการเจาะเลือดที่ปลอดภัย ไม่เจ็บ และได้มาตรฐานทางการแพทย์ โดยเริ่มดำเนินการแล้วที่โรงพยาบาล Zhongshan

– “แอปพลิเคชัน AI ตรวจจับมะเร็งตับอ่อน” ซึ่งสามารถตรวจหามะเร็งตับอ่อนได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ พร้อมชี้แนะแนวทางการวินิจฉัยโรคและการรักษาของแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ โดยได้ใช้งานงานแล้วในโรงพยาบาล Ruijin

– “เครื่อง CT scan และรังสีรักษาแบบอัตโนมัติภายในเครื่องเดียวด้วย AI” ซึ่งเป็นเครื่องแรกของโลกที่ช่วยลดระยะเวลาการรักษาเหลือเพียง 20 นาทีจากเดิมที่ต้องใช้เวลาเกือบทั้งวัน ปัจจุบันได้ใช้งานแล้วที่ Shanghai Cancer Center

– “หุ่นยนต์ AI ฆ่าเชื้อในโรงพยาบาลสนาม” ซึ่งพัฒนาโดย Taimi Robotics Technology Co.,Ltd. เซี่ยงไฮ้ ปัจจุบันได้ใช้งานจริงที่โรงพยาบาลสนาม Shanghai World Expo Exhibition and Convention เขตผู่ตงในช่วงที่เซี่ยงไฮ้
ล็อคดาวน์ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2565 โดยหุ่นยนต์ดังกล่าวสามารถทำงานฆ่าเชื้อแทนที่บุคลากรทางการแพทย์ได้ต่อเนื่อง 7 วัน × 24 ชั่วโมง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อระหว่างผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพ

2. AI เพื่อการศึกษา อาทิ

– “หุ่น AI ให้การบ้านคณิตศาสตร์กับนักเรียนรายบุคคล” ซึ่งใช้งานใน You Ai Experimental Middle School ในเขตหมิ่นหางของเซี่ยงไฮ้ โดยหุ่น AI จะเก็บข้อมูลการแก้โจทย์คณิตศาสตร์ของนักเรียนผ่านปากกาอิเล็กทรอนิกส์ที่มีกล้องติดอยู่ รวมถึงสามารถตรวจการบ้านได้ด้วย

– “โค้ช AI ช่วยนักเรียนออกกำลังกายที่บ้าน” ใช้งานครั้งแรกที่ Shanghai Tian Lin No.3 Middle School (เขตสวีฮุ่ย) โดยโค้ช AI “Yuedong Circle” เป็นแพลตฟอร์มพลศึกษาออนไลน์ที่ช่วยให้ครูพลศึกษามองเห็นสถานะด้านกีฬาของนักเรียน สามารถป้องกันการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาผ่านฟังก์ชั่น “Joy Movement” ซึ่งใช้ประโยชน์จากอัลกอริทึม (Algorithm) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ในด้านการรับรู้ภาพ สามารถจับการเคลื่อนไหวร่างกาย วิเคราะห์แก้ไขการเคลื่อนไหวของร่างกาย อีกทั้งช่วยให้ครูพลศึกษาสามารถให้การบ้านและออกแบบแผนกีฬาที่นักเรียนสามารถทำในบ้านได้อีกด้วย

3. AI สำหรับโลจิสติกส์ อาทิ

– “สถานีตู้สินค้าอัตโนมัติและรถบรรทุกอัจฉริยะในท่าเรือเซี่ยงไฮ้” ซึ่งมีบทบาทช่วยเพิ่มปริมาณการขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์ในปี 2564 และเป็นผลให้เซี่ยงไฮ้ยังคงครองสถิติท่าเรือที่มีปริมาณขนถ่ายตู้คอนเทนเนอร์มากที่สุดในโลกติดต่อกันเป็นปีที่ 12 ที่ปริมาณกว่า 47 ล้าน TEUs

– “โรงอาหาร AI แห่งแรกในเซี่ยงไฮ้” ตั้งอยู่ที่เขตฉางหนิง ซึ่งให้บริการบนพื้นที่ขนาด 130 ตารางเมตรโดยได้ติดตั้งแขนกลทำหน้าที่จัดเตรียมอาหารผ่านระบบ IoT สามารถทำอาหารรองรับผู้คนได้ 800 – 1,000 คนต่อวัน ซึ่งมีต้นทุนค่าแรงงานต่ำกว่าครัวแบบดั้งเดิมถึงร้อยละ 50 – 80

– “5G Intelligent Cloud Robot ในโรงพยาบาลสนาม” ซึ่งเป็นความร่วมมือวิจัยพัฒนาระหว่าง China Mobile (Shanghai) กับบริษัท CloudMinds (Shanghai) โดยเป็นหุ่นยนต์ที่ทำหน้าที่เสิร์ฟอาหารและยาในโรงพยาบาลสนาม National Exhibition and Convention Center (Shanghai) เขตชิงผู่ในช่วงที่เซี่ยงไฮ้ล็อคดาวน์ ซึ่งช่วยแบ่งเบาภาระการทำงานของเจ้าหน้าที่ได้เป็นอย่างดี สามารถลดการสัมผัสโดยตรงระหว่างผู้ป่วยกับเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลสนาม

“โมเดล 1+5+X” กับการพัฒนาอุตสาหกรรมยาชีวภาพ

เทคโนโลยีชีวภาพมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของมนุษย์เช่นกัน ซึ่งรัฐบาลเซี่ยงไฮ้มีแผนส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพคุณภาพสูง โดยจะสนับสนุนการวิจัยพัฒนาสินค้านวัตกรรม การวิจัยด้านการแพทย์ สนับสนุน R&D รวมถึงจัดทำแผนระยะ 3 ปี (ค.ศ. 2021 – 2024) เพื่อสร้างคลัสเตอร์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพระดับโลก

ปัจจุบัน เซี่ยงไฮ้มีนิคมอุตสาหกรรมยาชีวภาพรวม 6 แห่ง ได้แก่ (1) โซนนิคมอุตสาหกรรมยาชีวภาพเขตจางเจียง ซึ่งได้รับฉายาจากนานาประเทศว่าเป็น “The Silicon and Medicine Valley in China”(2) โซนนิคมอุตสาหกรรมยาชีวภาพเขตหลินกั่ง (3) โซนนิคมอุตสาหกรรม The Oriental Beauty Valley เขตเฟิ่งเสียน (4) โซนนิคมอุตสาหกรรมการผลิตยาสมัยใหม่เขตจินซาน (5) โซนนิคมอุตสาหกรรมยาชีวภาพเขตเป่าซาน และ (6) โซนทดลองการแพทย์อัจฉริยะเขตหมิ่นหาง ทั้งนี้ เซี่ยงไฮ้ได้กระตุ้นการพัฒนาอุตสาหกรรมยาชีวภาพ “โมเดล 1+5+X” กล่าวคือ มีโซนจางเจียงเป็นพื้นที่หลัก และอีก 5 โซนตามที่กล่าวมาเป็นพื้นที่รอง และเตรียมจะขยายไปยังโซนอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต

ในปี 2564 ขนาดอุตสาหกรรมยาชีวภาพของเซี่ยงไฮ้มีมูลค่ารวมกว่า 7 แสนล้านหยวน4 โดยแบ่งเป็นมูลค่าของอุตสาหกรรมการผลิตยาชีวภาพที่ 1.71 แสนล้านหยวน คาดว่าเมื่อถึงปีสุดท้ายของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 14 (ค.ศ. 2025) เซี่ยงไฮ้จะสามารถพัฒนาให้ขนาดอุตสาหกรรมยาชีวภาพมีมูลค่าทะลุยอด 1 ล้านล้านหยวน และมีขนาดของอุตสาหกรรมการผลิตยาชีวภาพที่มูลค่า 2.4 แสนล้านหยวน

นอกจากนี้ เซี่ยงไฮ้ยังเป็นที่ตั้งของวิสาหกิจและบริษัทชั้นนำหลายรายที่มีศักยภาพในด้านการแพทย์และยาชีวภาพ การวิจัย การผลิตวัคซีน ได้แก่ บริษัท Sinopharm Group Co., Ltd. บริษัท Shanghai Pharmaceutical Holding Co., Ltd. (Shanghai Pharma) และบริษัท Shanghai Fosun Pharmaceutical Group Co., Ltd. (Shanghai Fosun)

ขณะเดียวกัน สถาบันการศึกษาเช่น มหาวิทยาลัยฟู่ตั้นของเซี่ยงไฮ้ยังมีความร่วมมือกับบริษัท Shanghai Rnacure Biopharma Co., Ltd. และบริษัท Walvax Biotechnology Co., Ltd. (มณฑลยูนนาน) เพื่อร่วมกันวิจัยวัคซีนโควิด mRNA ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ โดยหลังจากการทดลองกับสัตว์แล้วพบว่ามีผลลัพธ์เชิงบวก

ไทยเผชิญความท้ายทาย.. ควบคู่ขยายความร่วมมือ

จากสถิติของศุลกากรจีนพบว่า เมื่อปี 2564 วงจรรวมที่ใช้ในทางอิเล็กทรอนิกส์เป็นอันดับ 2 ที่ไทยส่งออกสู่เซี่ยงไฮ้รองจากเครื่องประมวลผลข้อมูลอัตโนมัติ5 คิดเป็นมูลค่า 719.94 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 47.9 ทั้งนี้ แม้ว่ามูลค่าการค้าจะยังเพิ่มขึ้น แต่หากในอนาคตเซี่ยงไฮ้สามารถผลิตวงจรรวมได้ในปริมาณที่มากเพียงพอ ก็อาจมีความเป็นเป็นได้ที่จะนำเข้าจากต่างประเทศลดลงตามลำดับ ซึ่งนับเป็นความท้าทายที่ไทยอาจต้องเผชิญ

สำหรับด้าน AI นั้น ปัจจุบันไทยอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งชาติเพื่อพัฒนาประเทศไทยระยะ 7 ปี (ค.ศ. 2021 – 2027) โดยใน 2 ปีแรกจะให้ความสำคัญกับ 3 อุตสาหกรรม ได้แก่ การแพทย์ การเกษตรและอาหาร การบริการภาครัฐ ขณะที่เซี่ยงไฮ้มีความก้าวหน้าด้าน AI เพื่อสุขภาพและการแพทย์ จึงนับเป็นโอกาสดีที่ไทยสามารถจะเรียนรู้และดึงดูดเทคโนโลยีจากเซี่ยงไฮ้ได้ หรือสามารถดึงดูดบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI เข้าสู่ไทย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายที่ไทยต้องการมีบุคลากรเชี่ยวชาญด้าน AI เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ต่อปี (หรือ 700,000 คนใน 7 ปี) ทั้งนี้ การขยายความร่วมมือด้าน AI ระหว่างไทยกับเซี่ยงไฮ้ จะช่วยส่งเสริมการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจของไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยกระดับโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นประโยชน์เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับสังคมที่จะมีการใช้ประโยชน์จาก AI เพิ่มขึ้นในอนาคต

สำหรับด้านเทคโนโลยีชีวภาพนั้น ถือเป็นสาขาหนึ่งของอุตสาหกรรมเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย อีกทั้งเชื่อมโยงกับโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์การฟื้นฟูเศรษฐกิจภายหลังโควิด-19 ของไทย และเป็นสาขาที่มีความสอดคล้องกับการพัฒนาของเซี่ยงไฮ้ด้วย โดยปัจจุบันเซี่ยงไฮ้ได้พัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพอย่างเต็มที่ จึงนับเป็นโอกาสดีที่ไทยจะขยายความร่วมมือกับบริษัทที่มีศักยภาพในเซี่ยงไฮ้ โดยเฉพาะด้านการลงทุนในประเทศไทยซึ่งอาจเป็นในรูปแบบการจัดตั้งโรงงานและส่งเสริมห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิควัคซีนและยาต้านโควิด-19 รวมถึงความร่วมมือด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ การวิจัยและพัฒนา อันจะก่อให้เกิดองค์ความรู้ที่ยั่งยืนสำหรับการพัฒนาประเทศต่อไป

***************

จัดทำโดย นางสาวณัฐธิดา นิสภกุลชัย
เรียบเรียงโดย นายโอภาส เหลืองดาวเรือง
ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีนประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้

ข้อมูลอ้างอิง:

1. www.globaltimes.cn หัวข้อ Shanghai expands policy support for integrated circuit industry, special fund of 100 mln yuan to be granted วันที่ 19 มกราคม 2565
2. www.shine.cn หัวข้อ Shanghai chip designer expands into automotive market วันที่ 8 ธันวาคม 2564
3. www.pandaily.com หัวข้อ Shanghai Promotes Development of Electronic Information Industry วันที่ 31 ธันวาคม 2564
4. www.reuters.com หัวข้อ China’s SMIC to invest $8.87 bln for new chip plant in Shanghai วันที่ 3 กันยายน 2564
5. www.shine.cn หัวข้อ Long-term survival not a ‘dream’ for cancer patients วันที่ 13 พฤศจิกายน 2564
6. www.shine.cn หัวข้อ Digital education thrives in classes, labs and playing fields of Shanghai schools วันที่ 3 พฤศจิกายน 2564
7. www.shobserver.com หัวข้อ 疫情宅家运动保量更保质！AI教练助力学生居家健康运动 วันที่ 19 มีนาคม 2565
8. www.shine.cn หัวข้อ Shanghai’s first unmanned community canteen opens in Hongqiao วันที่ 21 สิงหาคม 2564
9. www.baijiahao.baidu.com หัวข้อ 复旦大学与沃森生物、蓝鹊生物签约共同开发新冠mRNA疫苗วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2565
10. www.shanghai.gov.cn หัวข้อ Opinions of the General Office of Shanghai Municipal People’s Government on Promoting the High-quality Development of the Municipal Biomedical Industry วันที่ 10 พฤศจิกายน 2564
11. https://baijiahao.baidu.com หัวข้อ上海抗疫，人工智能做了什么？วันที่ 11 เมษายน 2565
12. https://export.shobserver.com หัวข้อ入方舱40多天，机器人工程师们几要“怀疑人生”，却不小心创下业界天花板 วันที่ 5 พฤษภาคม 2565

1 จากสถิติการนำเข้าวงจรรวมจากต่างประเทศ 3 อันดับแรกของจีนปี 2564 พบว่า กวางตุ้งนำเข้า 169,087 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เจียงซูนำเข้า 71,045 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเซี่ยงไฮ้นำเข้า 47,348 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
2 Tape-out เป็นกระบวนการสำคัญขั้นตอนสุดท้ายของการออกแบบสำหรับวงจรรวมก่อนที่จะถูกส่งไปผลิต
3 จากข้อมูลล่าสุดในช่วงเดือนมกราคม – กันยายน 2564 พบว่า ขนาดอุตสาหกรรม AI ของเซี่ยงไฮ้มีมูลค่าทะลุ 2 แสนล้านหยวนแล้ว
4 ประกอบด้วยการผลิตยาชีวภาพ การผลิตยาเคมี การผลิตยาสมุนไพรจีนสมัยใหม่ อุปกรณ์การแพทย์ขั้นสูง บริการด้านเทคโนโลยี และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา
5 ปี 2564 ไทยส่งออกเครื่องประมวลข้อมูลอัตโนมัติสู่เซี่ยงไฮ้คิดเป็นมูลค่า 794.56 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ร้อยละ 239.9