ชวนส่องพัฒนาการมณฑลไห่หนาน หลังครบรอบ 5 ปีตั้งท่าเรือการค้าเสรี
21 Nov 2023
เมื่อเดือนเมษายน 2561 รัฐบาลจีนได้ประกาศผลักดันการพัฒนาพื้นที่เกาะไหหลำ หรือ มณฑลไห่หนานซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของจีนให้เป็น “เขตทดลองการค้าเสรี” พร้อมส่งเสริมการสร้าง “ท่าเรือการค้าเสรีไห่หนาน” โดยตลอดหลายปีที่ผ่านมา มณฑลไห่หนานประกาศใช้มาตรการยกเว้นภาษีและอำนวยความสะดวกทางการค้าการลงทุนเพื่อสนับสนุนการพัฒนาท่าเรือการค้าเสรีแล้วกว่า 180 รายการ รวมถึงการยกเว้นภาษีนำเข้าสินค้าและวัตถุดิบที่นำมาแปรรูปเพื่อการส่งออก การผ่อนคลายระเบียบเอกสารการตรวจลงตราแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และการจำกัดการเก็บภาษีภาษีเงินได้อัตราไม่เกินร้อยละ 15 สำหรับบริษัทจดทะเบียนในไห่หนานและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
นอกเหนือจากเป้าหมายที่จะสร้างท่าเรือการค้าเสรีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกภายในปี 2568 แล้ว รัฐบาลจีนยังมุ่งมั่นที่จะปั้นไห่หนานให้เป็น “ศูนย์กลางด้านการเงินระหว่างประเทศ” อีกทั้งยังสร้าง “ห้างสรรสินค้าปลอดภาษี” เพื่อดึงดูดผู้บริโภคควบคู่กับการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอีกด้วย อาจกล่าวได้ว่า ความมุ่งมั่นครั้งนี้เป็นความพยายามที่สร้างบทบาทสำคัญที่เคยกระจุกตัวอยู่ในฮ่องกงมายังมณฑลไห่หนานมากขึ้นนั่นเอง แม้ว่าความเสี่ยงจากปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์และภาวะขาดแคลนบุคลากรที่มีศักยภาพจะยังเป็นความท้าทายสำคัญต่อต่อแผนดังกล่าวก็ตาม

เศรษฐกิจเติบโตสูง แต่มูลค่าไม่สูงนัก
ในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2566 มณฑลไห่หนานมีมูลค่า GDP 527,492 ล้านหยวน (72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขยายตัวร้อยละ 9.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 อัตราการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 2 ของจีน และมีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศ 171,527 ล้านหยวน (23,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ขยายตัวร้อยละ 20.2 อัตราการขยายตัวสูงเป็นอันดับ 4 ของจีน โดยอาเซียนครองตำแหน่งคู่ค้าอันดับ 1 คิดเป็นร้อยละ 14.9 ของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของมณฑลไห่หนาน ขณะที่ มูลค่าการค้ากับไทยซึ่งเป็นประเทศคู่ค้าอันดับที่ 27 ยังคงหดตัวต่อเนื่อง โดยหดตัวร้อยละ 16.3 มูลค่าการค้า 1,791 ล้านหยวน (250 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
แต่แม้ว่าอัตราการขยายของ GDP และการค้าระหว่างประเทศยังดูสดใส แต่อัตราการเติบโตดังกล่าว ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากฐานที่ต่ำ โดยเฉพาะเมื่อเทียบมูลค่า GDP กับมณฑลอื่นของจีนแล้ว GDP ของมณฑลไห่หนานอยู่ที่อันดับ 28 และมูลค่าการค้าระหว่างประเทศอยู่ที่อันดับ 23 จาก 31 มณฑลของจีน
ด้านการลงทุนระหว่างประเทศ ช่วงสามไตรมาสแรกมณฑลไห่หนานมีมูลค่าเงินลงทุนโดยตรงในต่างประเทศ (ODI) 3,060 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยอัตราการขยายตัวสูงต่อเนื่องจากช่วงกลางปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของ ODI เป็นผลมาจากบริษัทในมณฑลไห่หนานเพิ่มทุนในบริษัทลูกที่ตั้งอยู่
ในต่างประเทศ ในทางตรงกันข้ามมูลค่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของมณฑลไห่หนานกลับไม่ได้ถูกพูดถึงโดยรายงานข้อมูลสถิติเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาระบุว่า มูลค่า FDI ในพื้นที่ท่าเรือการค้าเสรีไห่หนานช่วงเกือบ 5 ปีที่ผ่านมาเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 66 ต่อปี และรายงานดังกล่าวไม่ได้ระบุข้อมูล FDI อีกในช่วงไตรมาส 2 และ 3 ของปีนี้


นักท่องเที่ยวจีนหนุนการท่องเที่ยว
หนึ่งในเป้าหมายของมณฑลไห่หนานคือการปั้นตนเองให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับนานาชาติ “ฮาวายแห่งเอเชีย” และ “ศูนย์กลางการชอปปิ้งสินค้าปลอดภาษี” ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งรัฐบาลกลางและรัฐบาลมณฑลไห่หนานต่างเร่งสนับสนุนนโยบายการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม การท่องเที่ยวเชิงสันทนาการและกีฬา ไปจนถึงการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ รวมทั้งการเปิด “ฟรีวีซ่า” ให้แก่นักท่องเที่ยวถึง 59 ประเทศ
ปัจจุบัน การท่องเที่ยวของมณฑลไห่หนานฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 โดยช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ มณฑลไห่หนานมีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 และรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 แสดงให้เห็นว่ามณฑลไห่หนานยังคงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกัน ธุรกิจสินค้าปลอดภาษีที่ได้รับสนับสนุนจากภาครัฐผ่านการออกมาตรการกระตุ้นการบริโภคมาอย่างต่อเนื่อง มีแนวโน้มที่จะเติบโตไปพร้อมกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยยอดจำหน่ายสินค้าปลอดภาษีในช่วงสามไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัวกว่าร้อยละ 28.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยสินค้าปลอดภาษีที่ขายดี 3 อันดับแรก ได้แก่ เครื่องสำอาง เครื่องประดับ และนาฬิกาข้อมือ
อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของมณฑลไห่หนานยังคงขับเคลื่อนด้วยนักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นหลัก แม้รัฐบาลจะพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติผ่านการเปิดฟรีวีซ่าและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยจำนวนนักท่องเที่ยวที่พักค้างคืนในมณฑลไห่หนานช่วงสามไตรมาสแรกที่ผ่านมา 45,844,800 คน ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวจีน 45,583,600 คน และนักท่องเที่ยวต่างชาติ (รวมฮ่องกง มาเก๊า และไต้หวัน) 261,300 คน กล่าวคือ นักท่องเที่ยวชาวจีนมีสัดส่วนมากถึงร้อยละ 99.4 ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดเลยทีเดียว

เขตนำร่องการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์โป๋อ๋าวเล่อเฉิง
พูดถึงการท่องเที่ยวแล้ว หนึ่งในโครงการที่เป็นตัวชูโรงของมณฑลไห่หนานคงหนีไม่พ้น “เขตท่องเที่ยวเชิงการแพทย์โป๋อ๋าวเล่อเฉิง” (Hainan Boao Lecheng International Medical Tourism Pilot Zone) ซึ่งเป็นเขตที่เปิดกว้างทางการแพทย์มากที่สุดของจีน จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2556 ด้วยเป้าหมายที่จะสร้างพื้นที่ส่งเสริมการปฏิรูปและการอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ระดับนานาชาติ อันรวมถึงการอนุญาตนำเข้าและใช้เทคโนโลยีการแพทย์ เวชภัณฑ์ และยาจากต่างประเทศที่ยังไม่ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านยาของจีน และการอำนวยความสะดวกด้านการเข้าอยู่อาศัยและการตรวจรักษาแก่ผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์จากต่างประเทศ
ปัจจุบัน เขตโป๋อ๋าวเล่อเฉิงมีสถาบันทางการแพทย์ดำเนินงานแล้ว 26 แห่ง และอยู่ระหว่างการก่อสร้างหรือกำลังเตรียมก่อสร้างอีกกว่า 20 แห่ง อีกทั้งมีความร่วมมือกับบริษัทยาและเวชภัณฑ์กว่า 170 รายจาก 20 ประเทศและภูมิภาค นอกจากนี้ ยังนำเข้ายาและเวชภัณฑ์ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนแล้วกว่า 350 รายการ โดยช่วงครึ่งแรกของปี 2566 สถาบันทางการแพทย์ในเขตโป๋อ๋าวเล่อเฉิงมีผู้ใช้บริการกว่า 134,300 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.98 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 และมีจำนวนผู้ป่วยใช้ยาและเวชภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตพิเศษแล้ว 9,454 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 133.26
ช่วงหลายปีที่ผ่านมา มณฑลไห่หนานผลักดันและส่งเสริมการพัฒนาเขตโป๋อ๋าวเล่อเฉิงมาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นการใช้นโยบายต่าง ๆ เพื่อดึงดูดองค์กรและบุคลากร หรือการจัดงานแสดงสินค้านวัตกรรมด้านยาและเวชภัณฑ์ ซึ่งถึงแม้จะมีพัฒนาการในเชิงบวก แต่ยังคงพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไปเมื่อเทียบกับกำลังสนับสนุนจากรัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่น จึงต้องรอดูกันว่าในที่สุดแล้ว มณฑลไห่หนานจะสามารถดึงดูดผู้ป่วยให้เดินทางไปใช้บริการถึง 500,000 รายภายในปี 2568 ตามที่วางแผนไว้ได้หรือไม่
ปัจจุบัน มณฑลไห่หนานมีจุดขายที่มีเอกลักษณ์หลายด้านซึ่งได้รับการผลักดันจากภาครัฐมาอย่างต่อเนื่อง ถึงกระนั้น จุดขายแต่ละด้านก็ยังอยู่ในช่วงระหว่างการพัฒนามากกว่าที่จะประสบความสำเร็จอย่างเต็มที่ดังที่รัฐบาลวางแผนไว้ ขณะเดียวกัน มาตรการที่เอื้อการค้าการลงทุนของท่าเรือการค้าเสรีไห่หนานและเขตฯ โป๋อ๋าวเล่อเฉิงก็เป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการในสาขาที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ คงต้องติดตามกันต่อไปในระยะยาวว่า หลังจากนี้เกาะไหหลำแห่งนี้จะสามารถเดินหน้าสู่การเป็นท่าเรือการค้าเสรีชั้นนำระดับโลกดังที่ตั้งใจไว้หรือไม่
——————————–
พรีรษา โฆษิตวิชญ เขียน