พัฒนาการอุตสาหกรรมรถยนต์ในมณฑลกวางตุ้ง อนาคตของอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานสะอาดของจีน ตอนที่ 2
6 Jul 2021พัฒนาการอุตสาหกรรมรถยนต์ในมณฑลกวางตุ้ง อนาคตของอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานสะอาดของจีน ตอนที่ 1
เมื่อตอนที่แล้ว ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจว พาทุกท่านไปรู้จักกับอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ของมณฑลกวางตุ้งที่เพียบพร้อมด้วยขนาดของตลาด โครงสร้างพื้นฐาน รวมถึง ผู้ผลิตรถยนต์ที่สำคัญกันไปแล้ว ในตอนที่ 2 นี้ เราจะพาผู้อ่านไปดูกันว่า ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานใหม่แต่ละรายของมณฑลกวางตุ้งมีส่วนแบ่งทางการตลาดมากน้อยแค่ไหน และเราจะพาผู้อ่านไปดูด้วยว่า รัฐบาลท้องถิ่นมีส่วนช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ของมณฑลกวางตุ้งให้เติบโตได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น นับตั้งแต่ที่มณฑลกวางตุ้งเริ่มสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ มลพิษทางอากาศของมณฑลกวางตุ้งเป็นอย่างไร ดีขึ้นหรือไม่
NEV กวางตุ้งกับส่วนแบ่งทางการตลาดในจีน
เรารู้จักผู้ผลิต NEV ที่สำคัญในมณฑลกวางตุ้งไปแล้ว ดังนั้น เราลองมาดูว่า หากเปรียบเทียบกับผู้ผลิต NEV ของมณฑลกวางตุ้งกับผู้ผลิต NEV รายอื่นของจีนแล้ว ส่วนแบ่งทางการตลาดจะเป็นอย่างไร ตามรายงานอนาคตของตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในจีน (The bright future of China’s electric vehicle market) ที่จัดทำโดยบริษัท KPMG[1] ระบุว่า เมื่อปี 2560 บริษัท BYD มีส่วนแบ่งทางการตลาด (market share) ในรถยนต์พลังงานใหม่ของจีน (รวมรถยนต์พลังงานใหม่ทุกประเภท) เพียงร้อยละ 15.8 แต่เมื่อปี 2562 บริษัท BYD มีส่วนแบ่งทางการตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ร้อยละ 19.8 มากที่สุดในจีน โดยบริษัท GAC เข้ามาเป็นบริษัทผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ Top 10 มีส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 3.4 อันดับ 8 ของจีน อย่างไรก็ดี ในช่วงมกราคม – พฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการแพร่ระบาดของ Covid-19 ส่วนแบ่งทางการตลาดของบริษัท BYD ลดลงอยู่ที่ร้อยละ 12.7 ขณะเดียวกัน บริษัท GAC กลับมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่เพิ่มขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 5.8
หากเรามาลองมองแยกตามประเภทของรถยนต์พลังงานใหม่ เราจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าภาพรวมส่วนบางทางการตลาดของรถยนต์แต่ละประเภทเป็นเช่นไร ในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Vehicle) บริษัท BYD ถือครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดในจีนร้อยละ 18.3 แต่บริษัท GAC ถือครองส่วนแบ่งทางการตลาดเพียงร้อยละ 2.4 (อันดับ 9) ซึ่งในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle, BEV) บริษัท BYD ถือครองส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 11.3 (อันดับ 3) บริษัท GAC ถือครองส่วนแบ่งทางการตลาดร้อยละ 7.2 (อันดับที่ 4) และบริษัท XPeng ร้อยละ 2.9 (อันดับที่ 10)
รัฐบาลกวางตุ้งผู้ผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรม NEV
เมื่อปี 2559 มณฑลกวางตุ้งได้ประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ 5 ปี ฉบับที่ 13 โดยกำหนดเป้าหมายการพัฒนาและส่งเสริมการใช้รถยนต์พลังงานใหม่ให้ได้ 250,000 คันภายในปี 2563 โดยในปีเดียวกันนั้น มณฑลกวางตุ้งยังได้ประกาศแผนสนับสนุนการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้อง และมีเป้าหมายที่จะเพิ่มจำนวนสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้ได้มากกว่า 1,490 แห่งภายในปี 2563
จัดสรรงบประมาณอัดฉีดผู้ผลิต เมื่อปี 2561 มณฑลกวางตุ้งยังได้ประกาศ “แนวทางการส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ระยะ 3 ปี (2561 – 2563) ซึ่งถือเป็นแนวทางสำคัญ โดยภายหลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งออกนโยบายเพื่อสนับสนุนแผนดังกล่าว โดยแผนดังกล่าวมีเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ (1) เร่งสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ โดยมอบเงินอุดหนุน 2,000 ล้านหยวน (289 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้แก่บริษัทผลิตรถยนต์ที่ลงทุนผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ และมอบเงิน 1,000 ล้านหยวน (144 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้แก่บริษัทผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์รถยนต์ที่ลงทุนด้านรถยนต์พลังงานใหม่ (2) เร่งลงทุนติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าและสถานีพลังงานไฮโดรเจน (3) สนับสนุนการใช้รถพลังงานไฟฟ้าสำหรับการบริการสาธารณะ (ภายหลังเมืองเซินเจิ้นประกาศใช้รถเมล์พลังงานไฟฟ้าทั้งหมด) โดยกำหนดให้เพิ่มการใช้งานรถเมล์พลังงานไฟฟ้าในนครกว่างโจว และเมืองจูไห่ ในปี 2561 และเมืองอื่น ๆ ภายในปี 2563 (4) ยกเลิกการกำหนดโควต้าป้ายทะเบียนรถยนต์พลังงานใหม่ เป็นต้น ซึ่งแนวทางดังกล่าวนับเป็นแผนสำคัญของการพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ในมณฑลกวางตุ้งที่กำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมรถยนต์ของมณฑลกวางตุ้งอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุดแผนหนึ่ง
มอบเงินอุดหนุนให้ผู้ซื้อ รัฐบาลมณฑลกวางตุ้งยังได้ออกมาตรการมอบเงินอุดหนุนแก่ผู้ซื้อรถยนต์พลังงานใหม่ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2016 ซึ่งนับว่าเป็นมาตรการสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเลือกซื้อรถยนต์พลังงานใหม่มากขึ้น เมื่อระหว่างปี 2559 – 2562 มณฑลกวางตุ้งยังได้รับจัดสรรงบประมาณเพื่อใช้สนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่กว่า 787.86 ล้านหยวน (114 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มากที่สุดในจีน คิดเป็นร้อยละ 19.3 ของงบประมาณที่กระทรวงการคลังจีนได้จัดสรรให้ทุกมณฑลของจีนสำหรับโครงการสนับสนุนอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ ทั้งนี้ มณฑลเจียงซูได้รับงบประมาณ 625.47 ล้านหยวน (90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มากเป็นอันดับ 2 ของจีน และมณฑลซ่านซีได้รับงบประมาณ 585.09 ล้านหยวน (84 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) มากเป็นอันดับ 3 ของจีน
รัฐบาลจีนและรัฐบาลท้องถิ่นมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและส่งเสริมอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ให้เกิดการพัฒนาที่รวดเร็วมากกยิ่งขึ้น ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวเป็นการตอบโจทย์ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในตอนต่อไป ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครกว่างโจวจะมาเล่าต่อว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ของมณฑลกวางตุ้งจะมีส่วนช่วยลดมลพิษทางอากาศได้อย่างไรบ้างและไทยจะสามารถเรียนรู้อะไรจากพัฒนาการดังกล่าวได้หรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป
[1] บริษัท KPMG International Limited บริษัทผู้สอบบัญชี ระดับ BIG 4 (Deloitte, Ernst & Young, KPMG และ PwC) ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เนเธอร์แลนด์