นครฉงชิ่งเปิดท่าเรือเพิ่มอีก 3 แห่ง กลายเป็นเมืองที่มีท่าเรือมากที่สุดในภูมิภาคตะวันตกของจีน

22 Aug 2024

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 สำนักงานท่าเรือและโลจิสติกส์ นครฉงชิ่ง (Chongqing Port and Logistics Office) รายงานว่า คณะรัฐมนตรีรัฐกิจสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้อนุมัติให้ขยายการเปิดท่าเรือในเขตว่านโจว เขตฝูหลิง และเขตเจียงจิน นครฉงชิ่ง ทำให้จำนวนท่าเรือในนครฉงชิ่งเพิ่มขึ้นเป็น 7 แห่ง กลายเป็นเมืองที่มีท่าเรือมากที่สุดในภูมิภาคตะวันตกของจีน

แม่น้ำแยงซีที่ถือว่าเป็น “แม่น้ำสายทองคำ” (Golden Waterway) ที่ช่วยให้นครฉงชิ่งมีสภาพการขนส่งทางน้ำที่สะดวกสบายและได้รับการพัฒนาอยู่เรื่อยมา ซึ่งก่อนที่จะมีการเพิ่ม 3 ท่าเรือใหม่นั้น แต่เดิมมีท่าเรือหลักอยู่ทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ ท่าเรือท่าอากาศยานนานาชาติฉงชิ่ง เจียงเป่ย (Chongqing Jiangbei International Airport Port) ท่าเรือท่าอากาศยานว่านโจว อู่เฉียว(Wanzhou Wuqiao Airport) ท่าเรือฉงชิ่ง (Port of Chongqing ) และท่าเรือรถไฟฉงชิ่ง (Chongqing Railway Port) เรียกได้ว่าเป็นศูนย์กลางการพัฒนาการขนส่งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตามแนวชายฝั่งแม่น้ำแยงซีในนครฉงชิ่งจะมีความยาวมากกว่า 600 กิโลเมตร ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรการขนส่งทางน้ำมากมาย แต่กลับมีเพียงท่าเรือกั่วหยวน (Guoyuan Port) ที่เป็นท่าเรือน้ำและเปิดให้บริการสำหรับขนส่งทางน้ำสู่นอกประเทศ ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความต้องการขององค์กรที่ดำเนินธุรกิจการขนส่งทางน้ำในพื้นที่ใกล้เคียงได้เพียงพอ ด้วยเหตุนี้นครฉงชิ่งจึงได้ขอรับการสนับสนุนจากระดับชาติ เพื่อขยายท่าเรือขนส่งทางน้ำเพิ่มอีก 3 ท่าเรือ พร้อมทั้งปรับปรุงรูปแบบท่าเรือ และพัฒนาระบบการทำงานของท่าเรือในนครฉงชิ่ง

โดยเขตที่ได้รับอนุมัติในการขยายท่าเรือมีทั้งหมด 3 เขต ได้แก่ เขตว่านโจว เขตเจียงจิน และเขตฝูหลิง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่สำคัญของเขื่อนสามโตรก (Three Gorges Dam) และเป็นจุดบรรจบของลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงและลุ่มแม่น้ำอูเจียง นอกจากนี้แล้วบริเวณพื้นที่โดยรอบที่เชื่อมต่อโลจิสติกส์ของฉงชิ่ง-เสฉวน-กุ้ยโจว ถูกรายล้อมไปด้วยกลุ่มอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ การผลิตรถยนต์ พลังงานสะอาด วัสดุใหม่ ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งมีพื้นฐานการพัฒนาอุตสาหกรรม  ที่มีข้อได้เปรียบในด้านทำเลที่ตั้งที่ชัดเจน อีกทั้งยังเป็นเขตอุตสาหกรรมใหญ่ของเมือง มีเขตปลอดภาษีแบบครบวงจร และยังเป็นจุดเชื่อมโยงสำคัญของระบบการขนส่งหลายรูปแบบ ซึ่งมีศักยภาพความพร้อมในการเปิดท่าเรืออย่างครบถ้วน อาทิ Wanzhou Xintian Logistics Industrial Park เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ระดับชาติด้านการผลิตและบริการแห่งแรกในภูมิภาคเสฉวน-ฉงชิ่ง Jiangjin Luohuang Logistics Park ที่ได้รับอนุมัติให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ภาคพื้นดินแห่งชาติ และ Fuling Comprehensive Bonded Zone ซึ่งเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ที่สำคัญของเขตฟู่หลิงโดยมุ่งเน้นการพัฒนาโลจิสติกส์แบบปลอดภาษี

ในขณะเดียวกัน โครงการการขนส่งหลายรูปแบบที่เชื่อมต่อท่าเรือว่านโจว ซินเถียน (Wanzhou Xintian Port) และท่าเรือเจียงจิน ลั่วหวง (Jiangjin Luohuang Port) ซึ่งประกอบด้วย “การเชื่อมโยง 2 ท่าเรือ การใช้บัตรขนส่งใบเดียวในการขนส่งสินค้าทางรถไฟ+ทางน้ำ การเชื่อมต่อระหว่างเส้นทางขนส่งหลักกับเส้นทางขนส่งรอง และการปรับเปลี่ยนรูปแบบการรวบรวมและกระจายสินค้า” ได้ประสบความสำเร็จในการเข้าร่วมโครงการสาธิตการขนส่งต่อเนื่องหลายรูปแบบระดับชาติครั้งที่ 4 และในส่วนของท่าเรือฝูหลิง หลงโถว (Fuling Longtou Port) ซึ่งประกอบด้วยท่าเทียบเรือขนส่งทางน้ำ เส้นทางรถไฟเฉพาะสาย เขตควบคุมศุลกากรพิเศษ และโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ ปัจจุบัน การก่อสร้าง ท่าเทียบเรือ ระยะที่ 2 และโครงการอื่น ๆ กำลังอยู่ในช่วงเร่งดำเนินการและคาดว่าจะสามารถใช้งาน ได้ภายในปีนี้

ท่าเรือทั้ง 3 แห่งนี้ล้วนเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางขนส่งเชื่อมทางบกและทางทะเลสายใหม่ (New International Land-Sea Trade Corridor: ILSTC) ซึ่งสามารถเชื่อมโยงและส่งเสริมการพัฒนาของเขตและเมืองโดยรอบได้เป็นอย่างดี

การเปิดท่าเรือครั้งนี้จะทำให้ท่าเรือทั้ง 3 มีบทบาทในการเชื่อมโยงศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งชาติได้ดียิ่งขึ้น และส่งเสริมการเปิดพื้นที่โดยรอบ อีกทั้งยังเพิ่มแรงผลักดันให้นครฉงชิ่งเป็นผู้นำในการส่งเสริมและเปิดกว้างในภูมิภาคตะวันตกของจีน

นอกจากนี้แล้ว นครฉงชิ่งยังได้มีการวางการพัฒนาที่เปิดกว้าง โดยอาศัยการสร้างจุดเชื่อมต่อหลาย ๆ แห่ง อาทิ ท่าเรือ ท่าอากาศยาน และสถานีรถไฟ ในภูมิภาคตะวันตก เช่น มณฑลเสฉวน นครฉงชิ่ง มณฑลกุ้ยโจว และมณฑลส่านซี เพื่อรองรับความต้องการการพัฒนาแบบเปิดเสรีของทั้งเมืองอย่างเต็มที่

ในด้านความสามารถของท่าเรือ นครฉงชิ่งได้เสริมสร้างนโยบายและส่งเสริมบริษัทขนส่งสินค้า บริษัทนำเข้าผลไม้ เนื้อสัตว์ ธัญพืช สินค้าโภคภัณฑ์ และสินค้าอื่น ๆ ผ่านท่าเรือฉงชิ่งหรือสถานที่กำกับดูแลที่กำหนด การสร้างห่วงโซ่อุตสาหกรรมนำเข้าสินค้าพิเศษ ห่วงโซ่คุณค่า และห่วงโซ่บริการ เพื่อเพิ่มความสามารถในการรวมตัวและการกระจายสินค้าของท่าเรือ รวมไปถึงการขยายขนาดการนำเข้าสินค้าพิเศษ

เป้าหมายของการสร้างพื้นที่ท่าเรือภายในประเทศที่มีศักยภาพสูงคือการพัฒนาเศรษฐกิจท่าเรือ ด้วยเหตุนี้ นครฉงชิ่งจึงได้ร่วมกันพัฒนาการเปิดท่าเรือและเขตปลอดอากรแบบครบวงจร รวมไปถึง คลังสินค้าทัณฑ์บน (Bonded Warehouse) หรือโกดังทัณฑ์บน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ใช้ในการเก็บสินค้านำเข้าโดยไม่ต้องชำระภาษีอากรทั้งขาเข้าและขาออก ที่ได้รับอนุญาตตามกฏหมายว่าด้วยศุลกากรและศูนย์โลจิสติกส์สินค้าทัณฑ์บน (Bonded Logistics Center) ซึ่งเป็นเขตโลจิสติกส์สินค้าปลอดอากรสำหรับการนำเข้าสินค้าต่างประเทศที่ได้รับอนุมัติจากรัฐบาลกลาง และอยู่ในระบบโลจิสติกส์คลังสินค้าทัณฑ์บน เพื่อเปลี่ยนจากเดิมที่เป็นช่องทางผ่านเข้าออกของผู้โดยสารและสินค้า สู่เขตเศรษฐกิจท่าเรือที่รวมคน สินค้า ข้อมูล และเงินทุนเข้าด้วยกัน โดยมุ่งหวังสร้างต้นแบบการพัฒนาเศรษฐกิจท่าเรือคุณภาพสูง

ในปัจจุบันท่าเรือใหม่ทั้ง 3 แห่งกำลังเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอุปกรณ์การขนส่ง เพื่อยกระดับความสามารถทั้งด้านความสะดวก การขนส่งและระบบบริหาร เพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่อเปิดใช้งาน ทั้งนี้ การพัฒนาท่าเรือจะช่วยให้นครฉงชิ่งขยายพื้นที่การเปิดท่าเรือในแม่น้ำแยงซีอย่างต่อเนื่อง และส่งเสริมการเชื่อมโยงภายในประเทศและต่างประเทศได้อย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ดี การเปิดท่าเรือใหม่ในนครฉงชิ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างมาก  โดยเฉพาะในการเพิ่มโอกาสทางการค้าและการส่งออกสินค้าผ่านช่องทางท่าเรือเหล่านี้เพื่อเข้าถึงตลาดในภูมิภาคตะวันตกของจีน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบโลจิสติกส์ที่ทันสมัย ยังเป็นต้นแบบให้ไทยสามารถนำมาใช้พัฒนาโลจิสติกส์ภายในประเทศได้ รวมถึงเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น


ที่มาข้อมูล:

1. เว็บไซต์ cq.gov (เข้าถึงเมื่อ 25 กรกฎาคม 2567)

https://www.cq.gov.cn/zwgk/zfxxgkml/lwlb/cqzxd/zzdt/202407/t20240722_13391200.html

2. เว็บไซต์ chinanews (เข้าถึงเมื่อ 25 กรกฎาคม 2567)

https://www.chinanews.com.cn/cj/2024/07-19/10254072.shtml

3. เว็บไซต์ cq.gov (เข้าถึงเมื่อ 25 กรกฎาคม 2567)

https://www.cq.gov.cn/ywdt/jrcq/202407/t20240722_13388317.html

Chengdu_editor

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน