ฉางซาเร่งพัฒนาเข้าสู่ “วงกลมเศรษฐกิจการบิน 4 ชั่วโมง”

26 Jul 2019

Hunan Airport Management Group เปิดเผยว่า นครฉางซาได้วางแผนพัฒนาท่าอากาศยานนานาชาติหวงฮัว (Changsha Huanghua International Airport) ให้กลายเป็น “วงกลมเศรษฐกิจการบิน 4 ชั่วโมง” ซึ่งมีแผนพัฒนาช่วงแรกก่อน 3 ปี (2562-2564) โดยให้นครฉางซาเป็นศูนย์กลาง และสร้างเครือข่ายเส้นทางบินเชื่อมโยง 31 มณฑลของจีน (หรือ 109 เมืองในจีน) และ 20 พื้นที่/ประเทศสำคัญ (หรือ 51 เมือง) ในฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน เอเชียตะวันออก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ ที่มีระยะการบินถึงกันใน 4 ชั่วโมง เป้าหมายเพื่อขยายเส้นทางการท่องเที่ยวและทำให้สนามบินฉางซากลายเป็นศูนย์กลางการบินระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในภาคกลางของจีน

ปัจจุบัน ท่าอากาศยานนานาชาติหวงฮัวมีเครือข่ายเส้นทางบินในระยะ 4 ชั่วโมงไปยัง 14 พื้นที่/ประเทศแล้ว ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไทย สิงคโปร์ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เมียนมา และบรูไน เป้าหมายต่อไปเตรียมจะเปิดเส้นทางบินอีก 6 พื้นที่/ประเทศ ภายในปี 2564 ได้แก่ เกาหลีเหนือ มองโกลเลีย อินเดีย บังคลาเทศ เนปาล และมาเก๊า โดยมีแผนว่าภายในปี 2562 จะเปิดเส้นทางบินไปมาเก๊าและเนปาล ปีถัดไปเปิดเส้นทางบินสู่กรุงเปียงยางและเมืองอูลานบาตอร์ และปี 2564 เปิดเส้นทางบินสู่เมืองกัลกัตตาและกรุงกาธา

ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 เส้นทางบินไปเมืองญาจาง (Nha Trang) และกรุงฮานอยของเวียดนามได้รับความนิยมอย่างมาก ขยายตัวร้อยละ 137 เวียดนามกลายเป็นประเทศที่มีการขยายตัวของผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 1 ในบรรดาเส้นทางบินจากฉางซาสู่ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยเหตุดังกล่าวจึงมีแผนจะขยายเส้นทางบินจากฉางซาสู่เวียดนามเพิ่มขึ้น เช่น เมือง Van Don ส่วนในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 สายการบิน China Southern จะเปิดเส้นทางบินตรงเส้นใหม่จากฉางซาสู่เมืองนาโกย่า

นอกจากนี้ ท่าอากาศยานนานาชาติหวงฮัวยังเพิ่มบริการพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่มาแวะเปลี่ยนเครื่อง (Transit) หรือเดินทางไปจางเจียเจี้ย เช่น คูปองอาหารฟรีมูลค่า 40 หยวน ซึ่งสามารถใช้กับร้านอาหารกว่า 30 แห่งในสนามบินหวงฮัว เพื่อปรับปรุงการบริการและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานของท่าอากาศยานฯ ให้เกิดความประทับใจแก่ผู้โดยสารมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าภายในปี 2564 ท่าอากาศยานนานาชาติหวงฮัวจะมีผู้โดยสารเข้าออกมากกว่า 33 ล้านคน/ครั้ง

http://www.hn.xinhuanet.com/2019-07/15/c_1124753068.htm