กว่างซี เปิดขบวน “รถไฟสีเขียว” ส่งตรงพืชผักผลไม้สด ป้อนพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ
19 Dec 2013เว็บไซต์ข่าวกว่างซี : ในฤดูหนาว กว่างซีรับบท “คลังเสบียง” ป้อนพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศซึ่งไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้ โดยขบวนรถไฟขนส่งพืชผักผลไม้สดจากกว่างซีขบวนแรกได้เดินทางถึงกรุงปักกิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายโจว อี้ เจว๋ (Zhou Yi Jue, 周异决) นายกเทศมนตรีเมืองไป่เซ่อ ได้นำเสนอแนวคิดการเปิดขบวนรถไฟ “สีเขียว” สู่กรุงปักกิ่ง ในการประชุมสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติประจำปีนี้ ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากกระทรวงพาณิชย์ บริษัทการรถไฟจีน และทางการกรุงปักกิ่ง
ในช่วงฤดูหนาวของทุกปี พื้นที่ทางตอนเหนือ (และตอนในของประเทศ) ต้องเผชิญกับภาวะอากาศหนาวเย็นและหิมะตกหนัก ทำให้ไม่สามารถทำการเพาะปลูกพืชผักใบเขียวและผลไม้บางชนิดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างความต้องการบริโภคและขีดความสามารถในการตอบสนองความต้องการบริโภค
มณฑลตอนใต้ของประเทศ ซึ่งมีสภาพอากาศที่อุ่นกว่า และยังคงสามารถเพาะปลูกพืชผักผลไม้ได้ จึงต้องรับหน้าที่เป็น “คลังเสบียง” ตอบสนองความต้องการของพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ
เขตฯ กว่างซีจ้วง เป็นหนึ่งในไม่กี่มณฑลของประเทศจีนที่สามารถทำการเพาะปลูกได้ อย่างเช่น เมืองไป่เซ่อ (Baise City, 百色市) นับเป็นหนึ่งในฐานการเพาะปลูกภาคการเกษตรที่สำคัญของมณฑล
หลังจากที่แนวคิดของนายกเทศมนตรีเมืองไป่เซ่อได้รับความเห็นชอบจากส่วนกลาง กรมการรถไฟนครหนานหนิง (Nanning Railway Bureau, 南宁铁路局) ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่จัดเตรียมขบวนรถไฟ (โบกี้ควบคุมอุณหภูมิ) เพื่อใช้สำหรับขนส่งผักและผลไม้หลายชนิดไปยังกรุงปักกิ่ง
สินค้าเกษตรทั้งหมดถูกลำเลียงผ่านขบวนรถไฟถึงสถานีต้าหงเหมิน (Da Hong Men Station, 大红门车站) ในกรุงปักกิ่ง ก่อนจะถูกลำเลียงต่อไปยังตลาดซินเทียนตี้ (Xin Tian Di Agricultural Products Wholesale Market, 新发地农产品批发市场) ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรขนาดใหญ่และมีชื่อชื่อเสียงของกรุงปักกิ่ง
นายเฉิง หย่ง เจี้ยน (Chen Yong JIan, 陈永健) ประธานกรรมการบริษัท Heng Hui South-North Vegetable Transport (百色市恒惠南菜北运股份有限公司) ให้ข้อมูลว่า (เมื่อเทียบกับการขนส่งทางรถยนต์และทางเรือ) การขนส่งทางรถไฟมีข้อดีตรงที่สามารถควบคุมเวลาและต้นทุน อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากเงื่อนไขทางธรรมชาติค่อนข้างน้อย ทำให้ประหยัดต้นทุนการขนส่งพืชผักสดกิโลกรัมละ 0.2 หยวน
ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ติดต่อประสานงานกับตลาดค้ส่งสินค้าเกษตร และวิสาหกิจโลจิสติกส์ในกรุงปักกิ่ง และนครเจิ้งโจว (นครเอกของมณฑลเหอหนาน) เพื่อจัดหาคลังสินค้า(โกดังเย็น)ได้พื้นที่กว่า 19,000 ลูกบาศก์เมตร
นอกจากนี้ ยังได้ติดต่อวิสาหกิจเวียดนาม เพื่อขยายช่องทางการจัดจำหน่ายผลผลิตพืชผักผลไม้จากทางตอนเหนือ เนื่องจากขบวนรถไฟขาล่องมีการบรรทุกหัวกระเทียม มันฝรั่ง สาลี่ และแอปเปิ้ล ซึ่งเป็นผลผลิตของพื้นที่ตอนเหนือมาจำหน่ายในท้องถิ่น มณฑลรอบข้าง และประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน (เวียดนาม) อีกด้วย
BIC ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า เมืองไป่เซ่อ ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของกว่างซี (ติดมณฑลยูนนาน) เป็นหนึ่งในเมืองชายแดนติดจังหวัด Cao Bang ของประเทศเวียดนาม
เมืองแห่งนี้เป็นที่ตั้งของด่านพรมแดนสากล 2 แห่ง คือ ด่านหลงปัง (Long Bang Border, 龙邦口岸) และด่านผิงเมิ่ง (Ping Meng Border, 平孟口岸) มีด่านระดับสอง 1 แห่ง คือ ด่านเยว่ซวี (Yue Xu Border, 岳圩口岸) และมีจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนอีก 7 แห่ง
ในอนาคต เมืองไป่เซ่อ จะมีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจการค้ากับประเทศสมาชิกอาเซียน (เวียดนาม) เนื่องจากเมืองแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเส้นทางรถไฟสู่อาเซียนอีกเส้นทางหนึ่ง โดยฝั่งกว่างซีมีการปูรางถึงอำเภอจิ้งซี (Jingxi County, 靖西县) ซึ่งเป็นอำเภอชายแดนของเมืองไป่เซ่อแล้ว
ปัจจุบัน ประเทศจีนมีเส้นทางรถไฟเชื่อมสู่ประเทศเวียดนามเพียงเส้นทางเดียว คือ เส้นทางกรุงปักกิ่ง-อำเภอระดับเมืองผิงเสียง-กรุงฮานอย
BIC เห็นว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวน่าจะเป็นโอกาสสำหรับผู้ประกอบการไทยในการบุกเบิกแสวงหาช่องทางการค้าและการขนส่งเส้นทางใหม่ ๆ โดยเฉพาะการเจาะตลาดทางตอนเหนือของประเทศจีน