จีนขยายแหล่งดำเนินโครงการ RQFII ส่งเสริมเงินหยวน Go Inter!
20 Nov 2013สำนักงานบริหารเงินตราต่างประเทศจีนได้เผยสถิติยอดการออมเงินหยวนของชาวต่างขาติ พบว่า ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ยอดการออมเงินหยวนของชาวต่างชาติมีมูลค่า 1,209,387 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 138,654 ล้านหยวนจากสิ้นไตรมาสที่ 2 ปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นับวันสกุลเงินหยวนจะได้รับความมั่นใจจากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากการที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นเรื่อย และจากการที่รัฐบาลจีนส่งเสริมสกุลเงินหยวนให้เป็นที่นิยมในการดำเนินธุรกรรมระหว่างประเทศ
รัฐบาลจีนเริ่มดำเนินโครงการ RQFII (Renminbi Qualified Foreign Institutional Investors) ที่ฮ่องกงเมื่อปี 2554 ภายใต้โครงการนี้ นักลงทุนต่างชาติสามารถฝากเงินหยวนที่ต่างประเทศและสามารถลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จีน โดยมีจุดประสงค์ที่จะเปิดกว้างบัญชีสกุลเงินหยวนต่อภายนอก รวมทั้งส่งเสริมความเป็นสากลของสกุลเงินหยวน โครงการ RQFII ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็วมากโดยได้เพิ่มโควตากว่าสิบเท่าภายในไม่ถึง 2 ปีโดยเพิ่มจาก 20,000 ล้านหยวนในปี 2554 เป็น 270,000 ล้านหยวนในสิ้นปี 2555 นอกจากนั้น ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา จีนได้ประกาศเริ่มดำเนินโครงการ RQFII ที่ลอนดอนและสิงคโปร์ โดยลอนดอนและสิงคโปร์ได้รับอนุมัติโควตาร์ RQFII จากรัฐบาลจีนมูลค่า 80,000 ล้านหยวนและ 50,000 ล้านหยวนตามลำดับ
โครงการ RQFII เป็นการเปิดช่องทางให้นักลงทุนต่างชาติเข้าร่วมตลาดทุนภายในประเทศจีน โดยการขยายแหล่งดำเนินโครงการ RQFII ไปยังลอนดอนและสิงคโปร์จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งความเป็นสากลของสกุลเงินหยวนและการสะสมทุนของตลาดทุนของจีน ปัจจุบัน ลอนดอนครองสัดส่วนร้อยละ 62 ของตลาดการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนในพื้นที่นอกประเทศจีนและฮ่องกง ส่วนสิงคโปร์ก็เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนที่สำคัญในโลก ดังนั้น การที่ดำเนินโครงการ RQFII ในศูนย์กลางการเงินสองแห่งดังกล่าวนี้ จะส่งเสริมให้นักลงทุนต่างชาติยอมรับสกุลเงินหยวนมากขึ้น
ภายในเดือนกรกฏาคมปีนี้ สิงคโปร์มีการออมสกุลเงินหยวนทั้งสิ้น 140,000 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นร้อยละ 40 จากสิ้นปีก่อน นอกจากดำเนินโครงการ RQFII แล้ว จีนและสิงคโปร์ยังเริ่มดำเนินการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนและสกุลเงินสิงคโปร์โดยตรงระหว่างธนาคาร จีนยังสนับสนุนนิคมอุตสาหกรรมซูโจวและเมืองนิเวศเทียนจินชำระด้วยเงินหยวนกัลสิงคโปร์ ซึ่งเป็นก้าวใหญ่ที่สกุลเงินหยวนเดินออกไปยังต่างประเทศ