นครหนานหนิง เบียดเข้า “เมืองชั้นสอง” ของประเทศเป็นผลสำเร็จ

24 Dec 2013

เว็บไซต์ข่าวกว่างซี :  CBN Weekly (第一财经周刊) สื่อชั้นนำด้านเศรษฐกิจของจีนได้ทำการสำรวจ 400 เมืองทั่วประเทศจีน เพื่อจัดแบ่งระดับเมือง โดยใช้ตัวแปรที่มีความสัมพันธ์กันเพื่อสะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมเชิงสถานภาพและศักยภาพของเมืองอย่างแท้จริง

ปี 56 นครเฉิงตู เมืองที่เคยถูกมองว่าเป็นเมืองชั้นรองมาโดยตลอด ได้จับมือกับอีก 14 เมืองทั่วประเทศพาเหรดเข้าเป็นสมาชิก เมืองชั้นหนึ่ง (First Tier Cities) อาทิ นครซีอาน นครหังโจว นครหนานจิง นครอู่ฮั่น นครเทียนจิน นครฉงชิ่ง เมืองชิงต่าว นครเสิ่นหยาง นครฉางซา เมืองต้าเหลียน เมืองเซี่ยเหมิน เมืองอู๋ซี นครฝูโจว และนครจี่หนาน

ขณะที่ นครหนานหนิง กับอีก 35 เมืองทั่วประเทศ (รวมถึงนครคุนหมิง) ขยับจากเมืองชั้นรองปลายแถวเข้าไปอยู่ในกลุ่ม เมืองชั้นสอง (Second Tier Cities) ของประเทศในปีนี้

หลักการพิจารณาจัดแบ่งระดับเมืองของจีนมาจากเกณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถชี้วัดระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชน ระดับการศึกษา รวมถึงขีดความสามารถในการเติบโตทางเศรษฐกิจ

อาทิ ขนาดจีดีพี จำนวนวิสาหกิจชั้นนำที่เข้ามาจัดตั้งกิจการ (500 วิสาหกิจข้ามชาติ และ 100 วิสาหกิจชั้นนำของจีน) ความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ การจัดตั้งกิจการของแบรนด์เนมชั้นหนึ่ง รายได้เฉลี่ยของประชากร งานขนส่งทางอากาศ (ปริมาณการขนส่ง และการบินระหว่างประเทศ)

นอกจากนี้ ยังมีจำนวนของสถานกงสุลใหญ่ต่างประเทศ การเข้ามาจัดตั้งกิจการของธุรกิจชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ธนาคาร อสังหาริมทรัพย์ รถยนต์ ค้าปลีกเฟรนไชน์ โรงแรม และการตามกระแสแฟชั่นชั้นนำ เป็นต้น

BIC ตั้งข้อสังเกตว่า การที่หัวเมืองทางภาคตะวันตก (นครเฉิงตู นครซีอาน และนครฉงชิ่ง) และหัวเมืองทางภาคกลาง (นครอู่ฮั่น และนครฉางซา) สามารถเบียดเข้าสู่ กลุ่มเมืองชั้นหนึ่ง ได้หลายเมือง สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนแผ่นดินใหญ่ที่เริ่มเคลื่อนย้ายสู่ภาคกลางและภาคตะวันตกของประเทศ

ทั้งนี้ ปรากฎการณ์ข้างต้นสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนจากต่างประเทศในจีนแผ่นดินใหญ่ในระยะหลังที่นักลงทุนส่วนใหญ่ที่เข้ามาลงทุนในจีนเริ่มมองข้ามลงทุนในเมืองที่มีขนาดใหญ่อย่างกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้ นครกว่างโจว

แต่กลับให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในเมืองที่มีศักยภาพแต่มีขนาดรองลงมาอื่น ๆ แทน เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันที่รุนแรงในหัวเมืองใหญ่และหันมาจับฐานลูกค้าที่เริ่มมีกำลังซื้อเพิ่มสูงขึ้นในหัวเมืองขนาดรอง ซึ่งช่วยให้เมืองชั้นรองเหล่านี้มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และขยับตนเองเข้าสู่ หัวเมืองชั้นนำ ของจีนในเวลาต่อมา

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน