ดูโครงสร้างประชากรชาวกว่างซี คุณเห็นโอกาสอะไร?
19 Apr 2017การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรมีความสัมพันธ์โดยตรงกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ/ดินแดนนั้นๆ สำหรับภาคธุรกิจ โครงสร้างประชากรเป็นข้อมูลพื้นฐานที่สามารถนำมาพิจารณาประกอบการตัดสินใจและประเมินความเป็นไปได้ในการลงทุนได้เช่นกัน
เมื่อไม่นานมานี้ กรมสถิติเขตฯ กว่างซีจ้วงได้เปิดเผยผลการสำรวจสำมะโนประชากรของมณฑล ประจำปี 2559
บีไอซี พบข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างประชากรในเขตฯ กว่างซีจ้วงดังนี้
1. ชาวกว่างซีนิยมออกไปทำงานต่างมณฑล ทำให้ตัวเลขประชากรที่อาศัยอยู่ประจำมีจำนวนน้อยกว่าประชากรตามสำมะโนครัว
Ø ประชากรที่อาศัยอยู่ประจำมีจำนวน 48.38 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 4.2 แสนคน หรือราว 0.9% (สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งประเทศร้อยละ 0.3 จุด)
Ø ประชากรตามสำมะโนครัวมีจำนวน 55.79 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 6.08 แสนคน หรือราว 1.1% คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 4 ของประชากรทั้งประเทศ
Ø ความหนาแน่นของประชากรเพิ่มขึ้นจาก 195 คนต่อตารางกิโลเมตรในปี 2553 มาอยู่ที่ 204 คนต่อตารางกิโลเมตร (สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ 60 คนต่อตารางกิโลเมตร) ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นของประเทศจีน
Ø นครหนานหนิง(เมืองเอกของมณฑล) มีประชากรมากกว่า 7 ล้านคน ถือเป็นเมืองที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดของมณฑลทั้งในแง่จำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ประจำและประชากรตามสำมะโนครัว
2. เขตฯ กว่างซีจ้วงเป็นมณฑลที่มีอัตราเด็กเกิดใหม่สูงในประเทศจีน แม้ว่าอัตราการเกิดจะมีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย แต่เด็กเกิดใหม่ยังมีจำนวนมาก โดยมีปัจจัยสำคัญ ดังนี้
Ø สตรีที่อยู่ในวัยมีบุตรมีจำนวนน้อยลง ส่งผลให้อัตราการเกิดลดต่ำลง
Ø นโยบาย‘ลูกคนที่สอง‘ต่อการเพิ่มอัตราการเกิดยังต้องใช้เวลากว่าจะเห็นผล
อย่างไรก็ดี นโยบายพิเศษด้านการมีบุตรของชนชาติส่วนน้อย นโยบายผ่อนคลายการมีบุตรคนที่สองสำหรับคู่สมรสที่เป็นลูกคนเดียวทั้งสองฝ่าย และนโยบาย‘ลูกคนที่สอง‘ เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้การมีบุตรคนที่สองหรือมากกว่าสองคนมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้น
3. ชาวชนบทมีการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานเข้าสู่ตัวเมืองเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ระดับความเป็นเมือง(Urbanization) มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
Ø ประชากรที่อาศัยอยู่ประจำในเขตเมืองมีจำนวน 23.26 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 6.9 แสนคน หรือราว 3.1%
Ø ประชากรที่อาศัยอยู่ประจำในเขตชนบทมีจำนวน 25.12 ล้านคน ลดลงจากปีก่อนหน้า 2.7 แสนคน หรือลดลงราว 1.1%
Ø สัดส่วนประชากรในเขตเมืองเท่ากับ 48.1% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าร้อยละ 1 (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ร้อยละ 9.27)
Ø นครหนานหนิง เมืองหลิ่วโจว และเมืองกุ้ยหลิน เป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานของชาวชนบทเข้าสู่ตัวเมือง
4. ประชากรเพศชายกับเพศหญิงมีทิศทางความสมดุลกันมากขึ้น
Ø ประชากรที่อาศัยอยู่ประจำเพศชายมีจำนวน 25.12 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 51.9% และเพศหญิงมีจำนวน 23.25 ล้านคน มีสัดส่วน 48.1% โดยสัดส่วนของประชากรเพศชายต่อเพศหญิงเท่ากับ 108.01 ต่อ 100 (ปี 2553 อยู่ที่ 108.26)
Ø ประชากรตามสำมะโนครัวเพศชายมีจำนวน 29.42 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วน 52.7% และเพศหญิงมีจำนวน 26.36 ล้านคน มีสัดส่วน 47.3%
5.เขตฯ กว่างซีจ้วงกำลังก้าวเข้าสู่ ‘สังคมผู้สูงอายุ‘ (Aging Society) ผู้สูงอายุวัยเกิน 60 ปีมีจำนวน 7.16 ล้านคน คิดเป็น 14.8% ของประชากรทั้งหมด ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุวัยเกิน 65 ปีจำนวน 4.81 ล้านคน คิดเป็น 10% ของประชากรทั้งหมด
บทสรุป
บีไอซีเห็นว่า การศึกษาโครงสร้างประชากรในพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญที่ภาคธุรกิจสามารถนำมาใช้ประเมินความเหมาะสมของธุรกิจและแนวโน้มความอยู่รอดของธุรกิจในพื้นที่ที่จะออกไปลงทุน ยกตัวอย่างเช่นในเขตฯ กว่างซีจ้วง (รวมทั้งประเทศจีน) การผ่อนคลายนโยบายการมีบุตรกับการเข้าสู่‘ยุคเบบี้บูม‘และการเข้าสู่ ‘สังคมผู้สูงอายุ‘จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และสร้างช่องทางการค้าการลงทุนโดยเฉพาะในธุรกิจเครื่องใช้สำหรับแม่และเด็ก/ของใช้สำหรับผู้สูงอายุอาทิ ขวดนม ผ้าอ้อม เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ ของเล่น ธุรกิจด้านการศึกษาและการฝึกอบรม อาทิ โรงเรียน สถาบันเสริมทักษะในสาขาต่างๆ สถานรับเลี้ยงดูแลเด็กและคนชราสถานบริการดูแลแม่และเด็กหลังคลอด แม่บ้านและพี่เลี้ยง ธุรกิจด้านสุขภาพอนามัยอาทินมผง โรงพยาบาล เวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและบำรุงสุขภาพอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้สำหรับผู้สูงอายุ เป็นต้น
ลิงค์ที่น่าสนใจ
–ธุรกิจบริการคุณแม่ ‘อยู่ไฟ‘ กำลัง ‘บูม‘ ในตลาดจีน (25 เม.ย. 2559)
–‘สังคมสูงวัย‘ โอกาสธุรกิจโรงพยาบาล(ไทย)ในกว่างซี (19 เม.ย. 2559)
–นครหนานหนิงเข้ายุค Baby Boom ธุรกิจโรงพยาบาล ธุรกิจแม่และเด็กรับทรัพย์ (09 มี.ค. 2559)