เส้นทางรถโดยสารเฉพาะทางท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูเทียนฝู่ มียอดผู้โดยสารต่อวันทะลุ ๑๐,๐๐๐ คน

21 Mar 2025

สื่อรายงานว่า เส้นทางรถโดยสารเฉพาะทางท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูเทียนฝู่ ซึ่งให้บริการตลอด ๒๔ ชั่วโมงโดยไม่หยุดพัก มียอดผู้โดยสารต่อวันทะลุ ๑๐,๐๐๐ คนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยจนถึงขณะนี้ เส้นทางดังกล่าวให้บริการแก่ผู้โดยสารรวมแล้ว ๕.๐๙ ล้านคน นับตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๖ ที่เปิดให้บริการจนถึงปัจจุบัน และมีระยะทางการเดินรถสะสมถึง ๒๙.๓๕ ล้านกิโลเมตร

เส้นทางรถโดยสารเฉพาะทางดังกล่าวเป็นระบบขนส่งสาธารณะสายเดียวที่เชื่อมโยงระหว่างเขตเมืองหลักของนครเฉิงตูกับท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูเทียนฝู่แบบไม่หยุดพักตลอด ๒๔ ชั่วโมง ซึ่งได้รับการปรับปรุงและขยายเส้นทางอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีจำนวน ๖ เส้นทาง ครอบคลุมพื้นที่ “๕+๑”[๑] ของนครเฉิงตูและเขตใหม่เทียนฝู่ ทำให้เป็นตัวเลือกหลักสำหรับผู้โดยสาร โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางด้วยเที่ยวบินรอบดึก

ท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูเทียนฝู่ถือเป็นศูนย์กลางการคมนาคมระหว่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดของนครเฉิงตู และเป็นจุดแสดงภาพลักษณ์ของเมือง โดยกลุ่มบริษัทขนส่งมวลชนนครเฉิงตูได้จัดตั้งทีมปฏิบัติการเพื่อดูแลการดำเนินงานของเส้นทางดังกล่าว โดยใช้ระบบบำรุงรักษาเฉพาะเส้นทางตามหลัก “หนึ่งเส้นทาง หนึ่งแผนดำเนินการ” [๒] พร้อมตั้งศูนย์บำรุงรักษา ๔ แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูเทียนฝู่ ศูนย์ขนส่งสาธารณะจินซา สถานีขนส่งสวนสัตว์ และศูนย์จอดรถเจียวจื่อ เพื่อให้บริการบำรุงรักษาและกู้ภัยฉุกเฉินตลอด ๒๔ ชั่วโมง

นอกจากนี้ บริษัทขนส่งมวลชนยังได้จัดตั้งศูนย์บริการลูกค้าหลายแห่ง พร้อมทั้งเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น บริการเช่าแบตเตอรี่สำรอง สนามเด็กเล่น มุมอ่านหนังสือ ตลอดจนสร้างบรรยากาศการรอรถที่สะดวกสบาย โดยให้ข้อมูลตารางเวลารถโดยสารที่แม่นยำ ระบบจำหน่ายตั๋วอัตโนมัติแบบสองภาษา ช่องทางบริการลูกค้าตลอด ๒๔ ชั่วโมง และระบบติดตามสัมภาระและของหาย เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางของผู้โดยสาร

การพัฒนาเส้นทางขนส่งสาธารณะไปยังสนามบิน: บทเรียนจากเฉิงตูสู่ประเทศไทย

กรณีศึกษาของเส้นทางรถโดยสารเฉพาะทางที่ให้บริการระหว่างเขตเมืองหลักของนครเฉิงตูกับท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูเทียนฝู่ ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากกว่า ๑๐,๐๐๐ คนต่อวัน และมี การให้บริการตลอด ๒๔ ชั่วโมง ถือเป็นรูปแบบที่ประเทศไทยสามารถนำมาปรับใช้เพื่อยกระดับระบบขนส่งสาธารณะไปยังสนามบินหลัก เช่น สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และเชียงใหม่ ปัจจุบันประเทศไทยมีระบบขนส่งไปยังสนามบิน เช่น รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (ARL) และ รถไฟฟ้าสายสีแดง (SRT Red Line) แต่ยังมีข้อจำกัด เช่น การให้บริการที่ไม่ครอบคลุม ๒๔ ชั่วโมง และปัญหาความแออัดในช่วงเวลาเร่งด่วน นอกจากนี้ ระบบรถโดยสารสนามบิน เช่น สาย A1-A4 ที่ดอนเมือง และ S1 ที่สุวรรณภูมิ ยังขาดความถี่ที่สม่ำเสมอและมักจะหยุดให้บริการก่อนเที่ยงคืน ทำให้ผู้โดยสารที่เดินทางรอบดึกต้องพึ่งพารถแท็กซี่หรือรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงและอาจประสบปัญหาการจราจรติดขัด

การดำเนินงานของเส้นทางรถโดยสารเฉพาะทางของสนามบินเทียนฝู่สะท้อนให้เห็นถึง แนวทางการบริหารจัดการแบบบูรณาการ โดยใช้หลัก “หนึ่งเส้นทาง หนึ่งแผนดำเนินการ” ซึ่งหมายถึง การกำหนดแผนบำรุงรักษาเฉพาะทางสำหรับแต่ละเส้นทาง เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ ระบบนี้ช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น ลดปัญหาการหยุดชะงักของบริการ และรับประกันความปลอดภัยของผู้โดยสาร การนำแนวทางนี้มาปรับใช้ในไทย อาจช่วยแก้ไขปัญหาการขัดข้องของระบบขนส่งสาธารณะ เช่น กรณีขบวนรถไฟฝั่งแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ที่เกิดเหตุขัดข้องบ่อยครั้ง และการบำรุงรักษาที่ไม่เป็นระบบ การจัดตั้ง ศูนย์บำรุงรักษา และ ทีมปฏิบัติการเฉพาะเส้นทาง ที่ทำงานตลอด ๒๔ ชั่วโมง เช่นเดียวกับสนามบินเทียนฝู่ จะช่วยให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างรวดเร็ว ลดผลกระทบต่อผู้โดยสารและเพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบ

อีกหนึ่งปัจจัยที่ไทยสามารถนำมาใช้เป็นต้นแบบคือ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้โดยสาร ปัจจุบัน ผู้โดยสารที่ใช้บริการขนส่งสนามบินในไทยอาจพบปัญหาการรอคอยในสภาพแวดล้อมที่ไม่สะดวกสบาย เช่น บางสถานีไม่มีพื้นที่นั่งรอเพียงพอ หรือไม่มีข้อมูลตารางเวลารถโดยสารที่ชัดเจน กรณีของสนามบินเทียนฝู่ บริษัทขนส่งมวลชนได้ลงทุนในการสร้างศูนย์บริการลูกค้า เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สนามเด็กเล่น มุมอ่านหนังสือ และบริการเช่าแบตเตอรี่สำรอง รวมถึงให้บริการ จำหน่ายตั๋วอัตโนมัติแบบสองภาษาและระบบติดตามสัมภาระ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์การเดินทางที่ดียิ่งขึ้น ประเทศไทยอาจพิจารณาพัฒนาบริการในลักษณะเดียวกัน เช่น การเพิ่มจุดให้บริการเช่าแบตเตอรี่ในสถานีรถไฟฟ้าสนามบิน และการปรับปรุงป้ายบอกทางและตารางเวลารถให้เป็นสองภาษา เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว

นอกจากนี้ การให้บริการ เส้นทางขนส่งสนามบินที่ครอบคลุมหลายพื้นที่ของเมือง เป็นอีกแนวทางที่ประเทศไทยสามารถพัฒนาเพิ่มเติม ปัจจุบัน ระบบขนส่งไปสนามบินของไทยเน้นการเชื่อมต่อเฉพาะกับใจกลางกรุงเทพฯ เท่านั้น ในขณะที่สนามบินเทียนฝู่มีเส้นทางรถโดยสาร ๖ เส้นทางที่ครอบคลุมพื้นที่ “๕+๑” ของนครเฉิงตู ทำให้ประชาชนจากเขตต่าง ๆ สามารถเดินทางไปสนามบินได้โดยสะดวกโดยไม่ต้องต่อรถหลายทอด แนวทางนี้สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับกรุงเทพฯ โดยการเพิ่มเส้นทางรถโดยสารสนามบินที่ครอบคลุมเขตเมืองชั้นนอก เช่น บางนา รามอินทรา และฝั่งธนบุรี เพื่อลดภาระของแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ และเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชน หากประเทศไทยสามารถดำเนินการตามแนวทางเหล่านี้ จะช่วยให้ระบบขนส่งไปสนามบินมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความแออัด และส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศในฐานะศูนย์กลางการท่องเที่ยวและโลจิสติกส์ระดับภูมิภาคได้ดียิ่งขึ้น


[๑] พื้นที่ “๕+๑” ของนครเฉิงตู หมายถึงเขตศูนย์กลางของนครเฉิงตู ซึ่งประกอบด้วย เขตจิ่นเจียง (锦江区), เขตชิงหยาง (青羊区), เขตจินหนิว (金牛区), เขตหวู่โหว (武侯区), เขตเฉิงหัว (成华区) และเขตเกาซิน (高新区) พื้นที่เหล่านี้ตั้งอยู่ภายในระยะ ๕๐๐ เมตรจากวงแหวนรอบเมือง (ทางด่วนวงแหวนที่สี่) และเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และพาณิชยกรรมของนครเฉิงตู

[๒] “หนึ่งเส้นทาง หนึ่งแผนดำเนินการ” หรือ “一线一策” หมายถึง แนวทางการบำรุงรักษาเชิงปรับแต่งเฉพาะทางสำหรับแต่ละเส้นทาง โดยแต่ละเส้นทางจะได้รับการวางแผนและดำเนินมาตรการบำรุงรักษาที่เหมาะสมกับลักษณะเฉพาะของเส้นทางนั้น ๆ แทนที่จะใช้แนวทางเดียวกันสำหรับทุกเส้นทาง

ที่มา: เข้าถึงข้อมูลวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๘
๑. http://sc.people.com.cn/n2/2025/0203/c345167-41125366.html
๒. https://www.bangkokpost.com/business/1437874/srt-adds-slow-train-as-commuters-slam-airport-rail-link
๓. https://www.nationthailand.com/thailand/general/40036609
ที่มารูปภาพ:
๑. https://scnews.newssc.org/system/20250202/001505036.html

เส้นทางรถโดยสารเฉพาะทางท่าอากาศยานนานาชาติเฉิงตูเทียนฝู่

Chengdu_editor

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน