มหานครฉงชิ่ง กับ แพลตฟอร์ม “หมาย เตี่ยน ไช่ (买点菜)” ตลาดค้าส่งสินค้าเกษตรออนไลน์แห่งยุคดิจิทัล
15 Jan 2019เปิดให้บริการในมหานครฉงชิ่งอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับแพลตฟอร์ม “หมาย เตี่ยน ไช่” แพลตฟอร์มระบบตลาดสดของเกษตรกรยุคดิจิทัล หลังจากที่มีพิธีลงนามสัญญาความร่วมมือในการพัฒนาแพลตฟอร์มดังกล่าว ภายในงานมหกรรม Smart China Expo 2018 เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา
แพลตฟอร์ม “หมาย เตี่ยน ไช่” เป็นการพลิกโฉมรูปแบบการซื้อ-ขายสินค้าเกษตรแบบดั้งเดิม ด้วยการนำเทคโนโลยีอัจริยะและเทคโนโลยีสนเทศเข้ามาสร้างรูปแบบธุรกิจ S2b2c หรือ รูปแบบอีคอมเมิร์ซที่รวบรวมสินค้าจากผู้ผลิต เพื่อจัดจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยให้การซื้อ-ขายสินค้ามีระบบแบบแผนยิ่งขึ้น ทั้งยังเพิ่มความรวดเร็ว ความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ให้แก่ทั้งฝ่ายผู้ผลิตและผู้บริโภค
แพลตฟอร์มบริการดังกล่าว ประกอบด้วย ระบบลงทะเบียน ระบบการจัดการหน้าร้าน ระบบจัดการการชำระเงิน เครื่องชั่งน้ำหนักอิเล็กทรกนิกส์อัจฉริยะ และระบบจัดซื้อ โดยเกษตรกรจะวางขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม เพื่อให้ผู้บริโภคเข้ามาเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการผ่านแอปพลิเคชั่น จากนั้น จะดำเนินการขั้นตอนในการจัดซื้อ ให้อย่างเสร็จสรรพ นอกจากนี้ บนแพลตฟอร์มยังมีระบบตรวจสอบรายการซื้อ-ขาย ให้ทั้งผู้ขายและผู้ซื้อสามารถตรวจเช็ครายการย้อนหลังได้ทุกรายการ
ไม่เพียงแต่ระบบการบริการที่ทันสมัยและสะดวกสบาย ทางผู้พัฒนาแพลตฟอร์มนี้ ยังให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพสินค้าและราคาเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยมีระบบตรวจสอบและติดตามสินค้าด้วย QR Code มีการตรวจสารพิษตกค้างในสินค้า มีระบบการกำกับดูแลการตั้งราคาสินค้า ซึ่งจะช่วยควบคุมทั้งคุณภาพและราคาของสินค้า เพื่อให้ผู้ซื้อและผู้ขายเกิดความมั่นใจในสินค้าและบริการของ “หมาย เตี่ยน ไช่” อย่างสูงสุด
บริษัท Wisdom (China) Technology Development จำกัด ผู้ผลิตและพัฒนาแพลตฟอร์มดังกล่าว กล่าวว่า วัตุประสงค์ของการพัฒนา “หมาย เตี่ยน ไช่” นั้น เพื่อส่งเสริมตลาดการเกษตรของมหานครฉงชิ่ง เพิ่มช่องทางการซื้อ-ขายสินค้าเกษตรให้แก่เกษตรและผู้บริโภค ลดปัญหาสินค้าถูกกดราคาและสินค้าตกค้าง ทั้งนี้ ยังมีการวางแผนที่จะขยายแพลตฟอร์มให้ครอบคลุมไปถึงมณฑลเสฉวน มณฑลยูนนาน และมณฑลอื่น ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงต่อไปในอนาคต หากกระแสตอบรับในมหานครฉงชิ่งเป็นไปตามที่ตั้งเป้าไว้
นับว่าเป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่น่าจับตามอง เพราะเป็นการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจ ทั้งยังช่วยเหลือเกษตรกรให้มีช่องทางที่มีประสิทธิภาพในการขายสินค้า พร้อมกับแก้ปัญหาการถูกกดราคาสินค้าจากพ่อค้าคนกลาง ถือเป็นแนวทางที่ประเทศเกษตรกรรม เช่น ไทย อาจพิจารณาและนำมาพัฒนาประยุกต์ใช้เป็นอย่างมาก
