ธุรกิจไทยได้หรือเสีย?? กว่างซี-เวียดนามรวมพลังขับเคลื่อนความร่วมมือ “ชายแดน” แบบรอบด้าน

27 Dec 2013

สำนักข่าวซินหัว-เขตฯ กว่างซีจ้วง : วานนี้ (25 ธ.ค.56) ทางการกว่างซีร่วมกับ 4 จังหวัดชายแดนเวียดนามได้เข้าร่วมประชุม คณะกรรมาธิการความร่วมมือด้านการบริหารด่านพรมแดนทางบกจีน-เวียดนาม ครั้งที่ 6 เพื่อผลักดันและยกระดับความร่วมมือในพื้นที่ชายแดนระหว่างกัน

การประชุมดังกล่าวนับเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการผลักดันการทำงานร่วมกันระหว่างกว่างซีกับจังหวัดชายแดนเวียดนาม ได้แก่ จังหวัด Cao Bang, จังหวัด Lang Son, จังหวัด Quang Ninh และจังหวัด Ha Giang

ทั้งสองฝ่ายได้บรรุลข้อตกลงร่วมกันในหลายประเด็น ดังนี้

หนึ่ง การเร่งผลักดันความคืบหน้าในการจัดตั้้ง เขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจข้ามพรมแดน (Cross Border Economic Cooperation Zone) ในสาระสำคัญ อาทิ การกำหนดสถานที่จัดตั้ง เขตอาณาบริเวณ ฟังก์ชั่นภายใน รูปแบบการดำเนินงาน ระบบบริหารจัดการ รวมถึงนโยบายพิเศษต่าง ๆ

ในการประชุมฯ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันกำหนดเวลาการยื่นเสนอรายงานแผนการจัดตั้งเขตความร่วมมือฯ กับรัฐบาลฝ่ายตนภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2557 และเปิดดำเนินงานก่อสร้างภายในครึ่งปีหลังของปีเดียวกัน

เขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจข้ามพรมแดน 3 แห่ง ได้แก่ 1) เขตความร่วมมือฯ ด่านตงซิงกับด่าน Mong Cai ของ จังหวัด Quang Ninh 2) เขตความร่วมมือฯ ด่านผิงเสียงกับอำเภอ Dong Dang ของจังหวัด Lang Son และ 3) เขตความร่วมมือฯ ด่านหลงปังกับด่าน Ta Lung ของจังหวัด Cao Bang

สอง การส่งเสริม ความเชื่อมโยง (Connectivity) และระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม ดังนี้

ระบบทางหลวงพิเศษ 4 เส้นทาง ได้แก่ อำเภอระดับเมืองผิงเสียง-กรุงฮานอย อำเภอระดับเมืองตงซิง-ตำบล Mong Cai – เมืองฮาลอง (จังหวัด Quang Ninh)-กรุงฮานอย อำเภอจิ้งซี-ด่านหลงปัง-จังหวัด Cao Bang และเมืองฉงจั่ว-ด่านสุยโข่ว-จังหวัด Cao Bang

ระบบราง 2 เส้นทาง ได้แก่ นครหนานหนิง-อำเภอระดับเมืองผิงเสียง-ตำบล Dong Dang (จังหวัด Lang Son)-กรุงฮานอย และเมืองฝางเฉิงก่าง-อำเภอระดับเมืองตงซิง-ตำบล Mong Cai – เมืองฮาลอง (จังหวัด Quang Ninh)-จังหวัดไฮฟอง-กรุงฮานอย

นอกจากนี้ ยังมีการเร่งผลักดันโครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำระหว่างกว่างซีกับเวียดนามหลายแห่ง การเร่งเปิดเส้นทางขนส่งระหว่างประเทศเส้นทางใหม่ (นครหนานหนิง-ไฮฟอง เมืองฉงจั่ว-ฮาลอง และเมืองกุ้ยหลิน-กรุงฮานอย)

การผลักดันแผนการขับขี่รถยนต์ส่วนตัวข้ามแดนเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อสนับสนุนให้รถยนต์ของทั้งสองฝ่ายสามารถสัญจรระหว่างกันผ่านด่าน 4 แห่ง ได้แก่ ด่านตงซิง-Mong Cai, ด่านโหย่วอี้กวาน-ด่าน Huu Nghi, ด่านสุยโข่ว-ด่านTa Lung และด่านหลงปัง-ด่าน Tra Linh)

สาม การเร่งจัดตั้ง การยกระดับการเปิดสู่ภายนอก รวมถึงการขยายพื้นที่อาณาของด่านพรมแดนและจุดผ่อนปรนการค้าชายแดนจีน(กว่างซี)กับเวียดนามให้ครอบคลุมพื้นที่กว้างมากขึ้น โดยเฉพาะด่านสากล (ด่านโหย่วอี้กวาน ด่านตงซิง ด่านหลงปัง และด่านสุยโข่ว)

นอกจากนี้ ยังมีการเร่งยกระดับด่านชั้นสอง (ด่านการค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน) รวมถึงจุดผ่อนปรนตลาดการค้าชายแดนที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจคึกคักให้เป็นด่านสากล (ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเมืองฉงจั่ว) และการเปิดจุดผ่อนปรนตลาดการค้าชายแดนแห่งใหม่

สี่ การส่งเสริมความร่วมมือด้านการศึกษาและวัฒนธรรม การจัดสรรทุนการศึกษาในระดับอุดมศึกษาขึ้นไป การแลกเปลี่ยนครูอาจารรย์และนักเรียนนักศึกษา การรับรองหน่วยกิตและวุฒิการศึกษาร่วมของสถาบันการศึกษา

ในการประชุมครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีมติร่วมกันในการยื่นขออนุมัติจากรัฐบาลกลางของประเทศตนเกี่ยวกับการขยายเวลาการเปิดปิดด่านพรมแดนที่มีปัจจัยความพร้อม รวมทั้งมีปริมาณคนและสินค้าผ่านเข้าออกจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และสร้างบรรยากาศการค้าการลงทุนในพื้นที่

อนึ่ง ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุความเห็นร่วมกันในหลายด้าน อาทิ เศรษฐกิจการค้าการลงทุน การบริหารจัดการด่านพรมแดนทางบก วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การท่องเที่ยวชายแดน เกษตรและอุตสาหกรรม การบริหารตรวจสอบความปลอดภัยด้านการคมนาคมทางน้ำ (แม่น้ำกั้นพรมแดน) และระเบียบบริหารจัดการแรงงานข้ามแดนบริเวณชายแดน

BIC เห็นว่า ความเคลื่อนไหวข้างต้นจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจการค้าจากภาคอีสานไทยเข้าสู่ชายแดนเขตฯ กว่างซีจ้วงผ่านเส้นทางอาร์ต่าง ๆ (R8 R9 และ R12) โดยเฉพาะในประเด็นโครงข่ายเส้นทางคมนาคม รวมถึงการจัดตั้งและยกระดับด่านพรมแดนของกว่างซีและเวียดนาม (ซึ่งอาจจะกระทบต่อสิทธิประโยชน์การค้าชายแดนไม่มากก็น้อย)

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน