HKTDC Education & Careers Expo ครั้งที่ 24 ประจำปี พ.ศ. 2557

7 Mar 2014

หลายคนอาจจะคุ้ยเคยกันดีกับคำพูดของอดีตประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ นายเนลสัน  แมนเดล่า ที่ว่า "การศึกษาเป็นอาวุธที่ร้ายแรงที่สุดที่สามารถใช้เปลี่ยนแปลงโลกได้" ( "Education is the most powerful weapon which you can use to change the world." ) คำกล่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาที่เราไม่อาจจะปฏิเสธได้ โดยเฉพาะการดำเนินชีวิตในสังคมปัจจุบันที่มีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้นทั่วโลก และการศึกษานี้เองก็จะเป็นเครื่องมือในการสร้างอาชีพและอนาคตให้กับคนได้ทุกชนชั้น หากจะมีอะไรที่จะช่วยส่งเสริมความเสมอภาคและเท่าเทียมกัน เราคงจะไม่อาจปฏิเสธได้ว่า การศึกษานี้เองที่จะช่วยเปลี่ยนคน สร้างคน และสร้างสังคมที่มีความเสมอภาคมากขึ้น  

 นโยบายด้านการศึกษากับการรักษาสถานะการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของฮ่องกง

 ด้วยสถานะการเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของฮ่องกง รัฐบาลฮ่องกงจึงมิอาจนิ่งนอนใจต่อการเร่งผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งในการดึงดูดนักลงทุน รัฐบาลจึงได้มีการเตรียมความพร้อมทางด้านการศึกษา เพื่อสร้างประชากรที่มีทักษะ ความรู้ความสามารถ และศักยภาพในการแข่งขันในระดับโลก โดยมีนโยบายในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชากรในวัยเรียนได้มีโอกาสเรียนรู้และมีประสบการณ์ตรงในด้านสาขาการเรียนนั้น ๆ โดยเฉพาะสาขาวิชาที่จะช่วยชดเชยภาคอุตสาหกรรมที่ประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งที่รัฐบาลฮ่องกงกำลังเผชิญอยู่ รัฐบาลฮ่องกงให้ความสำคัญอย่างเท่าเทียมกันต่อการศึกษาทุกระดับและทุกประเภททั้งการศึกษาระดับอุดมศึกษาและการฝึกอบรบวิชาชีพ รัฐบาลฮ่องกงจึงได้ร่วมมือกับหน่วยงาน HKTDC จัดงานแนะแนวการศึกษาและแนะนำอาชีพสำหรับวัยหนุ่มสาวและบุคคลทั่วไปของฮ่องกงที่สนใจสามารถเข้าชมงานได้โดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ภายในงานมีการรวมรวบเอาบุคคลในสาขาวิชาและอาชีพต่าง ๆ รวมทั้งสถานศึกษาทุกระดับ ทั้งของฮ่องกงและสถานศึกษาของต่างประเทศ มาออกบูธร่วมจัดแสดงในงาน โดยในปีนี้ งาน Hong Kong Education & Career Expo ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 16 กุมภาพันธ์ 2557 มีตัวแทนสถาบันการศึกษา สมาคมวิชาชีพต่าง ๆ ตัวแทนหน่วยงานส่วนราชการ องค์กรมหาชน และบริษัทต่างๆ มาร่วมออกงานจำนวนกว่า 760 บูธ โดยนาย Eddie Ng รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการของฮ่องกง ได้มาเป็นประธานกล่าวเปิดงานในครั้งนี้ซึ่งได้สร้างความประทับใจให้กับผู้ฟัง ด้วยการเล่าถึงนโยบายทางด้านการศึกษาที่ นาย Leung Chung-yin ผู้บริหารสูงสุดของฮ่องกง ได้แถลงเมื่อเดือนมกราคม 2557 ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการลงทุนด้วยงบประมาณมหาศาลเพื่อพัฒนาการศึกษาของฮ่องกง โดยเฉพาะการให้เงินอุดหนุนในภาควิชาที่กำลังเป็นที่ต้องการในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และการให้ทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนที่เรียนดีไปเรียนต่อทั้งในจีน และต่างประเทศ บีไอซียังรู้สึกทึ่งว่า การวางแผนระยะยาวดังกล่าวได้สร้างความพึงพอใจให้กับภาคธุรกิจ และนักศึกษาที่จบออกมา ก็รับรองได้ว่ามีงานรองรับ นอกจากนี้ ยังจะช่วยกระชับมิตรกับจีนและประเทศอื่น ๆ ผ่านเครือข่ายนักศึกษาด้วย

 มีอะไรในงาน Education & Career Expo 2557

บีไอซีได้ไปเดินสำรวจงาน ซึ่งมีการจัดแบ่งออกเป็นสองโซน คือ โซนแนะแนวการศึกษา และโซนสำหรับแนะแนวอาชีพ

1.     โซนสำหรับแนะแนวการศึกษา

ประกอบด้วย การจัดบูธของสถานศึกษาต่าง ๆ ที่มาแนะนำคอร์สการเรียนการสอนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งบูธการจัดการการศึกษาแบบสร้างสรรค์เพื่อดึงดูดนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจประกอบอาชีพทางด้านอุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดเชิงสร้างสรรค์โดยเฉพาะ เช่น บูธของสถาบัน Pet Therapy Grooming Academy ซึ่งนำเสนอคอร์สการตัดแต่งขน การนวดร่างกาย และการบำบัดรักษาสัตว์เลี้ยง นอกจากนี้ ยังมีบูธจากสถาบันการเรียนการสอนด้านศิลปะการแสดงของฮ่องกง (Hong Kong Academy for Performing Arts) และสถาบันเสริมความงามนานาชาติสำหรับเจ้าสาวด้วย

บีไอซี สังเกตเห็นว่า บูธแนะแนวการศึกษาส่วนใหญ่จะเป็นสถานศึกษาที่มีการเปิดการเรียนการสอนที่เน้นในด้านอุตสาหกรรมการให้บริการ เช่น สาขาการจัดการด้านการโรงแรม การจัดการด้านการท่องเที่ยว การทำอาหาร และการจัดการด้านการเงิน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายในการเตรียมความพร้อมบุคลากรรุ่นใหม่ของฮ่องกง เพื่อเข้าสู่ตลาดแรงงานอุตสาหกรรมภาคการบริการที่ต้องการบุคคลากรจำนวนมากในอนาคต เพราะนอกเหนือจากภาคการเงินที่เป็นแหล่งรายได้หลักของฮ่องกงแล้ว อุตสาหกรรมหลักอีกอย่างหนึ่งของฮ่องกงก็คือ อุตสาหกรรมการบริการนั่นเอง

พอได้เห็นบูธสถานการศึกษาด้านการบริการเหล่านี้ บีไอซีก็เกิดไอเดียขึ้นมาว่า ไทยเราเองก็มีโรงเรียนสอนอาชีพที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งมีฝีมือในระดับอินเตอร์ที่น่าจะดึงดูดนักเรียนนักศึกษาต่างชาติได้มากทีเดียว เช่น โรงเรียนการทำอาหารนานาชาติสวนดุสิตที่มีการสอนการประกอบอาหาร        ทั้งไทยและนานาชาติ รวมทั้งโรงเรียนด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่มีหลักสูตรอินเตอร์ ซึ่งล้วนมีศักยภาพที่จะมาร่วมจัดแสดงบูธนำเสนอคอร์สต่าง ๆ ที่งาน Expo นี้ได้ หากมีโอกาส

2.     โซนสำหรับแนะแนวอาชีพ

มีการตั้งบูธแนะนำองค์กรของหน่วยงานทั้งของราชการ องค์กรมหาชน และบริษัท รวมทั้งมีการรับสมัครงานในบูธด้วย เช่น หน่วยงานราชการของฮ่องกง ได้แก่ กรมศุลกากร หน่วยดับเพลิง กรมตำรวจ กรมราชทัณฑ์ และกรมเจ้าท่า เป็นต้น บีไอซีพบว่า หน่วยงานราชการที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก ได้แก่ หน่วยดับเพลิง และกรมตำรวจ ซึ่งมีสถิติการได้รับใบสมัครเป็นจำนวนมากเมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐบาล 

กรมตำรวจ (Hong Kong Police Force)

 บีไอซีได้มีโอกาสสนทนากับ Mr. Chan Choi-hing, Dickies เจ้าหน้าที่ตำรวจจากหน่วยรับสมัครเจ้าหน้าที่ของกรมตำรวจ พบว่า อาชีพตำรวจของฮ่องกงเป็นอาชีพในฝันของคนวัยหนุ่มสาวฮ่องกง จึงมีการแข่งขันสูง แม้ว่าคุณสมบัติเบื้องต้นสำหรับการสมัครนั้นจะไม่เคร่งครัดมากนัก แต่ผู้สมัครจะต้องผ่านการสอบข้อเขียน ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย สอบสัมภาษณ์เป็นกลุ่ม และมีการสัมภาษณ์รอบสุดท้ายแบบตัวต่อตัวกับเจ้าหน้าที่อาวุโสอีกครั้งหนึ่ง หลังจากนั้น ผู้ที่ผ่านการทดสอบจะต้องได้รับการอบรบใน Police College เป็นเวลา 4 เดือน เพื่อเรียนรู้การเป็นตำรวจมืออาชีพและการใช้ปืน

จากการสัมภาษณ์ Mr. Chan บีไอซีได้เรียนรู้ว่า การเข้ารับราชการเป็นตำรวจที่ฮ่องกงจะแตกต่างกับของประเทศไทยตรงที่ ไทยเรามีโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ในขณะที่ตำรวจที่ฮ่องกงไม่จำเป็นต้องจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจมาก่อน จึงทำให้ผู้ที่สมัครเข้ารับราชการเป็นตำรวจที่ฮ่องกงส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจากสาขาต่าง ๆ หากบุคคลเหล่านั้นต้องการเป็นตำรวจ ก็ต้องผ่านการทดสอบและเข้ารับการฝึกอบรมจาก Police College ซึ่งบีไอซีเห็นว่า ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้ารับราชการตำรวจฮ่องกงที่มีพื้นฐานการศึกษาที่หลากหลายนี้ ซึ่งนำเอาประสบการณ์และความรู้จากหลายสาขาอาชีพมาร่วมการทำงาน ได้มีส่วนช่วยทำให้กองกำลังตำรวจของฮ่องกงสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สังเกตได้จากอัตราการเกิดอาชญากรรมของฮ่องกงที่มีจำนวนลดลงเรื่อย ๆ ในแต่ละปี และในระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ฮ่องกงไม่มีอาชญากรรมที่เกิดจากการใช้อาวุธเลย นี่เป็นความภาคภูมิใจของกรมตำรวจฮ่องกงเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงจะมีการเปลี่ยนหน้าที่รับผิดชอบทุก ๆ 3 ปี ซึ่งส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับประสบการณ์ที่หลากหลายมากขึ้น



 หน่วยดับเพลิง (Hong Kong Fire Services Department)

หน่วยดับเพลิง (Hong Kong Fire Services Department) เป็นอีกหน่วยงานหนึ่งที่บีไอซี สังเกตเห็นว่า ได้รับความสนใจไม่น้อยจากผู้เข้าชมงานในครั้งนี้ โดยเป็นหน่วยงานที่มีคนกรอกใบสมัครมากที่สุด และมีการแข่งขันสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐ สังเกตได้จากการที่หน่วยดับเพลิงได้ประกาศรับสมัครเจ้าหน้าที่ดับเพลิง (Fire Fighter) จำนวน 60 ตำแหน่ง และได้รับใบสมัครจากผู้ที่สนใจจำนวนกว่า 2,000 คน ส่วนเจ้าหน้าที่ประจำสถานีดับเพลิงที่มีตำแหน่งว่างเพียง 20 ตำแหน่ง และได้รับใบสมัครกว่า 1,300 ใบ คุณสมบัติของผู้สมัครที่หน่วยดับเพลิงต้องการ คือ ความเป็นผู้นำ ความกล้าหาญ และกล้าที่จะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดชัดเจน เพราะจะต้องสามารถช่วยเหลือและนำผู้ประสบภัยให้รอดพ้นจากภยันตรายในสถานการณ์คับขันเฉพาะหน้าได้อย่างรวดเร็วโดยผู้สมัครจะต้องผ่านการทดสอบ ทั้งสอบข้อเขียน การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย การสัมภาษณ์ และทดสอบทักษะทางภาษา

 

ทำไมการแข่งขันเข้าทำงานในหน่วยดับเพลิงของฮ่องกงถึงสูงมาก ?

Mr. Yeung Kai-wang เจ้าหน้าที่ประจำสถานีดับเพลิงอาวุโส ได้กล่าวกับบีไอซีว่า การที่คนวัยหนุ่มสาวให้ความสนใจทำงานกับหน่วยดับเพลิง อาจเป็นเพราะภาพลักษณ์ของการเป็นฮีโร่ของเจ้าหน้าที่ที่ช่วยเหลือคนให้ปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนได้เห็นจากสื่อโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และการ์ตูน

ทำให้พวกเขาเหล่านั้น โดยเฉพาะเด็ก ๆ เมื่อโตขึ้นมาแล้วอยากเป็นฮีโร่ที่ช่วยเหลือผู้คน อีกทั้งสวัสดิการและรายได้ของเจ้าหน้าที่ของหน่วยดับเพลิงก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดใจผู้คนเป็นอย่างมาก โดยนักศึกษาที่เพิ่งจบการศึกษาหมาด ๆ เงินเดือนเริ่มต้นของเจ้าหน้าที่ดับเพลิงอยู่ที่
17,000 ดอลลาร์ฮ่องกงหรือประมาณ  68,000 บาท ส่วนของเจ้าหน้าที่ประจำสถานีดับเพลิง เริ่มต้นที่ 31,000 ดอลลาร์ฮ่องกงหรือประมาณ  124,000 บาท ซึ่งนับว่าเป็นอัตราเงินเดือนที่สูงมากสำหรับผู้ที่เพิ่งจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย



กรมราชทัณฑ์

 เป็นหน่วยงานที่มีจำนวนผู้สนใจไม่มากนัก เมื่อเปรียบเทียบกับหน่วยงานรัฐบาลอื่น ๆ ทางบีไอซีได้เข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ พบว่า ความนิยมในอาชีพนี้ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับอาชีพตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ดับเพลิง เพราะเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ต้องทำงานกับผู้ต้องโทษ ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่เห็นว่า มีแรงกดดันค่อนข้างสูง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้กล่าวกับบีไอซีว่า หากเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี จำนวนผู้ต้องโทษที่เจ้าหน้าที่จะมีจำนวนน้อยลง แต่เมื่อใดที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะถดถอย จำนวนผู้ต้องโทษก็จะเพิ่มสูงขึ้น

สร้างโอกาสธุรกิจไทยก้าวไกล…มองประโยชน์จากการพัฒนาการศึกษาของฮ่องกง         

บีไอซีเห็นว่า งาน Expo ดังกล่าวทำให้เราเข้าใจมากขึ้นว่า ทำไมนักธุรกิจ นักลงทุน นักการเงินที่มีฝีมือดีระดับโลกถึงยอมย้ายจากบ้านเกิดเมืองนอนมาอยู่ที่ฮ่องกง ก็เพราะฮ่องกงมีทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพซึ่งเป็นผลจากระบบการศึกษาที่ดีและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีสภาพเเวดล้อมที่เหมาะกับการอยู่อาศัยและการทำธุรกิจ เพราะมีประชาชนที่มีระเบียบวินัยและมีการบังคับใช้กฏหมายที่ดี



บีไอซีก็เห็นว่า ผู้ประกอบการไทยหากมาลงทุนและจัดตั้งบริษัทสาขาหรือสำนักงานใหญ่ในฮ่องกง ก็จะมีโอกาสได้ใช้ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพของฮ่องกง ในการขับเคลื่อนหรืออาจว่าจ้างให้ไปทำงานที่ประเทศไทยหรือประเทศที่
3 โดยเฉพาะจีน เนื่องจากชาวฮ่องกงมีความรู้ความเข้าใจและมีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับจีนที่สูงมาก นอกจากนี้ จากการสำรวจงานในครั้งนี้ บีไอซีมีความเห็นว่า คนฮ่องกงส่วนใหญ่ยังนิยมไปศึกษาต่อต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการเรียนการสอน ดังนั้น สถาบันการศึกษาของไทย โดยเฉพาะทางด้านการท่องเที่ยวและการโรงแรม และการสอนทำอาหารที่มีหลักสูตรการเรียนการสอนแบบอินเตอร์สำหรับนักเรียนชาวต่างชาติ อาจพิจารณาที่จะออกมประชาสัมพันธ์ให้นักศึกษาฮ่องกงได้รู้จักในงานลักษณะเช่นนี้ของฮ่องกง สถาบันไทยอาจจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักเรียนฮ่องกงก็เป็นได้ เพราะประเทศไทยมีข้อได้เปรียบ

เนื่องจากอยู่ใกล้กับฮ่องกง ค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพราคาไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่น ๆ หรือไทยเราอาจพิจารณาจัดงาน Expo ด้านการศึกษาและหางานแบบฮ่องกงมากขึ้น คงจะดีไม่น้อย โดยเฉพาะถ้าจะได้เห็นหน่วยงานราชการต่าง ๆ ของไทยออกบูธร่วมกับสถาบันการศึกษาไทยในลักษณะเบบนี้บ้าง บีไอซีแอบหวังว่า งานแนะแนวการศึกษาและอาชีพของฮ่องกงประจำปี 2558 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 2-8 กุมภาพันธ์ 2558 จะได้เห็นผู้ประกอบการไทยมาร่วมออกบูธแนะนำสถาบันการศึกษาของไทยเราให้เป็นที่รู้จักและอาจจะกลายเป็นที่นิยมของนักเรียนนักศึกษาฮ่องกงในอนาคต ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปชมรายละเอียดของงานได้จากเว็บไซต์

http://www.chinaexhibition.com/Official_Site/11-5432-HKTDC_Education_and_Careers_Expo_2015.html

 

**********************************************

 

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

http://www.hktdc.com/fair/hkeducationexpo-en/s/7233-For_Press/HKTDC-Education-and-Careers-Expo/HKTDCEducationCareersExpoOpensFairFeaturesMoreThan760ExhibitorsOver120Events.html#sthash.csPVIQi9.dpuf

 

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน