Form E ใบเบิกทางการค้าพลังงานระหว่างกว่างซี(จีน)-อาเซียน
5 Nov 2013เว็บไซต์ข่าวกว่างซี : กว่างซีและเวียดนามเปิดหน้าประวัติศาสตร์การใช้สิทธิประโยชน์จากหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดจีน-อาเซียน เพื่อการค้า “กระแสไฟฟ้า” ระหว่างกันเป็นครั้งแรก
การไฟฟ้ากว่างซี (Guangxi Power Grid, 广西电网公司) เป็นบริษัทผู้ประสบความสำเร็จในการใช้สิทธิประโยชน์ภาษี “ศูนย์” ภายใต้กรอบข้อตกลงเขตการค้าเสรีจีน-อาเซียน (หนังสือ Form E) เพื่อการส่งออกกระแสไฟฟ้าไปยังประเทศเวียดนาม
หนังสือรับรองฯ ฉบับนี้นับเป็นหนังสือรับรองฉบับแรกของจีนที่ออกเพื่อใช้สิทธิภาษี “ศูนย์” สำหรับการค้าพลังงานไฟฟ้ากับอาเซียน
ประเด็นดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า สิทธิประโยชน์ทางภาษีภายใต้กรอบ FTA ระหว่างจีน-อาเซียนได้เริ่มพัฒนาจากกลุ่มสินค้าที่จับต้องได้ (สินค้าทั่วไป) ไปสู่กลุ่มสินค้าที่จับต้องไม่ได้แล้ว (พลังงานไฟฟ้า)
ตามรายงาน บริษัท Guangxi Power Grid จะส่งออกกระแสไฟฟ้าผ่านอำเภอระดับเมืองตงซิง (Dongxing City, 东兴市) ข้ามไปยังอำเภอ Mong Cai ในจังหวัด Quang Ninh ของประเทศเวียดนาม 5.625 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมง คิดเป็นมูลค่า 342,025 ดอลลาร์สหรัฐ (โดยปกติ เวียดนามจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 1 สำหรับกระแสไฟฟ้าจากต่างประเทศ)
เจ้าหน้าที่บริษัท Guangxi Power Grid ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบัน กว่างซีได้สร้างสายส่งกระแสไฟฟ้าไปยังเวียดนามเแล้ว ประกอบด้วยสายส่งขนาด 110 กิโลวัตต์ 4 เส้น และสายส่งขนาด220 กิโลวัตต์ 3 เส้น
ขณะนี้อยู่ระหว่างการผลักดันโครงการโครงข่ายกระแสไฟฟ้าขนาด 500 กิโลวัตต์ระหว่างจีน-เวียดนามและการเชื่อมโยงสายส่งกระแสไฟฟ้าในประเทศไทย-ลาว-พม่า
BIC ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า FORM E หรือ หนังสือรับรองถิ่นกำเนิด ประเภท อี ออกเพื่อรับรองว่าสินค้านั้นมีกำเนิดหรือผ่านกระบวนการผลิตในประเทศของตน ระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียนและจีนเท่านั้น
FORM E ใช้เพื่อขอสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากรในการนำเข้าสินค้า ซึ่งขึ้นอยูกับข้อตกลงที่ได้ทำกันไว้โดยใช้พิกัดอัตราศุลกากร หรือ "HS CODE" เป็นตัวกำหนดเพดานภาษี ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่จะได้สิทธิประโยชน์ภาษีนำเข้ากลายเป็น “ศูนย์” แล้ว
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการไทยสามารถขอออก Form E ได้ที่กรมการค้าต่างประเทศ (สำนักบริการการค้า) กระทรวงพาณิชย์ และสำหรับผู้ประกอบการจีน มี “สำนักงานควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรคประจำท้องถิ่น” (Entry-Exit Inspection and Quarantine Bureau, 检验检疫管理局) หรือ CIQ เป็นหน่วยงานผู้รับผิดชอบ