Daylong Winery วิสาหกิจร่วมทุนไทยขยายการลงทุน เตรียมทุ่มอีกพันล้านหยวนสร้างไร่องุ่นเพิ่มในหนิงเซี่ย
30 Aug 2013
- Daylong Winery วิสาหกิจไทยเจ้าแรกที่เข้าทำธุรกิจการผลิตไวน์ในหนิงเซี่ย โดยเริ่มทดลองปลูกองุ่นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2008
- รัฐบาลหนิงเซี่ยวางเป้าหมายให้ไวน์ที่ผลิตในหนิงเซี่ยสามารถ “ก้าวออกไป” จำหน่ายยังต่างประเทศ ทัดเทียมกับไวน์ที่ผลิตจากประเทศในแถบยุโรป
รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ไชน่าเดลี่ นครหยินชวนเมืองเอกของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยเตรียมพร้อมสำหรับการเป็นฐานการผลิตไวน์จากองุ่นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน โดยการสนับสนุนและผลักดันจากรัฐบาลให้สินค้าไวน์จากหนิงเซี่ยเป็นสินค้าหรูหราและส่งออกไปยังทั่วโลก
มาตรการของหนิงเซี่ยในการผลักดันตลาดไวน์
การบุกตลาดไวน์ทั่วโลกของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยถือเป็นแผนงานสร้างมูลค่าให้แก่สินค้า made in ningxia ให้เป็นที่ยอมรับจากต่างประเทศ การนำเอาศักยภาพและปัจจัยส่งเสริมต่างๆในหนิงเซี่ยได้แก่ สภาพอากาศและสภาพดินที่เหมาะสมแก่การปลูกองุ่น รวมไปถึงมาตรการอื่นๆอาทิ
1)เร่งผลักดันมาตรการและนโยบายเพื่อส่งเสริมอาชีพการปลูกและพัฒนาสายพันธุ์องุ่นทำไวน์
2)การวิจัยซึ่งที่ผ่านมาเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยตั้งศูนย์การวิจัยองุ่นและไวน์ขึ้นเพื่อทำการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์องุ่นและการร่วมมือกับหน่วยงานผู้เชี่ยวชาญทางด้านไวน์จากประเทศที่มีชื่อเสียง อาทิ ฝรั่งเศส อิตาลีเป็นต้น
3)การสนับสนุนจากกระทรวงเกษตรแห่งชาติในการให้การสนับสนุน “แผนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมและวัฒนธรรมองุ่นตงลู่เขาเฮ่อหลาน (เป็นเทือกเขาที่มีชื่อด้านการเพาะปลูกไวน์ของหนิงเซี่ย” ทำให้ไวน์ที่ผลิตจากหนิงเซี่ยเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและรวดเร็ว
นอกจากนี้รัฐบาลเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยยังได้วางแผนการพัฒนาอุตสาหกรรมไวน์ด้วยการพัฒนาพื้นที่สำหรับการสร้างห้องใต้ดินคุณภาพสูง 10 แห่ง รวมไปถึงการสร้างพื้นที่การทดลองที่มีลักษณพคล้ายคลึงกับพิพิธภัณฑ์ไวน์นานาชาติ พร้อมทั้งนโยบายการสนับสนุนต่างๆ
ขนาดพื้นที่ของอุตสาหกรรมไวน์ในหนิงเซี่ยและการลงทุนจากต่างประเทศ
ปัจจุบัน มีวิสาหกิจผู้ผลิตไวน์ทั้งสิ้น 77 รายที่มีกำลังการผลิตราว 179,000 ตัน ซึ่งได้เร่งการพัฒนาในส่วนของขั้นตอนการหมัก,การจัดเก็บรวมไปถึงขั้นตอนการบรรจุขวด อุตสาหกรรมการผลิตไวน์ของเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยได้ถูกยกให้เป็น 1 ใน 6 อุตสาหกรรมหลักของหนิงเซี่ย ทั้งนี้เนื่องมาจากรัฐบาลเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยได้เดินหน้าผลักดันแผนพัฒนา “แผนยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมและวัฒนธรรมองุ่นตงลู่เขาเฮ่อหลาน” ซึ่งสามารถขยายพื้นที่ปลูกองุ่นในปีพ.ศ.2554 ได้แล้วกว่า 270,820 ไร่ และคาดการณ์ว่าจะสามารถขยายพื้นที่ปลูกองุ่นได้ถึง 667,000 ไร่ ในปีพ.ศ. 2563 (หรือให้ได้ 2.5 เท่าภายใน 9 ปี)
ในส่วนของการลงทุนจากต่างชาติ ปัจจุบันการลงทุนในด้านอุตสาหกรรมการผลิตไวน์มีวิสาหกิจต่างชาติหลายแห่งอาทิ Moet Hennessy, Grand Moueys เข้าลงทุนในพื้นที่
Ningxia Daylong Winery วิสาหกิจร่วมทุนไทย
Ningxia Daylong Winery อยู่ภายใต้การดูแลของ Daysun Group ในกรุงเทพมหานคร การขยายการลงทุนในครั้งนี้มีนายเฉิน เต๋อฉี ประธานกรรมการ Daysun Group ให้รายละเอียดว่า “ภายหลังจากการเข้าลงทุนครั้งแรกเมื่อปี 2008 ด้วยเงินลงทุนกว่า 600 ล้านหยวนในการสร้างอาณาจักรไวน์ครบวงจร โดยเรามั่นใจถึงศักยภาพและทิศทางของอุตสาหกรรมการผลิตไวน์หนิงเซี่ยว่าได้รับการตอบรับที่ค่อนข้างดี เราจึงวางแผนที่จะขยายการลงทุนเพิ่มอีกจำนวน 1,000 ล้านหยวนในการก่อสร้างพื้นที่พร้อมทั้งวางระบบการขนส่ง เครื่องมือแนวกั้นป่าและอุปกรณ์อื่นๆรวมไปถึงไร่องุ่นแห่งใหม่ขนาดประมาณ 6,600 เฮกตาร์(41,250 ไร่) โดยใช้ระยะเวลาทั้งสิ้นภายใน 6 ปี”
นอกจากนี้นายเฉิน ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน Ningxia Daylong Winery สร้างห้องใต้ดินสำหรับการบ่มไวน์โยมีขนาดลึก 5 เมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 5,200 ตร.ม.และสามารถบรรจุถังโอ๊คบ่มไวน์ได้กว่า 700 ถัง และด้วยสภาพอากาศที่ใกล้กับเทือกเขาเฮ่อหลานทำให้มีอุณหภูมิเหมาะสมคล้ายคลึงกับเมืองโบด๊อกซ์ ประเทศฝรั่งเศส ทำให้ไวน์ท้องถิ่นของจีนที่ผลิตจากหนิงเซี่ยมีรสชาติและมีคุณภาพคล้ายคลึงกับไวน์จากฝรั่งเศส
ข้อมูลอ้างอิง
1.Yinchuan destined to be China’s wine capital
ข้อมูลเพิ่มเติม
1. “ไวน์หนิงเซี่ย” กับการก้าวสู่ตลาด luxury ระดับสากล
2. ไปได้สวย!! ไวน์หนิงเซี่ยอนาคตไกลเตรียมบุกตลาดทั่วโลก
3. Ningxia Daylong Winery บริษัทร่วมทุนไทย-มาเก๊าบุกตลาดหนิงเซี่ย