5 กุญแจแห่งความสำเร็จของธุรกิจไทยในตลาดจีนยุคใหม่

3 Apr 2017

ณ นาทีนี้ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า "จีน" ยังคงเป็นตลาดที่เนื้อหอมอย่างต่อเนื่องสำหรับการทำธุรกิจ เนื่องจากจำนวนประชากรที่มีมากกว่า 1.3 พันล้าน กับพลังของการบริโภคที่มีมหาศาล การค้าในจีนมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาจากการทำการค้าแบบดั้งเดิมที่เรียกว่าการค้าแบบออฟไลน์ (Offline) จนปัจจุบันการค้าของจีนพัฒนาและก้าวหน้าไปสู่การค้าแบบออนไลน์ (Online) ซึ่งส่งผลกระทบต่อรูปแบบการทำการตลาดของสินค้าในจีนเป็นอย่างมาก ธุรกิจต่าง ๆ ที่อยู่ในจีนต่างปรับตัวเพื่อให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและรูปแบบทางการตลาดที่ไม่อยุดนิ่ง เพื่อความอยู่รอดและความสำเร็จของธุรกิจในจีน

 ผู้ประกอบการที่ต้องการจะเข้ามาทำธุรกิจในตลาดจีน จะต้องพิจารณา 5 กุญแจสำคัญที่จะสามารถช่วยไขประตูสู่ความสำเร็จในตลาดอันหอมหวน ดังนี้

1.   คิดแบบดิจิตอล

ปัจจุบันกลุ่มนักธุรกิจและผู้ประกอบการชาวจีนต่างพากันลดสัดส่วนการทำการตลาดในสื่อโทรทัศน์อย่างต่อเนื่อง และกลับไปเพิ่มสัดส่วนการทำการตลาดในสื่อดิจิตลอลมากขึ้น เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากผลการสำรวจของ McKinsey บริษัทที่ปรึกษาและการจัดการทางธุรกิจสัญชาติอเมริกันเผยว่า ชาวจีนใช้เวลาไปกับการท่องโลกอินเตอร์เน็ตกว่าร้อยละ 70 ของเวลาทั้งหมดในแต่ละวัน  นอกจากนี้ eMarketer บริษัทสำรวจและวิจัยการตลาดคาดการณ์ว่า ตัวเลขของมูลค่าการทำการตลาดผ่านสื่อโทรทัศน์ระหว่างปี 2559 ถึง ปี 2561 มีแนวโน้มหดตัวลงจาก 1.892 หมื่นล้านเหรียญดอลลาห์สหรัฐเหลือ 1.813 หมื่นล้านเหรียญดอลลาห์สหรัฐ ในขณะที่มูลค่าการตลาดในสื่อดิจิตอลมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นจาก 1.042 หมื่นล้านเหรียญดอลลาห์สหรัฐ เป็น 6.214 หมื่นล้านเหรียญดอลลาห์สหรัฐ ในช่วงปีเดียวกัน

หากสังเกตพฤติกรรมผู้บริโภคชาวจีนในปัจจุบันแล้ว ผู้ประกอบการไทยที่จะนำสินค้าหรือบริการเข้ามาในตลาดจีน ควรมีแผนการตลาดที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อที่จะปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาด สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น แน่นอนว่าการตลาดในสื่อดิจิตอลหรือสื่อออนไลน์ จะเป็นหนึ่งในกุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้สินค้าของท่านเป็นที่รู้จักและนิยมในจีนมากขึ้นอย่างแน่นอน

2.   เน้นโทรศัพท์มือถือ

โทรศัพท์มือถือกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิตของผู้คนทั่วโลก รวมถึงชาวจีน ประเทศซึ่งมีผู้ใช้อินเตอร์เน็ตมากที่สุดในโลก โทรศัพท์มือถือได้แทรกซึมไปสู่ทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันของชาวจีน ไม่ว่าจะเพื่อการติดต่อสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดีย เสพข่าวสารและความบันเทิง รวมถึงการจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการ ซึ่งปัจจุบันคนจีนใช้มือถือท่องโลกอินเตอร์เน็ตวันละ 4.7 ชั่วโมงต่อวัน นายแดเนียล จาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทอาลีบาบาฯ เผยว่า ชาวจีนใช้เปิดงานเอปพลิเคชั่น Taobao บนมือถือ เฉลี่ยวันละ 20 นาที เพื่อเลือกซื้อสินค้าและบริการ ในขณะที่ผู้ใช้แอปพลิเคชั่นเอมะซอนบนมือถือเพื่อเลือกซื้อสินค้าและบริการ ใช้เวลาเฉลี่ยเพียงวันละ 8.9 นาทีเท่านั้น

เหตุผลด้านพฤติกรรมการใช้งานนี่เอง ที่ผู้ประกอบไทยจำเป็นต้องตระหนักและพัฒนารูปแบบการตลาดหรือลูกเล่นที่เหมาะสมสำหรับแสดงผลบนมือถือของลูกค้าชาวจีน เพื่อตอบโจทย์และเข้าถึงชาวจีนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งการลงทุนด้านการตลาดในสื่อออนไลน์อาจจะได้รับประสิทธิผลที่สูงกว่าการตลาดรูปแบบเดิมได้อย่างแน่นอน

3.   คำนึงถึงแพลตฟอร์มที่เหมาะสม

การทำการตลาดในสื่อดิจิตอลของจีนจะส่งผลในวงกว้างขึ้น หากผู้ประกอบการเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสม ปัจจุบันเว็บไซต์หรือกิจกรรมทางดิจิตอลต่าง ๆ ของจีนต่างก็พัฒนาตัวเองให้กลายเป็นแพล็ตฟอร์มที่มีการบริการหลากหลาย อาทิ แอปพลิเคชั่นเกมส์ เว็บไซต์วีดีโอสตรีมมิ่ง หรือแม้แต้เว็บไซต์อีคอมเมิร์ส ผู้ให้บริการเหล่านี้ต่างบูรณาการตัวเอง ด้วยการให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น มิได้เน้นการบริการเพียงด้านเดียวเช่นในอดีตอีกต่อไป

ยกตัวอย่างเว็บไซต์วีดีโอสตรีมมิ่ง www.youku.com ที่บริษัทอาลีบาบาฯ เข้าซื้อหุ้นในปี 2557 ได้พัฒนาเว็บไซต์ของตนเองให้กลายเป็นช่องทางสื่อบันเทิงและวัฒนธรรมที่ให้บริการหลากหลายมากขึ้น เป็นช่องทางของผู้ประกอบการที่สามารถใช้สื่อสารกับกลุ่มลูกค้าได้โดยตรงผ่านวีดีโอคอนเท็นต่าง ๆ  รวมถึงวีดีโอไลฟ์สตรีมมิ่ง

การทำการตลาดในสื่อดิจอตอลในจีน ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่การทำโฆษณาเพื่อแปะไว้บนเว็บไซต์ต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงการกำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในอินเตอร์เน็ตผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยม เพื่อส่งสารและสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าหรือผู้บริโภคทั่วไป ให้หันมาสนใจและรู้จักสินค้าของท่านมากขึ้น

4.   อิงข้อมูล

ในยุคที่ข้อมูลกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของการทำธุรกิจ ปัจจุบันการทำการตลาดในจีนได้หันมาอ้างอิง Big Data (ข้อมูลขนาดใหญ่) มากขึ้น เพื่อการทำการตลาดที่สามารถเจาะถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด ปัจจุบันเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มการบริการต่าง ๆ ของจีน ก็หันมาเก็บ Big data เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ทางการค้าและการตลาดมากยิ่งขึ้น

บริษัทอาลีบาบา เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการที่อยู่ในแพลตฟอร์มของตนเอง สามารถติดต่อและสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง เพื่อเก็บข้อมูลจากพฤติกรรมต่าง ๆ ของลูกค้า อาทิ รูปแบบการชำระเงิน พฤติกรรมการซื้อสินค้า หรือแม้กระทั้งการค้นหาสินค้าในเว็บไซต์ มารวบรวมและนำมาใช้ประโยชน์ทางการตลาด หรือค่ายมือถืออย่าง China Unicom เก็บข้อมูลการใช้งานและความถี่ในการใช้บริการในจุดต่าง ๆ ของเมือง มาเป็นประโยชน์ในการทำโฆษณา เป็นต้น

ดังนั้นการทำการตลาดที่อ้างอิง Big data ในจีน จะสามารถนำข้อมูลด้านพฤติกรรมต่าง ๆ ของผู้บริโภคมาปรับใช้ กับกลยุทธ์ทางการตลาด โดยผู้ประกอบการจะสามารถสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่มและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ปัจจุบันการซื้อขายข้อมูล Big data ในจีนมีความแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการสามารถพิจารณารูปแบบข้อมูลที่เหมาะสมกับสินค้าของท่านเองได้  

5.   คิดเร็ว

ธุรกิจต่าง ๆ ในจีน สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วข้ามคืน ไม่ว่าจะเป็นเพราะเทรนความนิยมของผู้บริโภคหรือแม้แต่การเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายของรัฐบาล ดังนั้นผู้ประกอบการที่ตั้งใจจะเข้ามาทำธุรกิจใจจีน จำเป็นต้องมีไหวพริบและ

พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ

ยกตัวอย่างในปี 2559 เมื่อไลฟ์สตรีมวีดีโอ (Livestrem Video) ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เหล่าแบรนต่าง ๆ ก็หันมาทำช่องไลฟ์สตรีมเพื่อโปรโมทและทำ PR แบรนด์ของตัวเอง รวมถึงจ้างเหล่าดารา เซแลป ให้มาไลฟ์ตรีมกับแฟน ๆ ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ซึ่งผู้ประกอบการไทยสามารถศึกษาข้อมูลเหล่านี้ เพื่อนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ต่อสินค้าของท่านได้

 

ดังนั้นในยุคที่ความเป็นดิจิตอลเข้ามามีบทบาทสำคัญในเชิงธุรกิจของจีน ผู้ประกอบการไทยควรเตรียมตัวและปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในตลาดที่หอมหวนแต่มีการแข่งขันที่รุนแรงบ้าคลั่งของจีน เนื่องจากจีนมีกลุ่มผู้บริโภคที่มีศักยภาพที่สุดกลุ่มหนึ่งของโลก ผู้ประกอบการจากทั่วโลกล้วนแล้วแต่ต้องการที่จะได้รับชัยชนะในตลาดแห่งนี้ทั้งสิ้น หากผู้ประกอบการปราศจากความเข้าใจตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภค รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเทรนความนิยมของผู้บริโภคที่ไม่เคยอยุดนิ่งแล้ว การดำรงอยู่ของธุรกิจและสินค้าของท่านก็ตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก

หากผู้ประกอบไทยสามารถการศึกษาพฤติกรรมของผู้บริโภคชาวจีนอย่างลึกซึ่งและติดตามรูปแบบทางการตลาดของจีนอย่างใกล้ชิด ได้จากศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ผ่านทางเว็บไซต์ www.wordpress-348433-3180049.cloudwaysapps.com หรือติดตามผ่านทางเฟสบุคแฟนเพจ www.facebook.com/thaibizchina

ข้อมูลเพิ่มเติม

สมาคมสื่ออินเตอร์เน็ตเมืองเซินเจิ้นร่วมกับศูนย์ข้อมูลอินเตอร์เน็ตจีน ประกาศรายงานสถานการณ์ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในเซินเจิ้นประจำปี
2558 พบว่า ชาวเซินเจิ้นใช้เวลาท่องโลกอินเตอร์เน็ต เฉลี่ยสัปดาห์ละ 35.7 ชั่วโมง ยาวนานที่สุดในจีน  โดยเซินเจิ้นมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตกว่า 8.97 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 83.2 ของประชากรทั้งหมด ค่าเฉลี่ยของจำนวนผู้ใช้งาน มากกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศร้อยละ 30 

การตลาดจีนจีนยุคใหม่ธุรกิจจีน

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน