โปรดทราบ CAEXPO ปีนี้ ย้ายเวลาเป็น 23-26 ก.ย.แล้ว
29 Mar 2013เว็บไซต์ข่าวกว่างซี : งานมหกรรมแสดงสินค้าจีน-อาเซียน (CAEXPO) ครั้งที่ 10 เลื่อนเวลาจัดเป็น วันที่ 23-26 กันยายนศกนี้ ที่ประชุมเจ้าหน้าที่ประสานงาน CAEXPO ชาติสมาชิกจีน+อาเซียนมีมติ
ในปีนี้ CAEXPO มีจุดเน้น (Theme) หลัก คือ “การพัฒนาความร่วมมือระดับภูมิภาค – โอกาสใหม่ แรงขับเคลื่อนใหม่ เวทีใหม่” (Regional Cooperation and Development: New Opportunities, New Driving Forces, and New Stage, 区域合作发展——新机遇、新动力、新阶段)
ตามรายงาน เจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมประชุมมีมติร่วมกันในเรื่องการปรับปรุงรายละเอียดการจัด CAEXPO ในปีนี้ อาทิ
(1) ประเภทสินค้า ให้ชาติสมาชิกอาเซียนนำผลิตภัณฑ์ที่มีจุดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของตนเองเข้าร่วมจัดแสดงมากยิ่งขึ้น
(2) ประเภทวิสาหกิจ ให้ชาติสมาชิกนำผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ และมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
(3) สำหรับฝ่ายจีน จะเน้นในส่วนของการจัดแสดงผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่ และอุปกรณ์เครื่องจักรด้านโลจิสติกส์สำหรับท่าเรือ และเพิ่มในส่วนของอุปกรณ์เครื่องจักรทางการเกษตร
(4) เพิ่มกิจกรรม “วิสาหกิจกว่างซีรู้จักอาเซียน” เพื่อแนะนำโอกาสและส่งเสริมการลงทุนในประเทศสมาชิกอาเซียนให้กับวิสากิจกว่างซีที่มีศักยภาพหรือมีเป้าหมายที่จะออกไปลงทุน
(5) เพิ่มกิจกรรมส่งเสริมเศรษฐกิจการค้า เพื่อต้อนรับแผนการเจรจาจัดทำความตกลง “RCEP” หรือความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership) ซึ่งเป็น FTA ระหว่างอาเซียน กับประเทศคู่เจรจาทั้ง 6 ประเทศ (ASEAN 10+ 6) ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย
(6) ประเทศเกียรติยศ ปีนี้ (Country of Honor) คือ ฟิลิปปินส์
ขณะที่รูปแบบการจัดงานฯ ยังคงแบ่งออกเป็น 5 โซนเช่นเดียวกับปีที่แล้ว ได้แก่ โซนการค้าสินค้า โซนความร่วมมือด้านการลงทุน โซนการค้าภาคการบริการ โซนเทคโนโลยีทันสมัย และโซนเมืองแห่งมนต์เสน่ห์ (ประเทศไทยได้ห้องจัดงานหมายเลข 8)
กิจกรรมย่อยภายในงานฯ จะเน้นด้านภาคเกษตรกรรม การเงิน การเคลื่อนย้ายเทคโนโลยี การรักษาสิ่งแวดล้อม ระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน โลจิสติกส์ กีฬา ความปลอดภัยด้านอาหารและยา สื่อมวลชน สำนักพิพม์ แพทย์สมุนไพรจีนโบราณ และการศึกษาสายอาชีพ
ข้อมูลเพิ่มเติม
RCEP จะเป็นความตกลงแบบองค์รวม (Comprehensive Agreement) ที่มีมาตรฐานสูง ประกอบไปด้วยความร่วมมือทั้งเชิงลึกและเชิงกว้างกับประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในภูมิภาค และเป็น flagship สำคัญของอาเซียนในการมีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียและของโลก ส่งผลให้เกิดประโยชน์กับไทยและอาเซียนอย่างมาก เนื่องจากจะเป็นตลาดกว่า 3,300 ล้านคน หรือครึ่งหนึ่งของประชากรโลก มี GPD รวมกันกว่า 17,100 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 27% ของ GDP โลก หรืออาจเรียกได้ว่า RCEP จะเป็น FTA ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดฉบับหนึ่งของโลก โดยมีไทยและอาเซียนเป็นสมาชิกสำคัญ (http://www.dtn.go.th)