เมื่อจีนกลายเป็น “ศูนย์กลางความต้องการพลาสติก” รายใหญ่.. แล้วธุรกิจไทยจะได้รับโอกาสอะไรบ้าง?

4 Sep 2013

เป็นที่ทราบกันดีว่า ความสามารถในการผลิตพลาสติกของจีนยังไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ จึงทำให้ในขณะนี้จีนยังจำเป็นจะต้องนำเข้าพลาสติกจากนานาประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยด้วย

  

ที่มาภาพ :
health.yahoo.net

นำเข้ามหาศาล.. เติมเต็มความต้องการในประเทศ

ตัวเลขสถิติจากเว็บไซต์ข้อมูลศุลกากรจีน www.haiguan.info ระบุว่า ตลอดทั้งปี 2555 และช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ จีนนำเข้าพลาสติก/ผลิตภัณฑ์พลาสติก (พิกัดศุลกากร 39) จากทั่วโลกรวม 34.24 ล้านตัน และ 29.95 ล้านตัน ตามลำดับ

ขณะเดียวกัน จากข้อมูลในงานสัมมนา Cap and Closure ของบริษัท PTT Polymer Marketing (PTTPM) ประจำนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2556 พบว่า ปริมาณความต้องการพอลิเอทิลีน (Polyethylene : PE) ภายในตลาดจีน และปริมาณการนำเข้าพอลิเอทิลีน

ความหนาแน่นสูง (High Density Polyethylene : HDEP) ของจีนในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 13 และร้อยละ 20 ตามลำดับ

นอกจากนี้ ข้อมูลในที่ประชุมอุตสาหกรรมปิโตรเลียมแห่งเอเชียประจำปี 2556 เมื่อช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาระบุว่า ในอนาคตจีนจะกลายเป็น “ศูนย์กลางความต้องการพลาสติกรายใหญ่ของโลก” โดยในช่วงปี 2556 – 2560 ร้อยละ 67 ของปริมาณความต้องการ Light Olefins (ประกอบด้วยเอทิลีนและโพรพิลีน) ที่เพิ่มขึ้นนั้นมาจากทวีปเอเชีย โดยในจำนวนนี้แบ่งเป็นปริมาณความต้องการของประเทศจีนถึงร้อยละ 47 ทั้งนี้ ความต้องการเอทิลีนของจีนจะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ประมาณ 33 ล้านตันในปี 2555 เป็นจำนวน 44 ล้านตันในปี 2560 ซึ่งในจำนวนดังกล่าวจีนยังจำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศอยู่อีกประมาณ 15 – 16 ล้านตัน

โอกาสธุรกิจไทยยังมี.. พลาสติกคุณภาพดีจีนยังต้องการ

จากข้อมูลข้างต้นสะท้อนให้เห็นว่า จีนมีความต้องการใช้พลาสติกค่อนข้างมาก ขณะที่ความสามารถในการผลิตภายในประเทศยังไม่เพียงพอ จึงทำให้ต้องมีการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยจากสถิติของ World Trade Atlas พบว่า พลาสติกเป็นสินค้าสำคัญอันดับ 4 ที่ไทยส่งออกไปจีน และจีนนำเข้าพลาสติกจากไทยมากเป็นอันดับที่ 6 รองจากเกาหลีใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และซาอุดิอาระเบีย

  ที่มาภาพ : www.kjplastics.net

จากการหารือกับผู้บริหารของบริษัท PTT Polymer Marketing (PTTPM) ประจำนครเซี่ยงไฮ้พบว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไทยส่งออกเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงเข้าสู่ตลาดจีนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัท PTTPM ยังคงครองสัดส่วนตลาดของสินค้าดังกล่าวในจีน อย่างไรก็ดี จีนเริ่มยอมรับพลาสติกคุณภาพต่ำที่นำเข้าจากกลุ่มประเทศตะวันออกกลางมากขึ้นกว่าเดิม อาทิ ซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน และกาตาร์ ซึ่งมีแนวโน้มจะกลายเป็นประเทศคู่แข่งกับไทยในอนาคต แทนที่คู่แข่งเดิมอย่างประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และไต้หวัน ที่ได้มีการย้ายฐานการส่งออกไปยังตลาดอื่น โดยเฉพาะเกาหลีใต้ (ส่งออกพลาสติกเข้าตลาดจีนมากที่สุด) ที่เริ่มมุ่งไปยังตลาดยุโรป เนื่องจากมีความตกลง FTA ในสินค้าพลาสติกระหว่างกัน

ทั้งนี้ แม้ว่าข้อมูลจากงานสัมมนาของบริษัท PTTPM จะชี้ว่า อุปทานพลาสติกในตลาดจีนยังไม่เพียงพอกับอุปสงค์ รวมถึงข้อมูลสถิติที่ผ่านมาจะชี้ว่า จีนมีการนำเข้าพลาสติกจากต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง แต่ในสถานการณ์ที่รัฐบาลจีนชุดใหม่อยู่ระหว่างการปฏิรูประบบเศรษฐกิจจีน (อาจไม่ได้ทำให้เศรษฐกิจจีนโตแบบก้าวกระโดดเหมือนในช่วงหลายปีก่อนหน้านี้) อาจส่งผลกระทบให้การนำเข้าพลาสติกสู่ตลาดจีนชะลอตัวลงระยะหนึ่ง

อย่างไรก็ดี จากการที่รัฐบาลจีนมีนโยบายมุ่งเน้นความปลอดภัยของอาหาร ซึ่งมีผลต่อบรรจุภัณฑ์อาหารที่เป็นพลาสติกด้วย ดังนั้น จึงน่าจะส่งผลให้วัตถุดิบผลิตพลาสติกคุณภาพสูงยังมีโอกาสทางธุรกิจในตลาดจีน

หมายเหตุ : พอลิเอทิลีน (Polyethylene – PE) เป็นสารที่ข้นขาวโปร่งแสงซึ่งได้จากเอทิลีน (CH2=CH2) โดยพอลิเอทิลีนมีการผลิตขึ้นทั้งในรูปที่มีความหนาแน่นต่ำ (LDPE) ความหนาแน่นกลาง (MDPE) และความหนาแน่นสูง (HDPE)

————————————-

จัดทำโดย นายโอภาส เหลืองดาวเรือง ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครเซี่ยงไฮ้

ข้อมูลอ้างอิง : 1)
www.sobonpipe.com หัวข้อ “中国成为全球塑料需求增长中心”

                   2) การเข้าร่วมงานสัมมนา Cap and Closure ของบริษัท PTTPM ประจำนครเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 2556

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน