เมืองชิงเต่าขออนุญาตก่อเตรียมจัดตั้งเขตการค้าเสรีจีน – ญี่ปุ่น – เกาหลีใต้
11 Oct 2013หลังจากเซี่ยงไฮ้ได้ก่อตั้งเขตการค้าเสรีขึ้นอย่างเป็นทางการ เมืองชิงเต่า มณฑลซานตงกำลังเร่งมือขออนุญาตก่อตั้งเขตการค้าเสรี โดยจะพยายามขออนุญาตจัดตั้งในรูปแบบของเขตทดลองปฏิรูปการลงทุนและเขตทดลองการค้าที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจและเทคโนโลยีชิงเต่า และเขตสินค้าทัณฑ์บนเฉียนวานก่างชิงเต่า
ซึ่งจะแตกต่างกับเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นจุดทดลองเปิดกว้างการค้าระหว่างประเทศก่อนที่จะขยายไปทั่วประเทศ ชิงเต่าจะเน้นก่อตั้งเป็นเขตการค้าเสรีจีน – ญี่ปุ่น – เกาหลีใต้
จริง ๆ แล้ว รัฐบาลซานตงได้ยื่นขออนุญาตก่อตั้งเขตการค้าเสรีที่เมืองชิงเต่าต่อคณะนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 56 ต่อจากนั้นคณะนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการต่อ จนเมื่อวันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมา นายหวัง ชาว ผู้ช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เดินทางสำรวจที่เมืองชิงเต่า เพื่อรับฟังรายงานจากรัฐบาลท้องถิ่น ซึ่งในการสำรวจครั้งนี้ นายหวัง ชาวยังได้ให้ข้อเสนอแนะในการดำเนินงานการขออนุญาตฯ อีกด้วย
ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญจีนที่เคยร่วมการสำรวจเงื่อนไขจัดตั้งเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ให้ความเห็นว่า ภายหลังจากที่รัฐบาลได้อนุมัติให้ก่อตั้งเขตการค้าเสรีที่เซี่ยงไฮ้ รัฐบาลไม่ควรอนุมัติให้จัดตั้งเขตการค้าเสรีใหม่อื่นๆ ภายใน 3 – 5 ปีข้างหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายเมืองที่วางแผนจะขออนุญาตก่อตั้งเขตการค้าเสรีเพิ่มขึ้นอีก
นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อตั้งเขตการค้าเสรีจีนชี้ว่า การก่อตั้งเขตการค้าเสรีจีน – ญี่ปุ่น – เกาหลียังอยู่ระหว่างการเจรจา เมืองที่ได้รับคัดเลือกจัดตั้งเขตการค้าเสรีจะได้รับผลประโยชน์ในด้านโครงการลงทุนและสามารถขยายการเติบโตของยอดการค้า ซึ่งเมืองต้าเหลียนและเมืองชิงเต่ามีโอกาสได้รับการพิจารณา
นายหลิว เหวินเจียน อธิบดีของกรมพาณิชย์เมืองชิงเต่ากล่าวว่า เมืองชิงเต่ามีข้อได้เปรียบในการขออนุญาตก่อตั้งเขตการค้าเสรีจีน – ญี่ปุ่น – เกาหลีใต้อย่างมาก ซึ่งนอกจากมีข้อได้เปรียบในสถานที่ตั้งแล้ว เมืองชิงต่าวยังเป็นเมืองที่ได้รับความนิยมของนักลงทุนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ โดยสถิติชี้ว่า จนถึงปี 2555 เกาหลีใต้และญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีมูลค่าการลงทุนมากเป็นอันดับ 1 และอันดับ 3 ของเมืองชิงเต่าตามลำดับ และยังเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 3 และอันดับ 2 ของชิงเต่าอีกด้วย
เมื่อ 4- 5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเมืองชิงเต่ามีความร่วมมือกับไทยในด้านเศรษฐกิจการค้ การท่องเที่ยว และวัฒนธรรม ฯลฯ อย่างลึกซึ้งมากขึ้น ไทยได้เห็นถึงศักยภาพการพัฒนาเศรษฐกิจในอนาคตของชิงเต่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิงเต่ามีความได้เปรียบในด้านท่าเรือ ยางพารา รถไฟความเร็วสูงและการคมนาคม เป็นต้น ล่าสุดกระทรวงการต่างประเทศไทยได้ตัดสินใจเปิดสถานกงสุลเพิ่มอีกแห่งหนึ่งที่เมืองชิงเต่า เพื่อเป็นการผลักดันความร่วมมือด้านต่าง ๆ ระหว่างไทยกับชิงเต่า และไทยกับมณฑลซานตง เพื่อส่งเสริมและรักษาผลประโยชน์ของคนไทยอีกด้วย