เกษตรฉงชิ่ง “ถ่ายเลือดใหม่” สานต่อนโยบายพัฒนาสู่ภาคเกษตรกรรมแบบยั่งยืน

21 May 2013

คณะกรรมการการเกษตร นครฉงชิ่ง เผยสถาบันจัดการเงินทุนเชิงพาณิชย์ในเมืองได้จับมือกับวิสาหกิจในท้องถิ่นกว่า 200 ราย ลงนามในสัญญาความร่วมมือโครงการพัฒนาภาคเกษตรกรรมในชนบท ตั้งเป้าเพิ่มศักยภาพทางการผลิตสินค้าเกษตรและยกระดับความสามารถของเกษตรกรให้แข่งขันในตลาดโลกได้     

 

โครงการดังกล่าวมาพร้อมกับเม็ดเงินการลงทุนประมาณ 6,340 ล้านหยวน ครอบคลุมทั้งสิ้น 27 โครงการ อาทิ พัฒนาแหล่งเพาะปลูก เน้นปลูกพืชในระบบเกษตรอินทรีย์ ปรับปรุงกรรมวิธีการแปรรูปสินค้าเกษตร และส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีในด้านการเพาะเลี้ยงสุกร ตลอดจนจัดหลักสูตรอบรมเกษตรกรในด้านต่างๆ และสร้างศูนย์โลจิสติกส์ระบบห่วงโซ่ความเย็นอย่างครบวงจรสำหรับสินค้าเกษตรในจีนตะวันตก





 

ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต


การเข้ามาให้การสนับสนุนของสถาบันเงินทุนฯ ในครั้งนี้ ไม่เพียงแค่ช่วยภาครัฐแบ่งเบาภาระในด้านงบประมาณการพัฒนาภาคการเกษตรในชนบท ทั้งยังเป็นการ ถ่ายเลือดใหม่ โดยการนำทฤษฎีและการบริหารจัดการที่ทันสมัยเข้ามาประยุกต์ดำเนินการเปลี่ยนแปลงระบบตั้งแต่แหล่งการผลิตต้นทางจนถึงมือผู้บริโภคปลายทาง


นายเซี่ย จู่เซี่ยง ผู้อำนวยการคณะกรรมการการเกษตร นครฉงชิ่ง กล่าวว่า หลายปีมานี้ ภาคเกษตรกรรมของนครฉงชิ่งได้กลายมาเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ทำรายได้ให้แก่ท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก และภาครัฐก็ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการกระจายเงินลงทุนจากเมืองเข้าสู่ชนบทในครั้งนี้ ถือเป็นการสานต่อนโยบายยกระดับภาคเกษตรกรรมของนครฉงชิ่งสู่การเป็นเกษตรกรรมแบบยั่งยืนในอนาคต

 

เกษตรอินทรีย์ คือ ระบบการผลิตที่คำนึงถึงสภาพแวดล้อมรักษาสมดุลของธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการใช้สารสังเคราะห์ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและฮอร์โมนต่าง ๆ เน้นการใช้อินทรีย์วัตถุ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด และ ปุ๋ยชีวภาพในการบำรุงให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพื่อให้ต้นพืชมีความแข็งแรงสามารถต้านทานโรคและแมลงด้วยตนเอง ทำให้ผลผลิตที่ได้จะปลอดภัยจากสารพิษตกค้าง ปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคและไม่ทำให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมอีกด้วย (ที่มา: กรมส่งเสริมการเกษตร)

 

สามารถสอบถามข้อมูลทั่วไปกับศูนย์ข้อมูลธุรกิจไทยในจีนได้โดยผ่านทางอีเมลล์ [email protected]

 

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน