เกษตรกรโวย กว่างซีดำเนินแผนลดราคารับซื้ออ้อย ลดต้นทุนการผลิตสู้น้ำตาลนำเข้า
19 Nov 2013สำนักข่าวซินหัว-เขตฯ กว่างซีจ้วง : พื้นที่ปลูกอ้อยทางตอนใต้ของประเทศจีนกำลังทยอยเข้าสู่ฤดูการเปิดหีบอ้อยประจำปี 2556/2557 โดยราคารับซื้ออ้อยปีนี้มีแนวโน้มลดลงอีกระลอก
เขตฯ กว่างซีจ้วง มณฑลยูนนาน มณฑลกวางตุ้ง และมณฑลไห่หนาน เป็นแหล่งปลูกอ้อยรายใหญ่ในพื้นที่จีนตอนใต้ โดยเฉพาะกว่างซีมีพื้นที่ปลูกอ้อยและมีกำลังการผลิตน้ำตาลมากที่สุดในประเทศจีน
เมื่อไม่นานมานี้ กว่างซีเพิ่งประกาศแผนราคารับซื้ออ้อย ประจำฤดูการผลิตปี 2556/2557 โดยมีการปรับลดราคารับซื้องวดแรกจากตันละ 475 หยวนเหลือตันละ 440 หยวน ซึ่งการปรับลดราคารับซื้ออ้อยในครั้งนี้ถือเป็นการปรับลดครั้งที่สองติดต่อกันจากฤดูการผลิตปีก่อน
ผู้ที่เกี่ยวข้อง เห็นว่า การปรับลดราคารับซื้อวัตถุดิบอ้อยเป็นการช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการผลิตน้ำตาล
นายหนง กวาง (Nong Guang, 农光) ประธานสมาคมธุรกิจน้ำตาลกว่างซี กล่าวว่า การปรับลดราคารับซื้ออ้อยในครั้งนี้ ช่วยให้ต้นทุนการผลิตน้ำตาลลดลงตันละประมาณ 280 หยวน
นักวิชาการ เห็นว่า การลดต้นทุนการผลิตน้ำตาลในประเทศส่งผลให้ส่วนต่างระหว่างราคาน้ำตาลในประเทศและต่างประเทศแคบลง และทำให้ส่วนต่างกำไรของการนำเข้าน้ำตาลจากต่างประเทศจึงถูกบีบให้แคบลงด้วยเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ดี การลดราคารับซื้ออ้อยได้สร้างผลกระทบโดยตรงต่อเกษตรกรชาวไร่อ้อย นายเหลียง เอิน (Liang En, 梁恩) ชาวไร่อ้อยในอำเภอฝูสุย (Fu Sui County, 扶绥县) ซึ่งเป็นแหล่งผลิตอ้อยรายใหญ่ของกว่างซี กล่าวเปิดใจว่า เกษตรกรรับราคารับซื้อที่ต้นละ 440 หยวนไม่ได้
ปัจจุบัน ต้นทุนของเกษตรกรมีการปรับเพิ่มขึ้่นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นราคาปุ๋ย ราคายาปราบศัตรูพืช โดยเฉพาะต้นทุนแรงงานตัดอ้อยมีการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเมื่อสองปีก่อนอยู่ที่ประมาณตันละ 100-120 หยวน พุ่งขึ้นเป็นตันละ 160 หยวนในปีนี้
“การปรับลดราคารับซื้อจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแรงจูงใจในการปลูกอ้อยของเกษตรกร ปีที่ผ่านมา มีเกษตรกรจำนวนไม่น้อยหันไปปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่น ๆ แทน” นายเหลียง ให้ข้อมูล
ผู้ประกอบการผลิตรายหนึ่ง เปิดเผยว่า นับตั้งแต่ฤดูการหีบอ้อยที่ผ่านมา พื้นที่อ้อยของตนเองลดลงอย่างเห็นได้
BIC ขอให้ข้อมูลว่า ประเทศจีนมีการกำหนดภาษีนำเข้าน้ำตาลไว้ 2 ประเภท คือ 1) การนำเข้าน้ำตาลในโควต้า ผู้นำเข้าต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 15 ขณะที่ 2) การนำเข้านอกโควต้านั้น ผู้นำเข้าจะต้องเสียภาษีนำเข้าในอัตราที่สูงถึงร้อยละ 50
ปัจจุบัน ประเทศจีนต้องประสบปัญหาการลักลอบนำเข้าน้ำตาลตามตะเข็บแนวชายแดน (เวียดนาม) เนื่องจากมีช่องทางที่สะดวก และต้นทุนต่ำ ซึ่งกระทบกับโครงสร้างอุตสาหกรรมน้ำตาลในกว่างซี(รวมทั้งประเทศ)ไม่น้อย
โดยเฉพาะในฤดูหีบอ้อยที่ผ่านมา ผู้ประกอบการผลิตน้ำตาลในประเทศส่วนใหญ่ต้องประสบผลขาดทุนหรือเท่าทุน ขณะที่ปัจจัยต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นทำให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยได้รับผลกระทบไม่น้อยเช่นกัน