อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เยือนหนิงเซี่ย กระชับความสัมพันธ์การค้าและการลงทุน

11 Dec 2013
  • การเข้าพบผู้นำหนิงเซี่ยในครั้งนี้ของนายบัลดาวี ได้หารือความร่วมมือระหว่าง Malaysia’s Rahim Group และมหาวิทยาลัยหนิงเซี่ย, ความร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่นนครอู๋จง โดยมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านการผลิตและแปรรูปอุตสาหกรรมฮาลาลแบบทวิภาคี
  • เร่งผลักดัน“สถาบันวิจัยอุตสาหกรรมฮาลาล (Halal Industry Research Institute)”ร่วมกับมหาวิทยาลัยหนิงเซี่ย และการก่อตั้ง “สวนอุตสาหกรรมฮาลาล(Halal Industrial Park)
  • เน้นการวางรากฐาน“การศึกษาและการวิจัย” อันเป็นพื้นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างกันอย่างยั่งยืน

รายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์หนิงเซี่ยเดลี่ ถึงการเยืยนหนิงเซี่ยของนายอับดุลลา บัลดาวีอดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซียและคณะเข้าพบนางหลิว ฮุ่ย ประธานเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ย เพื่อการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองพื้นที่

หนิงเซี่ยและมาเลเซียเป็นสองพื้นที่ที่มีความร่วมมือทางด้านการค้า เศรษฐกิจ การศึกษามาเป็นเวลานาน ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2013 หนิงเซี่ยและมาเลเซียมีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศรวมแล้วกว่า 198 ล้านเหรียญสหรัฐ(ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 212 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว) การเข้าพบผู้นำหนิงเซี่ยในครั้งนี้ของนายบัลดาวี ยังได้หารือเรื่อง (1) ความร่วมมือระหว่าง Malaysia’s Rahim Group และมหาวิทยาลัยหนิงเซี่ย (2) ความร่วมมือมุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านการผลิตและแปรรูปอุตสาหกรรมฮาลาลแบบทวิภาคี กับรัฐบาลท้องถิ่นนครอู๋จง พร้อมทั้ง (3) เร่งการจัดตั้ง “สถาบันวิจัยอุตสาหกรรมฮาลาล (Halal Industry Research Institute)”ร่วมกับมหาวิทยาลัยหนิงเซี่ย และ(4) การก่อตั้ง “สวนอุตสาหกรรมฮาลาล (Halal Industrial Park)” การเดินทางมาของคณะอดีตนายกรัฐมนตรีในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุน โดยนายบัลดาวียังได้กล่าวย้ำว่า “ระยะทางและที่ตั้งระหว่างหนิงเซี่ยและประเทศมาเลเซียห่างไกลกันมาก แต่นั่นมิได้ทำให้การสร้างความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายลดลงแต่เปรียบเสมือนแรงผลักดันระหว่างกัน การร่วมมือกันในระยะยาวนั้นมาเลเซียเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญแก่การศึกษา การที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาลอย่างยั่งยืนนั้นจำเป็นที่จะต้องส่งเสริมและผลักดันความร่วมมือทางด้านการศึกษาและการวิจัยในเชิงลึก”

ไทยอย่ารอช้า มาเลเซีย รุก “หนิงเซี่ย” และ “กานซู”

จากข้อมูลพบว่าหนิงเซี่ยมีการค้ากับประเทศในแถบอาเซียนไม่มากนัก โดยเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมอาศัยอยู่เป็นหลัก มาเลเซียถือเป็นอีกหนึ่งมิตรประเทศที่มีความร่วมมือกับเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยมานาน โดยเฉพาะในด้านการผลิตและแปรรูปอาหารฮาลาที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุน

ในส่วนของประเทศไทยได้เคยมีความร่วมมือในการตั้งศูนย์กระจายสินค้าในนครหยินชวนและอ.หาดใหญ่ รวมไปถึงความร่วมมือระหว่างศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับคณะกรรมการเชื้อชาติและศาสนาแห่งชาติ เหล่านี้ล้วนแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือในเชิงองค์ความรู้ร่วมกัน แต่หากเมื่อพิจารณาในด้านการค้าและการลงทุน กลับพบว่าจำนวนวิสาหกิจไทยที่ส่งออกสินค้าหรือเข้าลงทุนในธุรกิจประเภทดังกล่าวมายังหนิงเซี่ยยังคงมีจำนวนน้อยมาก ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยประกอบหลายประการอาทิ ผู้ประกอบการไทยอาจยังกังวลต่อความมั่นใจในตลาดและศักยภาพของหนิงเซี่ย, ความคุ้นเคยต่อระบบและการรู้จักสภาพตลาดการค้าการลงทุนในด้านสินค้าฮาลาล

อนึ่ง ไทยสามารถใช้ข้อได้เปรียบทางด้านการเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านเกษตรกรรมอาทิ 1) การใช้ประโยชน์จากการเป็นฐานการผลิตและแปรรูปอาหารทะเลของไทยทำการกระจาย จัดจำหน่ายสินค้าอาหารทะเลแช่แข็งเข้ามายังพื้นที่จีนตอนในที่ไร้ทางออกสู่ทะเล 2) การวิจัยและต่อยอดสินค้าฮาลาลแบบคุณภาพ (สินค้าออแกนิกส์) ซึ่งปัจจุบันกระแสรักสุขภาพที่คำนึงถึงความปลอดภัยในอาหารมากกว่าราคาในประชากรจีนสูงขึ้นมาก ชาวจีนชนชั้นกลางที่มีกำลังซื้อสูงขึ้นนิยมเลือกซื้อสินค้านำเข้าจากประเทศที่น่าเชื่อถือ อันหมายถึงโอกาสทางธุรกิจในสินค้าฮาลาลเชิงคุณภาพสามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ตอบสนองได้ทั้งประชากรมุสลิมและประชากรทั่วไปได้อีกด้วย

ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า การดำเนินงานของมาเลเซียกับหนิงเซี่ยไม่ได้มุ่งเน้นเฉพาะความร่วมมือภาคธุรกิจ แต่เน้นที่การสร้างฐานความร่วมมือการศึกษาและการวิจัย ซึ่งเป็นพื้นฐานการพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างกันให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องได้อีกทางหนึ่ง

ข้อมูลเพิ่มเติม

1. http://www.china.org.cn/travel/Ningxia/2013-11/28/content_30730046.htm

2. http://news.xinhuanet.com/local/2013-11/21/c_118231212.htm

3.ไทยอย่ารอช้า!!! มาเลเซียรุกกานซู เร่งผลักดันความร่วมมืออาหารฮาลาล

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน