ล้างบางอุตสาหรรมล้าสมัย! ทางการกว่างซีประกาศกร้าว

29 May 2013

เว็บไซต์ข่าวกว่างซี : ปี 55 เป็นอีกปีที่ทางการกว่างซีประสบความสำเร็จในการกำจัดอุตสาหกรรมล้าสมัยได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า ปูนซีเมนต์ และถ่านหิน

ตามรายงาน ปีที่ผ่านมา กว่างซีสั่งปิดกิจการที่เข้าข่ายอุตสาหกรรมล้าสมัย จำนวน 150 ราย ครอบคลุมอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า 2.4 หมื่นกิโลวัตต์ อุตสาหกรรมเหล็กอัลลอยด์ 3.5 แสนตัน อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ 16.3 ล้านตัน อุตสาหกรรมผลิตกระดาษ 3.1 แสนตัน อุตสาหกรรมผลิตหนัง 8 หมื่นผื่นมาตรฐาน อุตสาหกรรมผลิตแป้งสตาร์ช 4 พันตัน และอุตสาหกรรมถ่านหิน 1.2 แสนตัน

โดยที่ อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ เป็นเป้าหมายหลัก มีจำนวนวิสาหกิจที่ถูกสั่งปิดกิจการสูงสุด จำนวน 100 ราย

เมื่อปีก่อน (ปี 55) ทางการกว่างซีได้ออกประกาศ ข้อคิดเห็นว่าด้วยการควบคุมอย่างเข้มงวดต่อการอนุมัติการลงทุนในโครงการที่มีการสิ้นเปลืองพลังงานสูงและก่อมลพิษสูง รวมทั้งมีการกำหนด บัญชีรายชื่อโครงการลงทุนที่มีการสิ้นเปลืองพลังงานสูงและก่อมลพิษสูงประเภทที่ต้องจำกัดและประเภทที่ต้องกำจัด เพื่อควบคุมอุตสาหกรรมล้าสมัยในกว่างซี

แนวทางการดำเนินการหลัก คือ (1) โครงการเก่า ทางการกว่างซีพร้อมสนับสนุนให้กิจการดังกล่าวปรับปรุงโครงสร้างการผลิตและเทคโนโลยีการผลิต ไม่อนุญาตให้ขยายพื้นที่ทำธุรกิจ หรือสั่งปิดกิจการนั้นๆ และ (2) โครงการใหม่ มีขั้นตอนการตรวจสอบอนุมัติที่เคร่งครัด มีการกำหนดเกณฑ์มาตรฐานการดำเนินธุรกิจที่สูงขึ้น หรือไม่อนุมัติโครงการลงทุนใหม่

BIC ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ภูมิหลังของมาตรการล้างบางอุตสาหกรรมล้าสมัยเป็นแนวทางที่รัฐบาลกลางได้กำหนดตามกระแส อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (เนื่องจากจีนเป็นประเทศที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดในโลก) เพื่อต้องการกำจัดภาคอุตสาหกรรมที่ขาดประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดความสิ้นเปลือง และสร้างมลพิษสูง

มาตรการดังกล่าวยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนการควบคุมยอดการผลิตที่เกินความจำเป็นที่สืบเนื่องจากความกังวลว่าแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอาจก่อให้เกิดการลงทุนในบางภาคอุตสาหกรรมมากเกินไป

BIC จึงขอฝากไว้สำหรับผู้ประกอบการไทยที่สนใจจะเข้ามาทำธุรกิจในกว่างซี (จีน) จะต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่า กิจการของท่านเข้าข่ายธุรกิจที่มีการสิ้นเปลืองพลังงานสูงและก่อมลพิษสูงหรือไม่

ทั้งนี้ คาดหมายว่า มาตรการดังกล่าวจะบังคับใช้อยู่ต่อเนื่อง และอาจจะทวีความเข้มข้นมากขึ้นในอนาคต

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน