รังนกมาเลย์ “คืนชีพ” ในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ แล้วรังนกไทยหล่ะ?

6 Jan 2014

เว็บไซต์ข่าวกว่างซี :  รังนกจากประเทศมาเลเซียมีโอกาสกลับเข้าไปจำหน่ายในตลาดจีนแผ่นดินใหญ่ได้อีกครั้ง หลังรัฐบาลกลางยกเลิกมาตรการระงับการนำเข้ารังนกมาเลย์เป็นเวลานานกว่า 2 ปี จากการเปิดเผยของสำนักงานควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรคเขตฯ กว่างซีจ้วง  (Guangxi Entry-Exit Inspection and Quarantine, 广西出入境检验检疫局) หรือ CIQ

ตามรายงาน เมื่อปี 2554 ทางการจีนสั่งระงับการนำเข้ารังนกจากประเทศมาเลเซีย หลังมีการตรวจพบสารไนเตรทปนเปื้อนในระดับที่เกินมาตรฐาน (สารก่อมะเร็ง) จากการที่ผู้ประกอบการหัวใสใช้อุจจาระของนกนางแอ่นมาบ่มรังนกให้เป็นสีแดงคล้ายรังนกเลือด

จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2555 กระทรวงเกษตรมาเลเซียและสำนักงานควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรคแห่งชาติจี (General Administration of Quality Supervision, Inspection and Quarantine of The PR.C, 国家质检总局) หรือ AQSIQ ได้ร่วมลงนามข้อตกลงว่าด้วยข้อกำหนดด้านการตรวจสอบกักกันโรคและสุขอนามัยของผลิตภัณฑ์รังนกนำเข้าจากประเทศมาเลเซีย

ทั้งนี้ สำนักงาน AQSIQ ได้ประกาศอนุญาติให้ผลิตภัณฑ์รังนกจากประเทศมาเลเซียสามารถนำเข้ามาจำหน่ายในประเทศจีนได้อีกครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2556 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ดี ทางการจีนยังคงดำเนินมาตรการควบคุมการนำเข้ารังนกจากประเทศมาเลเซีย โดยฟาร์มรังนกนางแอ่นจะต้องขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานในประเทศมาเลเซีย และแจ้งลงบันทึกกับหน่วยงานทางฝั่งจีนด้วย

ผู้ประกอบการส่งออกรังนกจะต้องผ่านการตรวจสอบและขึ้นทะเบียนกับคณะกรรมการควบคุมการรับรองคุณภาพของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแห่งชาติจีน (Certification and Accreditation Administration of PR.C., 中国国家认证认可监督管理委员会) หรือ CNCA

ปัจจุบัน มีผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์รังนกในมาเลเซียเพียง 8 รายเท่านั้นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์รังนกสะอาด (ไม่รวมถึงรังนกบรรจุขวด) และมีสิทธิส่งออกรังนกมายังจีนแผ่นดินใหญ่

นอกจากนี้ บรรจุภัณฑจะต้องแสดงรายละเอียดผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน และสอดคล้องกับระเบียบข้อกำหนดว่าด้วยฉลากผลิตภัณฑ์ของทางการจีน (โดยใช้ภาษาจีนและภาษาอังกฤษ) อาทิ ชื่อผลิตภัณฑ์ น้ำหนัก ชื่อและเลขทะเบียนฟาร์มรังนก ชื่อผู้ผลิต ที่อยู่และเลขทะเบียนผู้ผลิต เงื่อนไขการเก็บรักษา และวันเดือนปีที่ผลิต เป็นต้น

BIC ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน ทางการจีนยังคงระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์รังนกจากประเทศไทย ทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียรายได้มูลค่ามหาศาล เนื่องจากจีนเป็นตลาดผู้บริโภคผลิตภัณฑ์รังนกขนาดใหญ่ที่สุดของโลก

ดังนั้น ภาครัฐและภาคเอกชนไทยจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่้นต่อคุณภาพรังนกไทยในสายตาผู้บริโภคชาวจีน โดยเฉพาะด้านมาตรฐานการผลิตและแปรรูปผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องตามระเบียบข้อกำหนดของประเทศผู้นำเข้า เพื่อให้ภาคส่งออกรังนกไทยกลับมาเห็นแสงสว่างอีกครั้ง