นักลงทุนยังมั่นใจ FDI เดือนสิงหาคมเติบโตอย่างต่อเนื่อง
23 Sep 2013การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในจีนยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนสิงหาคม 2556 เป็นการส่งสัญญาณชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการพัฒนาเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และนักลงทุนยังมีความมั่นใจต่อเศรษฐกิจจีนและธุรกิจในจีน
เมื่อวันอังคารที่ 17 กันยายน 2556 กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผย ว่า ในช่วงเดือนมกราคม – สิงหาคม 2556 FDI มีมูลค่า 79,770 ล้านดอลลาร์ สรอ. เติบโตขึ้นร้อยละ 6.37 เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยในเดือนสิงหาคม FDI มีมูลค่า 8,380 ล้านดอลลาร์ สรอ. เติบโตขึ้นร้อยละ 0.62 เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม ปี 2555 ซึ่งอัตราการเติบโตของสิงหาคม ยังต่ำกว่าเดือนกรกฎาคม ที่ร้อยละ 24.13 และเดือนมิถุนายน ที่ร้อยละ 20.12
อย่างไรก็ตาม นายเสิ่น ตันหยัง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การที่ FDI ในเดือนสิงหาคมมีอัตราการเติบโตต่ำกว่าเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม น่าจะมีสาเหตุมาจากมูลค่าของฐานการคำนวณที่สูงขึ้น ทั้งนี้ เห็นว่าสถิติของเดือนสิงหาคมเพียงเดือนเดียวก็ไม่สามารถบ่งชี้แนวโน้มของ FDI ได้อย่างสมบูรณ์
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2556 เป็นต้นมา มูลค่า FDI ในแต่ละเดือนยังคงรักษาแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมกราคม – สิงหาคม เติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.37 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงกำลังการแข่งขันของเศรษฐกิจและสภาพการลงทุนของจีนที่ได้รับความยอมรับจากนักลงทุนต่างชาติมากขึ้น นายเสิ่น ตันหยังกล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน ทางการจีนไม่ได้เน้นอัตราการเติบโต แต่เน้นคุณภาพในการใช้เงินทุนจากต่างประเทศมากกว่า
การลงทุนโดยตรงในจีนในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาส่วนใหญ่มาจาก 10 ประเทศเอเชีย/เขตเศรษฐกิจ (ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย และเกาหลีใต้) โดยมูลค่า FDI จากประเทศ/เขตเศรษฐกิจข้างต้นนี้อยู่ที่ 68,632 ล้านดอลลาร์ สรอ. เติบโตร้อยละ 7.87 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมูลค่า FDI จากไทยในจีนอยู่ที่ 472 ล้านดอลลาร์ สรอ. เติบโตร้อยละ 516.94 นอกจากนี้ สถิติยังชี้ให้เห็นว่า FDI จากสหภาพยุโรปเพิ่มขึ้นร้อยละ 24.27 อยู่ที่ 5,437 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขณะที่ FDI จากสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.04 อยู่ที่ 2,497 ล้านดอลลาร์ สรอ.
นาย Ge Shunqi รองหัวหน้าจากสถาบันเศรษฐกิจของมหาวิทยาลัยหนานคายให้ความคิดเห็นว่า จีนได้ปรับปรุงโครงสร้างเงินทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาจีน โดยภาคบริการได้แซงหน้าภาคการผลิตเป็นตัวหลักในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในจีน ภายใต้นโยบายการปฏิรูปและเปิดประเทศของจีน ภาคการบริการ ซึ่งรวมถึงโทรคมนาคม การศึกษาและการท่องเที่ยวจะกลายเป็นแรงขับเคลื่อนหลักในการส่งเสริมการลงทุนในจีนของต่างชาติ
นายเสิ่น ตันหยังกล่าวว่า ในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา การลงทุนโดยตรงของจีนในต่างประเทศยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่สูง อีกไม่นาน มูลค่าการลงทุนโดยตรงในต่างประเทศของจีนจะมากกว่ามูลค่าการลงทุนโดยตรงในจีนของต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ทางการจีนยังคาดหวังว่าการส่งออกและการนำเข้าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น