นักธุรกิจต้องตามให้ทัน—เมื่อความต้องการและรูปแบบของการบริโภคของชาวจีนกำลังเปลี่ยนไป

30 May 2013

ถึงแม้ว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมการผลิตจีนในปัจจุบันจะมีการชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง แต่อัตราการบริโภคของชาวจีนที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้น ได้ช่วยให้การพัฒนาทางเศรษฐกิจของจีนยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจ จากผลสำรวจต่างๆ พบว่า ความต้องการผู้บริโภคชาวจีนมีความหลากหลายและมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อสินค้าชั้นดีเพิ่มมากขึ้น

ในอดีต ผู้บริโภคชาวจีน นิยมเลือกซื้อสินค้าเฉพาะที่มีความจำเป็นต้องใช้จริงๆ เท่านั้น แต่ในสมัยนี้ รูปแบบการเลือกซื้อสินค้านั้นได้เปลี่ยนแปลงไป ชาวจีนเริ่มหันมาสู่การจับจ่ายใช้สอยเพื่อแสวงหาความตื่นเต้นในชีวิต หรือเพื่อเป็นการให้รางวัลแก่ตนเองหลังจากที่ต้องเหน็ดเหนื่อยจากการทำงาน หรือเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตนให้ดียิ่งขึ้น

คุณสวี่ ลี่ผิง รองประธานบริษัท Nielsen ในประเทศจีนกล่าวว่า ปัจจุบัน ผู้บริโภคชาวจีนมีแนวโน้มที่จะเลือกซื้อสินค้าชั้นดีมากขึ้น โดยในปี 2555 ยอดจำหน่ายสินค้าชั้นดีครองสัดส่วนร้อยละ 55 ของยอดจำหน่ายทั้งหมดของสินค้าประเภทยาสีฟันและคุกกี้ และครองสัดส่วนร้อยละ 49 ของยอดจำหน่ายทั้งหมดของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าและผลิตภัณฑ์ประเภทนม นอกจากนี้ ผลสำรวจของบริษัท Nielsen ยังชี้ว่า เมื่อเทียบกับผู้บริโภคที่มีรายได้สูงแล้ว ผู้บริโภคชาวจีนที่มีรายได้ปานกลางมีการจับจ่ายเพื่อซื้อสินค้าชั้นดีมากกว่ากลุ่มที่มีรายได้สูง โดยจากผลสำรวจตลาดรถยนต์จีนพบว่า ร้อยละ 47 ของผู้บริโภคที่มีรายได้ปานกลาง (เงินเดือนระหว่าง 10,000 – 30,000 หยวน/เดือน) ยอมเก็บเงินเพื่อซื้อรถยนต์หรูที่มีราคาตั้งแต่ 5 แสนหยวนขึ้นไป

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ การขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนมีแนวโน้มชะลอตัว แต่นายเซิ่ง หลายยู่น โฆษกสำนักงานสถิติแห่งชาติจีนยังคง “ใจเย็น” ต่อแนวโน้มดังกล่าว โดยกล่าวว่า เศรษฐกิจของจีนนั้น ยังคงแข็งแกร่ง เนื่องจากรูปแบบการบริโภคของจีนกำลังเปลี่ยนจากการบริโภคเพื่อการดำรงชีวิตที่เน้นการซื้อหาอาหารและเครื่องนุ่งห่มเป็นหลัก และก้าวเข้าสู่รูปแบบของการบริโภคเพื่อการพัฒนาและการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยผ่านการใช้จ่ายเงินเพื่อที่อยู่อาศัย การศึกษาและการท่องเที่ยว ฯลฯ ดังจะเห็นได้จากยอดการจำหน่ายรถยนต์และบ้านพักอาศัยของจีน รวมถึงการใช้จ่ายในด้านการศึกษาและการท่องเที่ยว ซึ่งมีอัตราการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อเทียบกับในอดีตที่ผ่านมา

นอกจากนี้ จากผลสำรวจของบริษัท Nielsen ยังพบว่า ร้อยละ 21 ของกลุ่มตัวอย่างนั้น มีแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายในสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มในช่วง 3 เดือนข้างหน้านี้ และอีกประมาณร้อยละ 15 มีแผนที่จะเพิ่มการใช้จ่ายในสินค้าประเภทอื่นๆ นอกเหนือไปจากอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งหมายความว่าในอนาคตข้างหน้านี้ การบริโภคภายในประเทศจะเป็นแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจจีนให้เดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน