ธนาคารกลางจีนเผยผลสำรวจ ชาวจีนเกือบครึ่งยังเลือกเพิ่มการออมเงิน
21 Mar 2013เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางจีนได้เปิดเผยผลการสำรวจแนวโน้มการออม การลงทุน และการใช้จ่ายประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 โดยสำรวจจากผู้ฝากเงิน 2 หมื่นราย ผลการสำรวจชี้ว่า ร้อยละ 44.5 ของผู้รับการสำรวจมีแนวโน้มจะออมเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าร้อยละ 2.6 และมีร้อยละ 17.9 มีแนวโน้มจะใช้จ่ายมากขึ้น ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าร้อยละ 1.5 ขณะที่ ร้อยละ 37.6 เลือกตอบว่าจะนำเงินไปลงทุนมากขึ้น ซึ่งเพิ่มจากไตรมาสก่อนหน้าร้อยละ 4.1
สำหรับช่องทางการลงทุนยอดนิยมของผู้ตอบแบบสอบถามนั้น อันดับแรกได้แก่ กองทุนและผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภทต่างๆ คิดเป็นร้อยละ 25.9 อันดับสอง การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ร้อยละ 19.9 และอันดับสาม ได้แก่ การลงทุนในพันธบัตร ร้อยละ 14.6 ส่วนในด้านการใช้จ่ายนั้น ร้อยละ 14.7 ตอบว่า มีแนวโน้มจะซื้อรถยนต์ในอีกสามเดือนข้างหน้า ลดลงร้อยละ 0.7 จากไตรมาสก่อนหน้า ร้อยละ 24.8 มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูง อาทิ เครื่องใช้ไฟฟ้า เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าฟุ่มเฟือย ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าร้อยละ 1.8 และร้อยละ 24.6 มีแนวโน้มใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นการใช้จ่ายด้านเดียวที่สูงขึ้นกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่ร้อยละ 1.5
นอกจากนี้ การสำรวจดังกล่าวยังสอบถามความคิดเห็นต่อราคาบ้านพักอาศัย โดยร้อยละ 68 ตอบว่า ราคาบ้านในปัจจุบัน “สูงจนยากจะยอมรับได้” เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.3 จากไตรมาสก่อนหน้าและร้อยละ 0.3 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ร้อยละ 30.1 กล่าวว่าราคาบ้านอยู่ในขั้น “สามารถรับได้” มีเพียงร้อยละ 2 ที่เห็นว่าราคาบ้านอยู่ในระดับ “น่าพอใจ” การสำรวจครั้งนี้ยังชี้อีกว่า ร้อยละ 34.4 ของผู้รับการสำรวจคาดว่าราคาบ้านจะปรับสูงขึ้นอีก และร้อยละ 14.8 วางแผนจะซื้อบ้านในไตรมาสหน้านี้
