ทางการจีนทำคลอด “บัญชีรายชื่ออุตสาหกรรมส่งเสริมสำหรับนักลงทุนต่างชาติฉบับใหม่” กว่างซีเน้นสนับสนุนอุตสาหกรรมแปรรูปสินแร่เชิงลึก

17 May 2013

สำนักข่าวซินหัว-กรุงปักกิ่ง : ทางการจีนได้ปรับปรุงรายละเอียดใน บัญชีรายชื่ออุตสาหกรรมที่ให้สิทธิพิเศษสำหรับการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตก คัดทิ้งบางอุตสาหกรรม และเน้นส่งเสริมอุตสาหกรรมสมัยใหม่พิเศษ

เริ่มมีผลบังคับใช้ 10 มิถุนายน 2556 นี้

บัญชีดังกล่าว ซึ่งใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า the Catalogue of Priority Industries for Foreign Investment in the Central-Western Region(amended in 2013) เป็นผลงานร่วมของคณะกรรมการธิการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (National Development and Reform Commission, 国家发改委) และกระทรวงพาณิชย์จีน

ในครั้งนี้ หัวใจสำคัญของการปรับปรุงบัญชีรายชื่อฯ ก็เพื่อสนับสนุนและดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตกซึ่งเป็นพื้นที่ด้อยพัฒนาของประเทศ โดยหวังอาศัยความได้เปรียบจากทรัพยากรเฉพาะ พื้นฐานอุตสาหกรรม และแรงงานเป็นตัวผลักดันการพัฒนาทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงระเบียบให้เอื้อต่อการบังคับให้อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้น ประกอบการที่สอดคล้องกับเงื่อนไขด้านการรักษาสิ่งแวดล้อม ผลักดันการใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรเชิงบูรณาการ ตลอดจนยกระดับการพัฒนาอุตสาหกรรมบริการ

บัญชีฯ ฉบับปรับปรุงนี้ มีรายละเอียดกว่า 500 รายการ (เพิ่มขึ้นจากฉบับก่อน 173 รายการ) ครอบคลุมหลายกลุ่มอุตสาหกรรมใน 22 มณฑล(หรือเทียบเท่า) ทางภาคกลางและภาคตะวันตกของประเทศจีน โดยประเภทอุตสาหกรรมส่งเสริมในแต่ละมณฑลจะมีความคล้ายคลึงหรือแตกต่างกันไปบ้างขึ้นอยู่กับจุดแข็งของแต่ละมณฑล

สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใหม่นอกเหนือจากอุตสาหกรรมการผลิตแบบดั้ังเดิมแล้ว ก็คือ อุตสาหกรรมบริการ โดยเฉพาะการพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่อย่าง Cloud Computing, Internet of Things (IOT) และ Mobile Internet

สำหรับเขตฯ กว่างซีจ้วง มีอยู่ 21 รายการ อาทิ อุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ และอุตสาหกรรมแปรรูปเชิงลึกแร่โลหะ อาทิ สังกะสี (Zinc) ดีบุก สตีเบียม (Stibium) ทังสเตน (Tungsten) และแมงกานีส เป็นต้น

BIC ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า บัญชีฯ ดังกล่าวมีการประกาศใช้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2543 ต่อในมีการรายละเอียดครั้งแรกในปี 2547 และครั้งที่ 2 ในปี 2551 (ประกาศบังคับใช้เมื่อ 1 ม.ค.2552) และครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 3 ของการปรับปรุงรายละเอียด

ปี 55 การลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนต่างชาติในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันตกของจีนมีมูลค่า 19,217 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 17.2 ของการลงทุนทั้งประเทศ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 51 (ปรับปรุงครั้งก่อนหน้า) พบว่า มูลค่าการลงทุนมีการเพิ่มขึ้นร้อยละ 36.7 และสัดส่วนขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 จุด

BIC ขอฝากทิ้งท้ายว่า สำหรับนักลงทุนไทยที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในประเทศจีน จำเป็นต้องศึกษารายละเอียดปลีกย่อยเกี่ยวกับข้อกำหนดต่างๆ ของการลงทุนเพื่อรับสิทธิประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว

เนื่องจากธุรกิจบางประเภทมีข้อกำหนดเกี่ยวกับประเภทกิจการ หรือสัดส่วนการถือครองหุ้น ซึ่งแม้ว่าจีนต้องการสนับสนุนและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ แต่จีนก็ยังคงควบคุมการลงทุนจากต่างประเทศอยู่เช่นเดียวกัน

ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมแปรรูปแร่ของกว่างซีจะต้องดำเนินกิจการในลักษณะธุรกิจร่วมทุนจีน-ต่างชาติ (Equity Joint Venture)  หรือธุรกิจร่วมประกอบการจีน-ต่างชาติ (Cooperative Joint Venture) เท่านั้น (ต่างชาติไม่สามารถลงทุนเองได้ 100%)

หรือธุรกิจขนส่งทางน้ำ และธุรกิจการผลิตเชื้อเพลิงเหลวชีวภาพจากพืช (เอทานอล ไบโอดีเซล) มีข้อกำหนดว่าฝ่ายจีนต้องเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ (ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 51) เป็นต้น

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน