ทางการกว่างซีกำหนดนโยบายสนับสนุนและพัฒนาอุตสาหกรรมรีไซเคิลของเมืองอู๋โจว
17 May 2013เว็บไซต์ข่าวอ่าวเป่ยปู้ : เมืองอู๋โจวของกว่างซีกำลังเกาะกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อม พร้อมให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมรีไซเคิลซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญสาขาหนึ่งในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
เมื่อไม่นานมานี้ ทางการกว่างซีได้ออกประกาศว่าด้วย “ระเบียบการดำเนินการบริหารจัดการทรัพยากรนำกลับมาใช้ใหม่เขตฯ กว่างซีจ้วง” เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรหมุนเวียน และสร้างระเบียบมาตรฐานการดำเนินธุรกิจรีไซเคิล
ในระเบียบดังกล่าวมีการระบุถึงนโยบายต่างๆ เพื่อให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมรีไซเคิล เช่นการที่ภาครัฐให้การสนับสนุนและส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีในการจัดการกับขยะรีไซเคิล รวมถึงการใช้ประโยชน์จากเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาและใช้ประโยชน์จากขยะรีไซเคิล ผ่านช่องทางต่างๆ
การส่งเสริมให้องค์กรหรือส่วนบุคคลดำเนินการลงทุนโครงการใช้ประโยชน์เชิงบูรณาการจากขยะรีไซเคิล ภายใต้หลักการ “ผู้ลงทุนได้รับผลประโยชน์โดยตรง”
ทั้งนี้ ระเบียบได้กำหนดให้ผู้ลงทุนในภาคธุรกิจดังกล่าวต้อง (1) ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานพาณิชย์ท้องถิ่นภายใน 30 วัน หลังจากได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ และ (2) ลงบันทึกกับสถานีตำรวจท้องถิ่น เพื่อขอรับใบรับรองการลงบันทึก ภายใน 15 วัน หลังจากได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการ
นอกจากนี้ ผู้ลงทุนจะต้องตั้งแฟ้มข้อมูลการรับซื้อวัถุดิบรีไซเคิล (ระยะเวลาจัดเก็บแฟ้มข้อมูลอย่างน้อย 2 ปี) และระบบข้อมูลธุรกิจการรับซื้อเศษโลหะเหลือทิ้ง พร้อมนำส่งข้อมูลเพื่อลงบันทึกแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (สำนักงานพาณิชย์และสถานีตำรวจท้องถิ่น) ตามกำหนดเวลา
ในเขตฯ กว่างซีจ้วง “เมืองอู๋โจว” ได้รับการกำหนดบทบาทเป็น “ฐานอุตสาหกรรมรีไซเคิล” ของมณฑล
เมืองอู๋โจวมีการจัดตั้ง “นิคมอุตสาหกรรมแปรรูปทรัพยากรรีไซเคิล” (Wuzhou Reycling Resources Processing Park, 梧州进口再生资源加工园区) และมีการนำเข้าขยะรีไซเคิลจำนวนมากจากต่างประเทศ
ปัจจุบัน นิคมแห่งนี้มีวิสาหกิจเข้าจัดตั้งกิจการแล้วกว่า 40 ราย ช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.56 มีการนำเข้าขยะรีไซเคิลจากต่างประเทศคิดเป็นน้ำหนัก 1.04 แสนตัน ส่วนใหญ่เป็นทรัพยากรประเภทที่ได้รับการส่งเสริมของประเทศ อาทิ เศษทองเหลือ เศษเหล็ก และเศษอลูมิเนียม
อย่างไรก็ดี เมืองอู๋โจวต้องประสบปัญหาขยะปลอมปน (ขยะอิเล็กทรอนิกส์) จากการนำเข้าขยะรีไซเคิลเหล่านี้ ทำให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรต้องเพิ่มมาตรการกวนขัน เพื่อป้องกันไม่ให้ขยะเป็นพิษหลุดรอดเข้ามา และสร้างปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเป็นภัยคุกคามคุณภาพชีวิตของประชาชน
มาตรการสำคัญ เริ่มตั้งแต่การผ่านเครื่องชั่งน้ำหนัก การติดตั้งเครื่องเอ็กเรย์ตู้สินค้า และการส่งเจ้าหน้าที่ตรวจตู้สินค้าก่อนจะอนุญาตให้ตู้สินค้าผ่านเข้าสู่เขตนิคมฯ หากพบสิ่งผิดปกติทางเจ้าหน้าที่จะทำการกักตู้สินค้า และดำเนินการต่อสินค้าตามเห็นสมควร
BIC ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน จีนให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ช่วงหลายปีมานี้ ภาครัฐได้ดำเนินการกำจัดอุตสาหกรรมล้าสมัย และอุตสาหกรรมสิ้นเปลืองพลังงานอย่างต่อเนื่อง
แนวโน้มการลงทุนในจีนเริ่มปรับเปลี่ยนสู่ “อุตสาหกรรมสีเขียว” ดังนั้น ผู้ประกอบการไทยที่สนใจเข้ามาลงทุนในจีนจะต้องคำนึงถึงประเด็นดังกล่าวเป็นอันดับแรก ตระเตรียมความพร้อม ติดตามความเคลื่อนไหว ศึกษากฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง การลงทุนในจีนคงประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
– ใครทิ้ง อู๋โจวเก็บ! ธุรกิจขยะรีไซเคิล ดันยอดการค้าต่างประเทศของเมือง ขยายตัวเป็นอันดับ 2 ของกว่างซี (1 กุมภาพันธ์ 2556)