ตลาดภาพยนตร์ครึ่งปีแรกทำรายได้ทะลุ 10,900 ล้านหยวน ภาพยนตร์จีนกวาดร้อยละ 60

4 Jul 2013

ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 ตลาดภาพยนตร์จีนมีความเฟื่องฟูเป็นอย่างยิ่ง โดยทั่วประเทศสร้างรายได้ทะลุ 10,900 ล้านหยวน เพิ่มขึ้นจาก 8,070 ล้านหยวนในช่วงเดียวกันปีก่อน นอกจากนี้ ในครึ่งปีแรกมีภาพยนตร์ทั้งหมด 26 เรื่องที่สร้างรายได้มากกว่า 100 ล้านหยวน โดยเป็นภาพยนตร์จีนเองและภาพยนตร์นำเข้าจากฮอลลีวูดจำนวน 13 เรื่องเท่ากัน ทั้งนี้ ภาพยนตร์จีนทำรายได้ 6,500 ล้านหยวน ครองสัดส่วนแบ่งตลาดมากกว่าร้อยละ 60 และนำหน้าภาพยนตร์นำเข้า

ย้อนกลับไปมองครึ่งปีแรกของปี 2555 กระแสความนิยมที่มีต่อภาพยนตร์ฮอลลีวูดในจีนสร้างแรงกดดันต่อภาพยนตร์ที่จีนสร้างเองอย่างมหาศาล แต่ในครึ่งปีแรกปีนี้ รายได้จากภาพยนตร์จีนเรื่อง “Journey to the West: Conquering the Demons” “So Young” “American Dreams in China” “Finding Mr. Right” ต่างทะลุ 500 ล้านหยวน และภาพยนตร์จีนเรื่อง “Tiny Times” ที่กำลังฮิตในปัจจุบันก็จะสามารถทำรายได้ได้มากกว่า 500 ล้านหยวนเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพยนตร์เรื่อง “Lost in Thailand” (เริ่มฉายต้นเดือน ธ.ค. 55) และ “Journey to the West: Conquering the Demons” ซึ่งได้สร้างรายได้มากกว่า 1,200 ล้านหยวนทั้งคู่ พร้อมกับทำลายสถิติสูงสุดของรายได้ภาพยนตร์จีน สังเกตได้ว่า ภาพยนตร์จีนดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์ทุนต่ำหรือปานกลาง แต่มีเนื้อเรื่องที่จับใจผู้ชมชาวจีน ทำให้กลายเป็นประเด็นร้อนที่พูดคุยกันในสังคมจีนทั้งก่อนและหลังเข้าฉาย จึงสร้างรายได้ได้มากยิ่งขึ้น

หากเทียบกับภาพยนตร์ฮอลลีวูด ซึ่งในครึ่งปีแรกปีนี้ มีเพียงเรื่องเดียว (Iron Man 3) ที่สร้างรายได้มากกว่า 500 ล้านหยวน ภาพยนตร์เรื่องอื่นๆ เช่น “007: Skyfall” “The Hobbit: An Unexpected Journey” “Star Trek Into Darkness” “Man of Steel” กลับไม่ได้รับความนิยมเเหมือนเช่นเคย นักวิเคราะห์เห็นว่า แม้ภาพยนตร์ฮอลลีวูดจะมีคุณภาพการถ่ายทำที่ดีกว่า แต่ภาพยนตร์ฮอลลีวูดที่จีนนำเข้ามาส่วนใหญ่เป็นภาพยนตร์ประเภท Sci-fi ที่มีเนื้อเรื่องคล้ายคลึงกันมาก ขาดเสน่ห์อย่างที่ “Avatar” และ “Transformers”มี จึงเป็นโอกาสที่ภาพยนตร์จีนจะพัฒนาและช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดได้

ในด้านบริษัทจัดจำหน่ายภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของจีน China Film Group Corporation หรือ CFGC ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจยังเป็นบริษัทนำร่องและครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุด รองลงมาได้แก่ Beijing Enlight Pictures Co.,Ltd และ Huayi Bros. Media Group ซึ่งเป็นบริษัททุนภาคเอกชนที่ครองส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 29 และร้อยละ 27 ตามลำดับ เป็นที่คาดการณ์ว่า ในช่วงครึ่งปีหลังภาพยนตร์จีนจะออกสู่ตลาดพร้อมกันเพื่อต้อนรับการปิดเทอมฤดูร้อน ช่วงวันชาติจีน และช่วงเทศกาลตรุษจีน จึงเป็นไปได้ว่าภาพยนตร์จีนจะสามารถรักษาแนวโน้มการเติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ต่อไป และอาจสร้างรายได้ถึง 23,000 ล้านหยวนตลอดทั้งปีนี้

ปัจจุบัน ตลาดภาพยนตร์ของสหรัฐฯ เป็นตลาดภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีมูลค่าราว 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การพัฒนาอย่างรวดเร็วของตลาดภาพยนตร์จีนลดช่องว่างระหว่างตลาดภาพยนตร์จีนกับสหรัฐฯ ให้น้อยลงไปเรื่อยๆ และคาดว่าตลาดภาพยนตร์จีนจะแซงหน้าสหรัฐฯ ในปี 2561 สำหรับภาพยนตร์ไทยนั้น ชาวจีนโดยเฉพาะวัยรุ่นมีความคุ้นเคยกับภาพยนตร์ไทยเป็นอย่างดี โดยในโพสต์บาร์ของเว็บไซต์ www.baidu.com ซึ่งเป็น search engine ที่ใหญ่ที่สุดของจีน ภายใต้หัวข้อ “ภาพยนตร์ไทย” พบว่ามีคนจีนเข้าไปติดตามข่าวภาพยนตร์ไทยหรือดาราไทยถึง 278,000 คนต่อเดือน ที่ผ่านมาเนื่องจากทางการจีนจำกัดโควต้าการนำเข้า บวกกับภาพยนตร์บางประเภทผ่านเซนเซอร์ค่อนข้างยาก หนังไทยที่จีนนำเข้าจึงมีจำนวนน้อยมาก ปัจจุบันหนังไทยหรือดาราไทยมีช่องทางเข้ามาในจีนและสัมผัสกับผู้ชมชาวจีนโดยผ่านเทศกาลภาพยนตร์ เช่น เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติปักกิ่ง และเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเซี่ยงไฮ้ การแลกเปลี่ยนระหว่างผู้จัดทำหนังไทยกับผู้จัดทำหนังจีนที่มีมากขึ้น จะเป็นโอกาสที่ก่อให้เกิดความร่วมมือทั้งสองฝ่ายในอนาคตอันใกล้นี้ และภาพยนต์ไทยจะได้เข้าไปสร้างความนิยมในตลาดจีนได้มากขึ้น

เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในจีน ณ นครเฉิงตู

ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ข่าวยอดนิยม

อ่านข่าวอื่น

BACK TO TOP

กลับขึ้นด้านบน